ปิดทองหลังพระ’ถักไหมเป็นไออุ่น’
ที่มา : ไทยโพสต์
จิตอาสาส่วนหนึ่งทำงานเบื้องหลังเตรียมเครื่องกันหนาว ขณะที่หลายคนตั้งหน้าตั้งตารอให้ฤดูหนาวผ่านเข้ามาเพื่อที่จะได้ใช้วันหยุดหาสถานที่สวยๆ ไปพักผ่อนหย่อนใจชาร์จพลังชีวิตให้แก่ตนเอง
เหล่าจิตอาสาที่กล่าวถึงนี้ใช้โอกาสที่ลมหนาวกำลังจะมาถึงส่งมอบไออุ่นด้วยกิจกรรม "ถักไหม เป็นไออุ่น" กับ เครือข่ายธนาคารจิตอาสา โครงการใจฟ้า วัดพระบาทน้ำพุ ซึ่งศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ได้เล็งเห็นความสำคัญดังกล่าวจัดกิจกรรมให้ผู้ที่มีจิตอาสาได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์
พะยอม อยู่สุข หรือที่คุ้นกันดีในชื่อ "ครูแม่หนู" เครือข่ายธนาคารจิตอาสา โครงการใจฟ้า วัดพระบาทน้ำพุ บอกเล่าจุดประสงค์กิจกรรมครั้งนี้ว่า กิจกรรมถักไหม เป็นไออุ่น เป็นกิจกรรมพิเศษที่ได้นำไหมพรมและอุปกรณ์ถักไหมพรมมาให้จิตอาสาที่สนใจได้ถักหมวกและผ้าพันคอ เพื่อจะส่งมอบให้กับพระภิกษุสงฆ์และผู้ป่วยโรคเอดส์วัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี ปลายปี 2559 นี้ ซึ่งเป็นช่วงฤดูหนาว เครื่องกันหนาวเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็น สำหรับกิจกรรมถักไหมพรมไม่เพียงแต่จะเป็นการส่งมอบไออุ่นเท่านั้น แต่ยังเป็นการนำศิลปะภาวนามาให้เหล่าจิตอาสาได้ใช้เวลาว่างเจริญสมาธิให้แก่ตนเองอีกด้วย
"การถักไหมพรมเป็นศิลปะภาวนาชนิดหนึ่ง เพราะไม่ว่าการทำกิจกรรมอะไรก็ตาม หากเป็นงานศิลปะจะเป็นการฝึกสมาธิของผู้ทำ การภาวนาคือการนำศิลปะมาภาวนาซึ่งเป็นการพัฒนาจิตใจของผู้ทำให้เกิดความงอกงาม มีสติ และฝึกเรียนรู้การภาวนาไปในตัว การภาวนาก็มีหลายรูปแบบ แต่ศิลปะภาวนาเป็นการภาวนาเพื่อเป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น สิ่งที่ได้รับกลับมาจึงเป็นการฝึกเจริญสติในตัวเอง เรียกได้ว่าเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับในคราวเดียวกัน อีกทั้งงานศิลปะเป็นการสะท้อนตัวตนที่ดีอีกอย่างหนึ่ง เห็นได้จากผลงานที่ออกมา หากผู้ทำมีความร้อนรน ไม่มีสมาธิ สติวอกแวก ไหมพรมหรือชิ้นงานที่ทำก็จะหลุดและต้องคอยเริ่มใหม่ เช่นเดียวกับการดำเนินชีวิต หากไม่มีสมาธิหรือขาดสติก็มีผลต่อการใช้ชีวิตเช่นกัน" ครูแม่หนูอธิบายความหมายศิลปะภาวนาให้ฟัง
การทำงานจิตอาสาเป็นสิ่งง่ายๆ ที่ใครก็สามารถทำได้ เพียงแค่มีใจเป็นผู้ให้ อย่างเช่นน้องหนูดี- เด็กหญิงพิมพ์ภัทรี สิริบุญญาภักดี วัย 9 ปี ที่เธอใช้เวลาช่วงปิดเทอมมาร่วมทำกิจกรรมจิตอาสาและกิจกรรมส่งเสริมคุณภาพชีวิตกับ สสส.เป็นประจำ และสำหรับกิจกรรมถักไหมเป็นไออุ่นครั้งนี้ก็ไม่พลาดเช่นเคย
น้องหนูดีเล่าให้ฟังว่า ชอบถักไหมพรม เพราะคุณแม่เคยซื้อมาให้ลองหัดทำ เมื่อถักไปเรื่อยๆ ทำให้เกิดความเพลิดเพลิน เมื่อมีกิจกรรมถักไหมพรมจึงสนใจ ตนมีพื้นฐานมาบ้างแล้วและยังได้ใช้เวลาว่างช่วงปิดเทอมทำประโยชน์ให้แก่ผู้อื่น ตัวเองก็ได้รับทั้งความรู้และความสนุก การร่วมกิจกรรมกับ สสส.ยังได้เจอเพื่อนใหม่อีกด้วย
เช่นเดียวกับ นางมาลี เพ็ชรไทย สตรีวัย 60 ปี ที่ทำงานจิตอาสาเป็นประจำ เมื่อทราบกิจกรรมของ สสส.ทางวิทยุ จึงตัดสินใจเข้าร่วมทันที บอกว่าเป็นครั้งแรกที่ได้ทำงานจิตอาสาในรูปแบบการถักไหมพรม ทำให้เรามีสมาธิ ไม่ใจร้อนกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ อีกทั้งการได้มอบสิ่งดีๆ ที่ตั้งใจทำให้เป็นประโยชน์แก่ผู้อื่น นอกจากนี้ช่วยเติมเต็มความสุขภายในใจให้ตนเองได้เป็นอย่างดี พร้อมกับการส่งมอบความรู้สึกดีๆ ให้กับผู้รับได้รับรู้ว่ายังมีคนอีกมากมายที่คอยเป็นกำลังใจให้พวกเขาอยู่เสมอ
สำหรับผู้ที่พลาดการเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้แต่อยากร่วมทำบุญ สามารถติดต่อเพื่อส่งเครื่องกันหนาวมาได้ทางเฟซบุ๊กเพจ "กิจกรรมถักรัก ปันอุ่น" เพื่อนำมาสมทบและส่งมอบต่อไป
นอกจากกิจกรรมถักไหมเป็นไออุ่นแล้ว ศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส.ยังมีกิจกรรมอื่นๆ ให้ผู้ที่สนใจได้ร่วมสนุกกันอย่างหลากหลาย ทั้งกิจกรรมจิตอาสา กิจกรรมออกกำลังกาย กิจกรรมปลูกผัก และกิจกรรมที่ช่วยส่งเสริมสุขภาพแบบองค์รวมอีกมากมาย ผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมเพิ่มเติมที่ www.thaihealth.or.th/sook ได้เลย.