ผลตรวจ “บ่อน้ำร้อน” ปลอดภัย
ที่มา : MGR Online
แฟ้มภาพ
กรมวิทย์ เผยผลตรวจ "บ่อน้ำร้อนธรรมชาติ" 4 จังหวัดภาคใต้ตอนบน พบมีคุณภาพดี ปลอดภัยต่อการท่องเที่ยว แต่พบปนเปื้อนเชื้อจุลินทรีย์จากสิ่งแวดล้อม ขณะที่บ่อแช่พบเชื้อสูงตามจำนวนการใช้ แนะชำระร่างกายก่อนใช้บริการ หมั่นทำความสะอาดบ่อแช่
นพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวว่า บ่อน้ำร้อนธรรมชาติเกิดจากน้ำใต้ดินที่ถูกความร้อนและแรงอัดภายใต้พื้นโลกไหลขึ้นมาตามรอยเลื่อน น้ำจะมีคุณสมบัติตามปริมาณแร่ธาตุที่ละลายอยู่ในชั้นหินที่น้ำไหลผ่าน ดังนั้น ความร้อนและแร่ธาตุจึงเป็นองค์ประกอบหลักที่สำคัญในการกำหนดคุณภาพของบ่อน้ำร้อนบำบัดรักษาหรือเชิงสุขภาพในพื้นที่ภาคใต้พบแหล่งน้ำพุร้อน จำนวน 33 แหล่ง อุณหภูมิน้ำร้อนที่ผิวดินอยู่ระหว่าง 40-80 องศาเซลเซียส แต่ละพื้นที่ได้มีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมของบ่อ และส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงสุขภาพประเภทน้ำพุร้อนธรรมชาติ ดังนั้น เพื่อเป็นการเฝ้าระวังและคุ้มครองผู้บริโภค ในปี 2560-2561 ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11 สุราษฎร์ธานี จึงได้สุ่มสำรวจคุณภาพน้ำจากบ่อน้ำร้อนในพื้นที่ภาคใต้ตอนบน คือ ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช โดยเก็บตัวอย่างน้ำจากบ่อน้ำร้อนต้นกำเนิด จำนวน 26 แหล่ง
นพ.โอภาส กล่าวว่า ผลการตรวจวิเคราะห์ทางกายภาพและทางเคมี ส่วนใหญ่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานน้ำบริโภคมีเพียงบางแห่งปริมาณฟลูออไรด์ที่เกินเกณฑ์กำหนด (2 มิลลิกรัมต่อลิตร) ดังนั้น การนำไปผลิตเป็นน้ำดื่มประเภทน้ำแร่ธรรมชาติในภาชนะบรรจุที่ปิดสนิท ต้องแสดงคำเตือนในฉลากว่า ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 7 ปี ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เนื่องจากมีปริมาณฟลูออไรด์เกินเกณฑ์กำหนด อาจทำให้ผิวสีฟันตกกระได้ ส่วนเรื่องเชื้อจุลินทรีย์ในบ่อน้ำร้อนนั้น หากเป็นบ่อต้นกำเนิดสามารถพบได้จากการปนเปื้อนของสิ่งแวดล้อมและการดูแลรักษาความสะอาดของบ่อน้ำที่ไม่เหมาะสม ดังนั้น การทำความสะอาดบ่อและบริเวณโดยรอบ การป้องกันเศษใบไม้ ฝุ่นละอองตกหล่นลงไปในบ่อ การป้องกันน้ำฝนหรือน้ำผิวดินชะล้างสิ่งสกปรกลงไปปนเปื้อนในบ่อ จะสามารถลดปริมาณเชื้อจุลินทรีย์ลงได้
นพ.โอภาส กล่าวว่า ส่วนน้ำในบ่อแช่ก่อนเปิดให้ผู้ใช้บริการลงแช่ พบเชื้อจุลินทรีย์สูงกว่าน้ำในบ่อน้ำร้อนต้นกำเนิด และตรวจพบปริมาณมากขึ้นหลังการใช้ อีกทั้งยังพบกลุ่มเชื้อจุลินทรีย์ก่อโรคที่อาจมาจากผิวหนังของผู้มาใช้บริการ จึงควรจะมีการปรับปรุงกระบวนการให้เหมาะสม เช่น การชำระล้างร่างกายให้สะอาดก่อนใช้บริการ การปรับอัตราการไหลของน้ำหรือระยะเวลาการเปลี่ยนถ่ายน้ำ การทำความสะอาดบ่อพักน้ำและบ่อแช่ ก่อนและหลังการใช้อย่างสม่ำเสมอ เป็นต้น
“น้ำจากบ่อน้ำร้อนธรรมชาติในพื้นที่ 4 จังหวัดภาคใต้ตอนบนมีคุณภาพที่ดีและปลอดภัย เหมาะสมต่อการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ แต่การปนเปื้อนของเชื้อจุลินทรีย์ในบ่อแช่ อาจมีสาเหตุจากพฤติกรรมของผู้ใช้บริการ จึงควรให้ผู้ใช้บริการชำระล้างร่างกาย และสวมเสื้อผ้าที่สะอาดเหมาะสมก่อนลงแช่ ผู้มีบาดแผลบริเวณผิวหนังควรละเว้นการใช้บริการและผู้ประกอบการจะต้องหมั่นทำความสะอาดบ่ออย่างถูกวิธี เพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดีของประชาชน” อธิบดีกรมวิทย์ กล่าว