ที่มา: ผู้จัดการออนไลน์ 

แฟ้มภาพ

          กรมควบคุมมลพิษ เผย สถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 พื้นที่ กทม.-ปริมณฑล อากาศลอยตัวไม่ดีอากาศปิด ปริมาณฝุ่นละอองสูงขึ้น คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ "เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ" (สีส้ม) และ “มีผลกระทบต่อสุขภาพ” (สีแดง) ในบางพื้นที่ ปริมาณฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม. ) รวม 40 พื้นที่ และรณรงค์ชะลอกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่น

          กรมควบคุมมลพิษ รายงาน สถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 จากสภาพอุตุนิยมวิทยาที่อากาศในช่วงเช้า อากาศลอยตัวไม่ดี มีสภาพอากาศปิด ลมสงบ ความเร็วลมส่วนใหญ่ต่ำกว่า 2 กม./ชม. ไม่มีฝน ส่งผลทำให้สถานการณ์ PM2.5 พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล คุณภาพอากาศในภาพรวมอยู่ในระดับ "เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ" (สีส้ม) และ “มีผลกระทบต่อสุขภาพ” (สีแดง) ในบางพื้นที่ ปริมาณฝุ่นละอองเกินค่ามาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม. ) รวม 40 พื้นที่ ปริมาณฝุ่นละอองสูงขึ้นจากเมื่อวาน โดย

          บริเวณพื้นที่ริมถนน คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ “มีผลกระทบต่อสุขภาพ” (สีแดง) 7 สถานี

          พื้นที่ทั่วไป คุณภาพอากาศอยู่ในระดับ “เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ” (สีส้ม) 16 สถานี

          คาดการณ์ในวันพรุ่งนี้ 23 ม.ค. 62 จากการพยากรณ์ และแบบจำลองของกรมอุตุนิยมวิทยา "การลอยตัวของอากาศจะดีขึ้นเล็กน้อย ลมพัดแรงขึ้น” อาจทำให้ฝุ่นละอองมีโอกาสเจือจางลงได้บ้าง คาดการณ์ว่าคุณภาพอากาศจะอยู่ในระดับ “เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ”

          คพ. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้ง กทม. บก.จร. ขนส่ง กระทรวงสาธารณสุข กรมอุตุนิยมวิทยา กระทรวงคมนาคม และผวจ.ปริมณฑล ทั้ง 5 จว. ได้ประชุมหารือแนวทางในการ

          ดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา PM2.5 อย่างต่อเนื่อง เช่น ยกระดับความเข้มข้นของมาตรการตามความรุนแรงของสถานการณ์ ฝุ่นละอองดังนี้

          – บก.จร. เพิ่ม ความเข้มข้น ในการ ดำเนินการตรวจจับควันดำ ทั้ง 20 จุด รอบกรุงเทพฯ เพื่อกันรถควันดำเข้ามาในกรุงเทพมหานคร และจัดจุดตรวจวัด ควันดำ เคลื่อนที่เร็ว 5 ชุด ในพื้นที่ชั้นใน

          – กรมการขนส่งทางบก จัดชุดตรวจการ 16 ชุด ตรวจรถ ขสมก. ณ. วันนี้ ได้ตรวจวัดควันดำ รถขส.มก. กว่า 1,500 คัน และจะตรวจให้ครบ 2,000 คัน ซึ่ง นอกจากนี้จะได้เพิ่มในการตรวจรถ ตามพ.ร.บ.ขนส่ง ให้มากยิ่งขึ้น ร่วมกับทางบก.จร. และคพ.

          – กระทรวงคมนาคม ได้สั่งการให้ รฟม. สั่งชะลอกิจกรรมที่ก่อให้เกิดฝุ่น เช่น ขุดดิน เปิดหน้าดิน เป็นต้น จนถึงวันที่ 22 ม.ค. 62 และร่วมกับ กทม. คืนพื้นผิวจราจร

          – กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เพิ่มการ เปิดหน่วยปฏิบัติการ นอกจากที่ภาคตะวันออก (ระยอง) แล้ว จะได้เพิ่ม ที่ ภาคกลาง (นครสวรรค์) ตั้งแต่วันที่ 21 มกราคม เป็นต้นไป

          – ปภ.สนับสนุนรถฉีดพ่นน้ำแรงดันสูง 8 คัน ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล และสามารถสนับสนุนเพิ่มได้หากท้องที่ร้องขอ

          – กทม. เพิ่มความถี่กวาดล้างทำความสะอาดถนน ควบคุมการก่อสร้าง เร่งคืนพื้นที่ผิวจราจรจากการก่อสร้างรถไฟฟ้า

          – 5 จังหวัดปริมณฑล โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้ออกมาตรการห้ามเผาและตรวจจับควันดำ

          ทั้งนี้ เมื่อหน่วยงานต่างๆได้ดำเนินมาตรการดังกล่าวอย่างเข้มข้นแล้ว จะสามารถบรรเทาปัญหา PM2.5 ได้มาก และคณะทำงาน PM2.5 เชื่อมั่นว่าสถานการณ์ฝุ่นละออง จะไม่รุนแรงมากนักหากสภาพอากาศ เอื้ออำนวยต่อการกระจายตัวของฝุ่นละออง