ปัญหาเด็กวิกฤติ! หนักพบ หนีออกจากบ้านพุ่ง 23 เปอร์เซ็นต์

ชี้เด็กสุด 10 ขวบ เดินเร่ร่อนที่สนามหลวง

 

            สมัครใจหนีออกจากบ้านพุ่ง เหตุเรียกร้องความสนใจ  ชี้ปี 52 มีแนวโน้มสูงขึ้นเป็นเท่าตัว  หวั่นเกิดอาชญากรรมเด็ก ตามมา

 

            (8 ม.ค.)ศูนย์ข้อมูลคนหายเพื่อการต่อต้านการค้ามนุษย์ มูลนิธิกระจกเงา ภายใต้การสนับสนุนของบริษัทแมนพาวเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานแถลงข่าว “อย่าผลักไส…ให้หนูออกจากบ้าน” ที่ชั้น 7 อาคารเลิศปัญญา แถลงผลการทำงานในการติดตามหาคนหายตลอดปี 2551 ย้ำปัญหาเด็กหายออกจากบ้านด้วยความสมัครใจเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

 

            น.ส.วรรณพร ศรีวัฒนางกูร ผู้จัดการฝ่ายการตลาด บริษัท แมนเพาเวอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า จำนวนผู้สูญหายที่มูลนิธิกระจกเงาได้รับแจ้งตลอดปี 2551 มีจำนวนมากถึง 330 คน และพบว่าเป็นหญิงถึง 236 คน และเป็นชาย 94 คน ส่วนใหญ่เป็นเด็กอายุระหว่าง 11-15 ปี จำนวน 153 คน จากเดิมที่ปี 2550 มีผู้สูญหายเพียง 214 คน เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 65  โดยสาเหตุการสูญหายสามอันดับแรก ได้แก่อันดับ หนึ่งการถูกล่อลวงทางเพศคิดเป็นร้อยละ 39  อันดับสองออกจากบ้านด้วยความสมัครใจร้อยละ 23  และ อันดับสามเกิดจากโรคสมองเสื่อมคิดเป็นร้อยละ 8

 

            นางสาวธิติมา หมีปาน หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหาย มูลนิธิกระจกเงา กล่าวว่า สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงของเยาวชนไทยในขณะนี้คือการหายตัวด้วยความสมัครใจ โดยจำนวนของเยาวชนที่หายตัวเพิ่มมากขึ้นเป็นสองเท่า จากในปี 2550 มีจำนวน 27 คน ต่อมาในปี 2551 เพิ่มขึ้นเป็น 75 คน และพบเด็กที่หนีออกจากบ้านอายุน้อยสุดเพียง 10 ปี สาเหตุเพื่อเรียกร้องความต้องการ อยากให้แม่มาหาที่บ้านตา ยายบ่อยๆ  จึงหนีออกจากบ้านที่นครปฐม มาอยู่ที่สนามหลวง  ยิ่งไปกว่านี้ ถ้าคีย์คำว่า “หนีออกจากบ้าน” ในอินเทอร์เน็ตจะพบว่า มีการโพสต์กระทู้เกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นจำนวนมาก และบางกระทู้ก็ส่งเสริมให้เด็กหนีออกจากบ้านเพื่อเรียกร้องความสนใจ เพราะเชื่อว่าเมื่อกลับมาจะได้รับความใส่ใจจากผู้ปกครองมากยิ่งขึ้น

 

             “เด็กชายที่หนีออกจากบ้าน ส่วนใหญ่ ก็จะเข้าสู่วงจรของการเป็นอาชญากรรมเด็ก เริ่มตั้งแต่ลักเล็กขโมยน้อย ทำงานที่ผิดกฎหมายไปจนถึงขั้นก่ออาชญากรรมร้ายแรง หรืออีกแบบก็คือเข้าสู่วงจรการค้ามนุษย์ หรือถูกล่อลวงไปค้าแรงงาน ในเด็กหญิงอาจล่อลวงไปสู่กระบวนการเพศพาณิชย์ ค้าบริการทางเพศ ซึ่งจะนำไปสู่การตั้งครรภ์” นางสาวธิติมา กล่าว

 

            นายสมบัติ บุญงามอนงค์ ผู้อำนวยการกลุ่มกระจกเงา กล่าวว่า ช่วงปิดเทอมจะเป็นช่วงที่พบเด็กหนีออกจากบ้านมากที่สุด เพราะเป็นช่วงที่เด็กมีเวลาว่างมากและขาดกิจกรรมสร้างสรรค์ที่ทำร่วมกับครอบครัว เด็กส่วนใหญ่จะใช้เวลากับการเรียนพิเศษ ขาดการสื่อสารกับพ่อแม่ผู้ปกครอง

 

             “เราพบว่าสาเหตุหลักๆ ของปัญหานี้ประการแรกคือ สถานการณ์ทางเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อสถาบันครอบครัว เพราะบางครอบครัวไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับวิกฤติทางเศรษฐกิจได้ ประการที่สองเด็กที่หนีออกจากบ้านมักไปอาศัยอยู่กับเพื่อนที่อยู่ตามหอพักต่างๆ โดยที่ไม่มีพ่อแม่ผู้ปกครองดูแลหรือชี้แนะแนวทางที่ถูกต้อง และประการสุดท้าย การที่เด็กสมัครใจที่จะหนีออกจากบ้านไปเอง ทำให้ไม่สามารถติดตามหรือหาทางช่วยเหลือได้ ซึ่งสังเกตได้ว่าปัญหาที่เกิดไม่ได้เป็นเพราะสถาบันครอบครัวเพียงอย่างเดียว  แต่เป็นวิกฤตทางสังคม ที่ทุกภาคส่วนต้องร่วมกันแก้ไข” นายสมบัติ กล่าว

 

 

 

 

 

 

เรื่องโดย : นางสาวกรรณิการ์ เอมแสง team content www.thaihealth.or.th

 

 

update 09-01-52