“ปีใหม่” ชูกิจกรรมศาสนาป้องกันนักดื่ม
ถอดบทเรียนสวดมนต์ข้ามปีมุ่งเป้าป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ ยกระดับคุณค่ากิจกรรมทางศาสนา ชู “บันทึกข้อตกลง” ระหว่างหน่วยงานรัฐและภาคประชาสังคม ร่วมทำงานสู่ความสำเร็จ
เมื่อไม่นานมานี้ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.) ภายใต้มูลนิธิวิถีสุข โดยการสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับคณะบุคคลเครือข่ายประชาคมสร้างเสริมสุขภาวะ(คปสส.) เครือข่ายประชาคมงดเหล้า ๔ ภูมิภาค หน่วยงานภาครัฐและสมาคมเคเบิ้ลทีวีแห่งประเทศไทย ร่วมจัด “เวทีรายงานผลและถอดบทเรียนแลกเปลี่ยนความเห็นโครงการขยายผลการจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ในส่วนภูมิภาค” ณ โรงแรมอมารี แอร์พอร์ต เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร เพื่อหาแนวทางการป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ พร้อมยกกิจกรรมทางศาสนาให้คนสมัยใหม่ และสานความร่วมมือการจัดโครงการระหว่างภาครัฐกับประชาสังคมอย่างเป็นเอกภาพและยั่งยืน
นายประญัติ เกรัมย์ผู้ประสานงานกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ (ภาคีศาสนา) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า และในนามคณะบุคคลเครือข่ายประชาคมสร้างเสริมสุขภาวะ (คปสส.) กล่าวว่า การจัดเวทีฯ ครั้งนี้ เป็นการรายงานกิจกรรมที่เกิดขึ้นจริง เพื่อนำเสนอความรู้ใหม่ๆ จากการทำกิจกรรมและแลกเปลี่ยนรูปแบบการจัดกิจกรรมที่สัมฤทธิ์ผลกับพื้นที่อื่นๆ ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์กับคนทำงาน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและประชาชนหมู่มากในที่สุด
ทั้งนี้ การจัดกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปี ในส่วนภูมิภาค ๔ พื้นที่ เป็นการดำเนินงานของคณะบุคคลเครือข่ายประชาคมสร้างเสริมสุขภาวะภาคเหนือ โดยมีพื้นที่ปฎิบัติการ ได้แก่ วัดศรีโคมคำ อ.เมือง จ.พะเยา วัดหนองแวง อ.เมือง จ.ขอนแก่นวัดกลาง อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทราวัดถาวรวราราม อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา
แต่ละที่พบข้อมูลที่มีประโยชน์เพื่อนำมาปรับใช้ให้การดำเนินงานในปีถัดไปเข้มแข็งขึ้น เช่น ควรจัดให้มีจุดถ่ายรูปในบริเวณงานก่อนวันจัดงานจริง เพื่อการแชร์ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อออนไลน์ และเชื่อมการประชาสัมพันธ์กับกลุ่มสื่อในจังหวัด จากนั้น ควรจัดจุดให้ความรู้ถึงกิจกรรมสวดมนต์ข้ามปีและเส้นทางที่จะไปร่วมสวดมนต์ ติดตั้งสื่อประชาสัมพันธ์ เตรียมจอสไลด์ขึ้นบทสวดมนต์ จะได้สวดพร้อมเพรียงกัน ฯลฯ
ด้าน ภก.สงกรานต์ ภาคโชคดี ผู้แทนคณะกรรมการจัดสวดมนต์ข้ามปี สสส. แสดงความเห็นว่า “กิจกรรมที่ทำนี้เรียกว่าเป็นการทำบุญยืดอายุ ทำให้คนห่างไกลจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และมีทางเลือกอื่นๆ ในการทำกิจกรรมเพื่อสังคมที่ไม่จำกัดอยู่แต่ในกระแสที่กระพือโหมจากธุรกิจทุนนิยมหลักๆ และจากการสำรวจความนิยม การสวดมนต์ถือว่าได้รับการนิยมอย่างสูง สิ่งที่ต้องทำต่อคือ ทำยังไงกิจกรรมทำนองนี้ทุกคนจะเข้ามาร่วมโดยสมัครใจและทำเองได้โดยไม่ต้องรอใครชวน ให้เป็นวิถีปฏิบัติปกติต่อไป ซึ่งเป็นเรื่องดี ที่วันนี้สื่อเคเบิ้ลทีวี ตัวแทนภาครัฐและประชาคมได้มาร่วมกันแสดงความเห็น ที่จะก่อให้เกิดแนวทางในการดำเนินงานร่วมกันต่อไปในอนาคต”
ด้าน นายบรรจบ จันทร์เจริญ ผอ.กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลพนมสารคาม ทีมประชาคมงดเหล้าจังหวัดฉะเชิงเทรา กล่าวเสริมว่า “กิจกรรมนี้ เหนือความคาดหมายจริงๆ เพราะคนมาสวดมนต์ที่วัดเยอะมาก วัดเตรียมการไว้น้อยไปหน่อย ปีหน้าคาดว่าจะมีการปรับพื้นที่ กางเต็นท์และทำปะรำพิธีให้มีความอลังการ น่าศรัทธา รองรับคนให้มากขึ้น”
กล่าวได้ว่า บทสรุปการถอดบทเรียนครั้งนี้ ไฟฝันที่ตั้งไว้ในการทำงานว่า “งานบรรลุผล คนบรรลุสุข” ได้เปล่งประกายอยู่ในแววตาของทุกคน ที่ทุ่มเททำงานมาอย่างต่อเนื่อง เพราะกิจกรรมที่ดำเนินงานมาได้ส่งผลตระหนักต่อผู้ทำแล้วว่า การสวดมนต์นี้เป็นการปรับทัศนคติ จากวิถีศรัทธา สู่วิถีปัญญา จากการสร้างกระแส สู่การสร้างกุศล จากปัจเจกบุคคล สู่มวลมหามิตร จากกระบวนการคิด สู่กระบวนการทำ จากกลุ่มผู้นำ สู่สาธารณชน เป็นสายธารบุญบนเส้นทางธรรมที่น้อมนำให้ทุกคนได้ร่วมกันทำดีอีกครั้ง
เพื่อผลลัพธ์ที่สำคัญคือ ความสุขที่มีค่ายิ่งสำหรับ “ชีวิต” ตนเองและทุกๆ คนต่อไป
ที่มา : สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า โดย นายประญัติ เกรัมย์ ผู้ประสานงานกลุ่มเป้าหมายเฉพาะ(ภาคีศาสนา) สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า (สคล.)