ผู้สูงอาย..ดูแลช่องปากอย่างไร?
ที่มา : หนังสือคู่มือการดูแลผู้สูงวัยชุด “ช่องปากสุขี”
แฟ้มภาพ
เนื่องจากผู้สูงอายุกลุ่มติดบ้านติดเตียง มีลักษณะและเงื่อนไขของปัญหาช่องปากที่แตกต่างกันอยู่บ้าง ซึ่งควรทำแผนการดูแลสุขอนามัยช่องปากเฉพาะบุคคล โดยประกอบด้วย ขั้นตอนการตรวจประเมิน การทำแผนดูแลประจำวัน การฝึกทักษะผู้ดูแลหรือผู้สูงอายุ และการจัดสภาพแวดล้อม ขั้นตอนทั้งหมดนี้ควรเกิดจากความร่วมมือกันระหว่างทันตบุคลากร ผู้จัดการการดูแลผู้สูงอายุและผู้ดูแลผู้สูงอายุ
ผู้สูงอายุ ติดบ้าน ติดเตียง หรือมีภาวะพึ่งพิง สามารถบ่งตามเงื่อนไขได้ 4 แบบ ดังนี้
1.ผู้สูงอายุกลุ่มช่วยเหลือตัวเองได้ อาจมีข้อจำกัดในการเคลื่อนไหวอยู่บ้าง เช่น มือและแขนขาอ่อนแรงจากปัญหาอัมพฤกษ์อัมพาต แต่ยังแปรงฟันเองได้ และให้ความร่วมมืออย่างดี ควรสนับสนุนให้ผู้สูงอายุกลุ่มนี้แปรงฟันด้วยตัวเอง โดยผู้ดูแลช่วยจัดเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม และช่วยพยุงให้นั่งหรืออยู่ในท่าที่ สะดวกปลอดภัย วิธีทำความสะอาดปาก และฟันของผู้สูงอายุกลุ่มนี้ ไม่ได้แตกต่างจากกลุ่มวัยอื่นๆ
2.ผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองได้บ้าง แต่อาจมีอาการหลงลืม ซึมเศร้า หรือก้าวร้าว ผู้สูงอายุกลุ่มนี้มักไม่ยอมอ้าปาก อาจกัดแปรง กัดหรือทุบตีผู้ดูแล ผู้ดูแลจำเป็นต้องมีเทคนิคด้านการสื่อสารและการจัดการพฤติกรรม เพื่อให้ผู้สูงอายุวางใจและให้ความร่วมมือ หากผู้สูงอายุแปรงฟันเองได้ควรสนับสนุนให้แปรงฟันด้วยตัวเอง หากทำไม่ได้ผู้ดูแลจึงค่อยแปรงให้
3.ผู้สูงอายุที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ผู้ดูแลควรคำนึงเรื่องการจัดท่าทางเพื่อความปลอดภัย และวิธีทำความสะอาดช่องปากและฟันที่เหมาะสม ผู้สูงอายุอาจมีอาการกลืนลำบาก สำลักง่าย หรือมีปัญหาสุขภาพด้านอื่นๆ ร่วมด้วย การทำความสะอาดช่องปาก และฟันเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่จะช่วยกระตุ้นและฟื้นฟูให้ผู้สูงอายุรับประทานอาหารได้ดีขึ้น
4.ผู้สูงอายุอยู่ในระยะเจ็บป่วยรุนแรง ควรทำความสะอาดช่องปากและฟันตามความจำเป็น เมื่อผ่านพ้นอาการขั้นวิกฤตไปแล้วจึงทำความสะอาดตามปกติ ส่วนผู้สูงอายุที่อยู่ในระยะสุดท้ายของชีวิต ควรดูแลแบบประคับประคองเพื่อให้รู้สึกสบาย ไม่เจ็บปวด และมีคุณภาพชีวิตที่ดี