ฝ่าวิกฤตอาหาร ทุนผูกขาดทรัพยากร
การประชุมในหัวข้อ ‘ต้องรอด ชุมชนร่วมใจฝ่าวิกฤตความมั่นคงทางอาหาร’ โดย นายสุรินทร์ กิจนิตย์ชีว์ คณะกรรมการบริหารแผนคณะที่ 5 สสส. ได้กล่าวปาฐกถา เรื่อง ‘พลังชุมชน คือ จุดเริ่มต้นของการรักษาฐานทรัพยากรและความมั่นคงทางอาหาร’ ว่า ปัจจุบันมีสัญญาณหลายประการที่ส่อให้เห็นถึงแนวโน้มความมั่นคงอาหารไทยที่อาจล่มจม ทั้งแง่การบริโภคอาหารที่ผู้บริโภคคุ้นชินกับวัฒนธรรม การซื้อมากกว่าปรุงรับประทานเอง
ขณะที่การผลิตอาหารก็ส่อเค้าวิกฤต เนื่องจากแหล่งอาหารตามธรรมชาติ เช่น ป่าไม้ ชายฝั่ง ถูกทำลาย เกษตรกรผู้ผลิตอาหารถูกแย่งชิงทรัพยากรที่ดินโดยกลุ่มทุนผูกขาด หรือตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบในระบบ เกษตรพันธะสัญญาที่ก่อหนี้สินจึงต้องตั้งคำถามว่า ขณะนี้ไทยกำลังเป็นไทยด้านอาหาร หรือเข้าสู่ความเป็นทาสของทุน อย่างไรก็ดี สิ่งที่จะเปลี่ยนแปลงภาวะวิกฤตดังกล่าวได้ คือการรวมพลังของชุมชนที่เข้มแข็งผลิตสร้างอาหารปลอดภัยได้จากการพึ่งตนเอง และร่วมกันขับเคลื่อนแนวทางดังกล่าวสู้กับระบบทุน ซึ่งจะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงทางนโยบายต่อไป
นายธีรพล โพธิ์พา ชุมชนต้นแบบในการอนุรักษ์และฟื้นฟูข้าวพื้นบ้าน จ.อุบลราชธานี กล่าวว่า ปัญหาใหญ่ของเกษตรกรส่วนใหญ่โดยเฉพาะชาวนา คือการขาดแคลนเมล็ดพันธุ์เพื่อผลิตอาหาร โดยเมล็ดพันธุ์ส่วนใหญ่ในท้องตลาดถูกขายผูกขาดโดยบรรษัทยักษ์ใหญ่ ซึ่งเป็นเมล็ดพันธุ์ลูกผสมที่เกษตรกรไม่สามารถเก็บไว้ทำพันธุ์ต่อได้ ขณะที่หน่วยงานรัฐ เช่น กรมการข้าว สนับสนุนเมล็ดพันธุ์ไม่พอต่อความต้องการ ชาวบ้านโดยเครือข่ายเมล็ดพันธุ์พื้นบ้านจึงรวมตัวกันเก็บและปรับปรุงเมล็ดพันธุ์พื้นบ้านของตนที่มีคุณสมบัติต้านทานโรคและเข้ากับสภาพแวดล้อมท้องถิ่น โดย จ.อุบลฯ สามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวพื้นบ้านไว้ใช้เองถึง 143 สายพันธุ์ ขณะที่เครือข่ายฯ ในหลายจังหวัดภาคเหนือพยายามแก้ปัญหาผูกขาดเมล็ดพันธุ์ผักและอนุรักษ์พืชพื้นบ้านโดยการพัฒนาเมล็ดพันธุ์ออกจำหน่ายในลักษณะวิสาหกิจชุมชนด้วย
ด้านนายวิฑูรย์ เลี่ยนจำรูญ ผู้อำนวยการมูลนิธิชีววิถี กล่าวปิดท้ายว่า ปัจจุบันมีเกษตรกรกว่าร้อยละ 60 ต้องเช่าที่ดินทำกิน ขณะที่อีกกว่า 4 แสนคนต้องอยู่ในระบบเกษตรพันธะสัญญา และร้อยละ 90 ของพันธุ์พืชอยู่ในมือบริษัทเพียงไม่กี่ราย ขณะที่การทำลายทรัพยากรธรรมชาติโดยกลุ่มอุตสาหกรรมและท่องเที่ยวมีให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นสิ่งที่ท้าทายต่อการสร้างความยั่งยืนด้านอาหารขณะนี้ จึงคือการผลักดันให้เกษตรกรและชุมชนที่ผลิตหรือสร้างอาหารคุณภาพด้วยตนเองสามารถต่อสู้กับระบบผูกขาดอาหารโดยกลุ่มทุนที่เข้าครอบครองฐานทรัพยากร ระบบการผลิต การกระจายสินค้า และวัฒนธรรมการบริโภคให้ได้
ที่มา : จดหมายข่าว “มหามวลมิตร” เวทีครบรอบ สสส. 12 ปี ฉบับที่ 1