ปีใหม่ สูงวัย สุขกาย สบายใจ
ที่มา : มติชน
แฟ้มภาพ
ร่างกายมนุษย์ประกอบด้วยเซลล์ราว 100 ล้านล้านเซลล์ แต่ละเซลล์ต้องการสารอาหารที่ได้จากอาหาร น้ำ และออกซิเจน เข้าไปหล่อเลี้ยงให้เซลล์มีชีวิต ในวัยเด็ก วัยรุ่น เซลล์ที่ถูกสร้างขึ้นมาจะมากกว่าเซลล์ที่ตาย แต่พอเข้าสู่วัยทำงานและวัยผู้สูงอายุ เซลล์ที่ตายจะมากกว่าเซลล์ที่ถูกสร้างขึ้น ทำให้ผิวหนังเหี่ยวย่น ซึ่งเป็นไปตามธรรมชาติ ไม่มีใครหยุดยั้งได้
อาจารย์สง่า ดามาพงษ์ ที่ปรึกษากรมอนามัย และผู้ทรงคุณวุฒิด้านโภชนาการ สสส. กล่าวว่า สัจธรรมที่ต้องยอมรับคือ แม้เราไม่สามารถจะหยุดยั้งความชราได้ แต่ก็สามารถชะลอวัยไม่ให้แก่กะทันหันได้ ผลของการชะลอวัย จะนำมาซึ่งคุณภาพชีวิตที่เหลืออยู่ให้สวยงาม ลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วย โดยเฉพาะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง และที่สำคัญ นำพาไปสู่การมีอายุที่ยืนยาวได้ มีหลายปัจจัยที่ทำให้แก่ช้าหรือเร็ว อาหารและโภชนาการเป็นหนึ่งในนั้นแต่ถ้ากินเป็น อยู่เป็น เซลล์จะได้รับอาหาร น้ำและออกซิเจนอย่างเพียงพอ จะทำให้เซลล์แข็งแรงและ ตายช้า จะเกิดผลทำให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันสูง ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคต่างๆ ผิวหนังเหี่ยวช้าลง กระดูกบางช้าลง และอายุยืนยาวในที่สุด ในทางตรงกันข้าม ถ้ากินไม่เป็น อยู่ไม่เป็น เซลล์จะถูกอนุมูลอิสระเข้าโจมตี ทำให้ฟ่อ เหี่ยว และตาย จะส่งผลให้ผิวหนังแห้งเหี่ยวเร็วกว่าปกติ เจ็บป่วยบ่อย คุณภาพชีวิตย่ำแย่ และ เสียชีวิตก่อนวัยอันควรจะเป็น
ผู้สูงอายุเป็นวัยเสื่อมถอย เพราะเซลล์ที่สร้างขึ้นใหม่ น้อยกว่าเซลล์ที่ถูกทำลายตามที่กล่าวมาแล้ว การทำให้เซลล์ถูกทำลายและเสื่อมถอยลงอย่างช้าๆ สามารถทำได้ด้วย "การกินอาหารที่ถูกหลักโภชนาการ ครบ 5 หมู่ ต้องมุ่งมั่นลดหวาน มัน เค็ม เติมเต็มด้วยผักผลไม้ ใส่ใจหมั่นออกกำลังกาย คลายความเครียด จงรังเกียจเหล้าและบุหรี่ นอนพอดีวันละ 6-7 ชั่วโมง…"
ตัวอย่างการกินอาหารครบ 5 หมู่ ของผู้สูงวัยกินก๋วยเตี๋ยว 1 ชาม แล้วกินกล้วยน้ำว้า 1 ลูก ก็ครบ 5 หมู่แล้ว ได้คาร์โบไฮเดรตจากเส้นก๋วยเตี๋ยว ได้โปรตีนจากลูกชิ้น/เนื้อสัตว์ ได้ผักจากถั่วงอก และได้ไขมันจากกระเทียมเจียว กินกล้วยตามเลยครบ ผู้สูงวัยควรกินอาหารตามสูตรสุขภาพ 6:6:1 วันหนึ่ง ควรกินน้ำตาลไม่เกิน 6 ช้อนชา กินน้ำมันไม่เกิน 6 ช้อนชา และกินเกลือไม่เกิน 1 ช้อนชา หากทำตาม 6:6:1 ไม่ได้ เซลล์ก็จะถูกเร่งให้เสื่อมเร็วขึ้นกว่าปกติ ในที่สุดโรคเบาหวานและคณะก็จะตามราวีชีวิตผู้สูงวัยขาดผักผลไม้ไม่ได้แม้แต่มื้อเดียว เพราะผักผลไม้นอกจากมีวิตามินและแร่ธาตุช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ไม่ให้โรคเข้าโจมตีได้ง่ายแล้ว ยังมีสารต่อต้าน อนุมูลอิสระ ที่จะปกป้องไม่ให้เซลล์ถูกโจมตี การกินผักผลไม้อย่างเพียงพอจะลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง และโรคไม่ติดต่อเรื้อรังหลายโรค ในผักผลไม้มีใยอาหารจะไปกวาดล้างสารพิษสารก่อมะเร็งที่เกาะอยู่ในลำไส้ออกไปเก็บที่ลำไส้ใหญ่ แล้วถูกขับถ่ายออกมากับอุจจาระ แต่ต้องกินผลไม้หวานน้อยเป็นประจำผู้สูงวัยออกกำลังกายด้วยการเดินวันละ 30 นาที จะป้องกันไม่ให้อนุมูลอิสระเข้าโจมตีเซลล์ ทำให้กระดูกแข็งแรง เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของอวัยวะภายในร่างกาย การทรงตัวดีขึ้น ลดความเสี่ยงหกล้ม ต้องทำควบคู่ไปกับการเคลื่อนไหวร่างกาย ไม่ควรมีพฤติกรรมเนือยนิ่ง ควรเคลื่อนไหวร่างกาย มากกว่านั่งๆ นอนๆ
ผู้สูงวัยมักจะมีความเครียดได้ง่าย จึงต้องหาทางลดปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เกิดความเครียดให้มากที่สุด โดยเฉพาะผู้ที่อยู่ใกล้ชิดผู้สูงวัย ต้องหลีกเลี่ยงที่จะกระทำการใดๆ อันจะนำไปสู่การกระทบกระเทือนจิตใจ ที่จะทำให้เกิดอารมณ์หดหู่ กังวล เศร้าหมอง ย่อมมีผลกระทบต่อความอยากอาหาร การย่อย และการดูดซึมลดลง ทำให้ร่างกายอ่อนแอได้ ตัวผู้สูงวัยเองก็ต้องพยายามปรับตัวให้เข้ากับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดเวลา หาโอกาสทำกิจกรรมร่วมกับสมาชิกในบ้าน และเพื่อนร่วมสังคมเสมอ โดยเฉพาะการออกไปท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ ไม่ควรใช้ชีวิตอยู่แต่ในบ้านหรือที่เดิมๆ ตลอด