ปิดฉาก 7 วันอันตรายปีใหม่ บาดเจ็บ3,892คน
ที่มา : แนวหน้า
แฟ้มภาพ
ปิดฉาก 7 วันอันตราย เสียชีวิตรวม 463 ศพ เจ็บ 3,892 คน เมืองคอนแชมป์อุบัติเหตุ พบ 4 จังหวัด ไม่มีผู้เสียชีวิต “คสช.” ยึดรถฝ่าฝืน 5,164 คัน ขอบคุณปชช.-เจ้าหน้าที่ ร่วมมือ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ”
นายสุธี มากบุญ รมช.มหาดไทย เป็นประธานแถลงข่าวสรุปผลการดำเนินงานของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 ว่า ได้รวบรวมสถิติอุบัติเหตุทางถนน ประจำวันที่ 2 มกราคม 2562 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการรณรงค์ขับรถมีน้ำใจ รักษาวินัยจราจร เกิดอุบัติเหตุ 369 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 44 ราย ผู้บาดเจ็บ 391คน สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 30.35 และขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 29.54 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จักรยานยนต์ ร้อยละ 79.53 รถปิคอัพ 5.70 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 68.56 บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 41.46 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 32.25 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น.ร้อยละ 27.64
ทั้งนี้ ได้จัดตั้งจุดตรวจหลัก 2,052 จุด เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงาน 66,644 คน เรียกตรวจยานพาหนะ 890,673 คัน มีผู้ถูกดำเนินคดี รวม 182,023 ราย มีความผิดฐานไม่สวมหมวกนิรภัย 46,248 ราย ไม่มีใบขับขี่ 41,473 ราย โดยจังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา (17 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสูงสุด ได้แก่ นครสวรรค์ (3 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสูงสุด ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา (18 คน)
สรุปอุบัติเหตุทางถนนสะสม 7 วัน (27 ธันวาคม 2561–2 มกราคม 2562) เกิดอุบัติเหตุรวม 3,791 ครั้ง ผู้เสียชีวิต 463 ราย ผู้บาดเจ็บ 3,892 คน จังหวัดที่ไม่มีผู้เสียชีวิต (ตายเป็นศูนย์) มี 4 จังหวัด ได้แก่ ตาก แพร่ สตูล และสมุทรสงคราม จังหวัดที่เกิดอุบัติเหตุสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (118 ครั้ง) จังหวัดที่มีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด ได้แก่ นครราชสีมา (25 ราย) จังหวัดที่มีผู้บาดเจ็บสะสมสูงสุด ได้แก่ นครศรีธรรมราช (137 คน)
สาเหตุที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ดื่มแล้วขับ ร้อยละ 40.39 ขับรถเร็วเกินกำหนด ร้อยละ 28.30 ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ จักรยานยนต์ ร้อยละ 79.64 รถปิคอัพ 6.95 ส่วนใหญ่เกิดในเส้นทางตรง ร้อยละ 64.89 บนถนนกรมทางหลวง ร้อยละ 39.30 ถนนใน อบต./หมู่บ้าน ร้อยละ 34.90 ช่วงเวลาที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด ได้แก่ ช่วงเวลา 16.01 – 20.00 น. ร้อยละ 27.78
นายสุธี กล่าวต่อว่า สถิติอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 พบว่าสาเหตุหลักของอุบัติเหตุทางถนนยังคงเกิดจากการดื่มแล้วขับ และขับรถเร็ว รวมถึงผู้ใช้จักรยานยนต์เป็นกลุ่มที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงร้อยละ 79.64 ซึ่งศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนน (ศปถ.) ได้ประสานจังหวัด บูรณาการสร้างความปลอดภัยทางถนนอย่างต่อเนื่อง พร้อมกำชับให้จังหวัดถอดบทเรียน ตรวจสอบ และวิเคราะห์ข้อมูลสถิติอุบัติเหตุทางถนน เพื่อให้ทราบถึงสาเหตุและปัจจัยเสี่ยงอุบัติเหตุในเชิงลึก รวมทั้งค้นหาปัญหาอุปสรรคและปัจจัยความสำเร็จในการลดอุบัติเหตุทางถนน เพื่อนำไปสู่การกำหนดมาตรการและแนวทางที่เหมาะสมกับสภาพปัญหาอุบัติเหตุทางถนนในแต่ละพื้นที่ พร้อมบังคับใช้กฎหมายจราจรอย่างเคร่งครัด
“ศปถ.ขอขอบคุณหน่วยงานทุกภาคส่วน เครือข่ายอาสาสมัคร กลุ่มจิตอาสา และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการอำนวยความสะดวกและสร้างความปลอดภัยแก่ประชาชนในการเดินทาง ด้วยความทุ่มเท และเสียสละ” รมช.มหาดไทย กล่าว
ด้าน พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายสร้างความปลอดภัยในการสัญจร ด้วยมาตรการลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลปีใหม่ 2562 “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2561-2 มกราคม 2562 โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ตำรวจ ฝ่ายปกครอง รวมทั้งอาสาสมัครป้องกันภัย ได้ร่วมกันจัดตั้งจุดบริการประชาชนและด่านตรวจในเส้นทางต่างๆ รวมถึงสถานีขนส่ง เพื่ออำนวยความสะดวกและเข้มงวดในมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” ซึ่งประชาชนและผู้ใช้เส้นทางสัญจรได้ตอบรับในมาตรการและให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดี โดยตลอด 7 วันที่ผ่านมามีสถิติ ดังนี้
กระทำผิดในลักษณะที่สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทั้งสิ้น 310,012 ครั้ง (แยกเป็นจักรยานยนต์ 170,168 ครั้ง รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคล 139,844 ครั้ง) เจ้าหน้าที่เก็บรักษารถที่ฝ่าฝืนมาตรการดื่มไม่ขับไว้ทั้งสิ้น 5,164 คัน (แยกเป็นจักรยานยนต์ 3,859 คัน และรถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคล 1,305คัน) ยึดใบอนุญาตขับขี่ไว้ 8,312 คน (แยกเป็นจักรยานยนต์ 4,774 คน และรถยนต์ 3,538 คน)
ส่งดำเนินคดี 245,954 คน (แยกเป็นจักรยานยนต์ 143,853 คน รถโดยสารสาธารณะ/รถยนต์ส่วนบุคล 102,101 คน)
สำหรับสถิติจากมาตรการ “ดื่มไม่ขับ จับยึดรถ” ในปีนี้ คสช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำข้อมูลไปพิจารณากำหนดแนวทางป้องกันในทุกมิติ เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ใดๆ ที่มีผลต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อย่างไรก็ดี คสช.ขอขอบคุณประชาชนที่ปฏิบัติตามกฎหมายและคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างดี ทำให้ไม่ปรากฏเหตุการณ์ที่น่ากังวล ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย รวมทั้งขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกส่วนที่ทุ่มเท เสียสละ ปฏิบัติงานดูแลประชาชนอย่างเต็มที่