ผลักดันแรงงานนอกระบบ เข้าประกันสังคม ม. 40
ที่มา : สำนักข่าว กรมประชาสัมพันธ์
แฟ้มภาพ
สำนักงานประกันสังคม จับมือกรมการพัฒนาชุมชน บันทึกความร่วมมือเพื่อสนับสนุน ส่งเสริม และผลักดันแรงงานนอกระบบในชุมชน เข้าสู่ระบบประกันสังคม มาตรา 40 พร้อมเดินหน้าขับเคลื่อนในระดับพื้นที่ทั่วประเทศในปี 2562
นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม พร้อมด้วย นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) บูรณาการขับเคลื่อนโครงการ 1 ตำบล 1 หมู่บ้าน ประกันสังคมถ้วนหน้า ณ เวทีกลาง อาคารชาเลนเจอร์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี โดยมี นางสาสอำพันธุ์ ธุววิทย์ รองเลขาธิการสำนักงานประกันสังคม และนายสมหวัง พ่วงบางโพ รองอธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน ร่วมลงนามเป็นสักขีพยาน
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า การลงนามในครั้งนี้ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน จะร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย ขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลสร้างหลักประกันการคุ้มครองทางสังคมให้ครอบคลุมประชาชนกลุ่มแรงงานนอกระบบ หรือผู้ที่ประกอบอาชีพอิสระ โดยจะร่วมกันสนับสนุน ส่งเสริมและผลักดันแรงงานนอกระบบในชุมชน โดยเฉพาะกลุ่ม OTOP กลุ่มสตรี กลุ่มวิสาหกิจชุมชน กลุ่มทอผ้า กลุ่มจักสาน กลุ่มแปรรูปสินค้าเกษตร เป็นต้น เพื่อกระตุ้นให้เห็นถึงความสำคัญในการเข้าสู่ระบบประกันสังคม มาตรา 40 เพื่อให้ได้รับคุ้มครองและเป็นหลักประกันชีวิต โดยจะดำเนินการขับเคลื่อนสร้างความรับรู้ ความเข้าใจผ่านกิจกรรมต่างๆ ร่วมกันในระดับพื้นที่ทั่วประเทศ ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นไป
ขณะที่ กระทรวงแรงงานกำหนดเป้าหมายภายในระยะเวลา 5 ปี ตั้งแต่ปี 2561- 2565 จะต้องมีแรงงานนอกระบบเข้าเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 รายใหม่เพิ่มขึ้นเป็น 5 ล้านคน จากปัจจุบันมีจำนวน 2.8 ล้านคน
ด้านนายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวว่า แรงงานนอกระบบที่ทำงานในชุมชนและอยู่ในเครือข่ายของกรมการพัฒนาชุมชนมีจำนวนหลายล้านคน ซึ่งคิดว่ากลุ่มดังกล่าวมีกำลังความสามารถในการส่งเงินสมทบของสำนักงานประกันสังคม ที่มีทางเลือกทั้ง 3 ทางเลือก ตั้งแต่ 70 บาท 100 บาท และ 300 บาท นอกจากจะส่งเสริมด้านการค้าขาย กรมการพัฒนาชุมชนเล็งเห็นความสำคัญที่ต้องส่งเสริมความคุ้มครองทางสังคมในระบบประกันสังคมไปพร้อมกับการส่งเสริมด้านการค้าขาย ด้านอาชีพ เพื่อให้แรงงานนอกระบบในชุมชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีความยั่งยืน
จึงขอให้ทั้งสองหน่วยงานร่วมกันขับเคลื่อนความร่วมมือครั้งนี้ ทำให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จะทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อสั่งการให้ทั้ง 2 หน่วยงานในระดับจังหวัด บูรณาการขับเคลื่อนการทำงานร่วมกันต่อไป