ปัญหาการใช้ภาษาไทยของวัยรุ่น

/data/content/25193/cms/e_ajlnptuw2367.jpg


          วัยรุ่นไทยสมัยนี้นิยมใช้โซเชียลเน็ตเวิร์คเพื่อการติดต่อที่รวดเร็วและเนื่องจากความเร็วในการสื่อสารรและความยากลำบากในการพิมพ์ตัวอักษรทำให้วัยรุ่นทำให้คำเหล่านั้นสั้นลงจนกลายเป็นภาษาวิบัติ


          ภาษาวิบัติ เป็นคำเรียกของการใช้ภาษาไทยที่เปลี่ยนแปลงไป และไม่ตรงกับกับหลักภาษาในด้านการสะกดคำคำว่า 'ภาษาวิบัติ' ใช้เรียกรวมถึงการเขียนที่สะกดผิดบ่อย รวมถึงการใช้คำศัพท์ใหม่หรือคำศัพท์ที่สะกดแปลกไปจากเดิม คำว่า "วิบัติ" มาจากภาษาบาลี หมายถึง พินาศฉิบหาย หรือความเคลื่อนทำให้เสียหาย


          ในประเทศไทย มีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงปัญหาเด็กไทยขาดการศึกษารวมถึงปัญหาภาษาวิบัติทำให้ เด็กไทย ไม่สามารถใช้ภาษาไทยได้มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร ในขณะเดียวกันได้มีการใช้คำว่าภาษาอุบัติแทนที่ภาษาวิบัติที่มีความหมายในเชิงลบ โดยภาษาอุบัติหมายถึงภาษาที่เกิดขึ้นมาใหม่ ตอบสนองวัฒนธรรมย่อย เช่นเดียวกับภาษาเฉพาะวงการที่เป็นศัพท์สแลง


          ทั้งนี้ การเปิดใช้พจนานุกรมเพื่อค้นหาคำที่ควรใช้ให้ถูกต้องอาจเป็นทางเลือกที่ดี[ต้องการอ้างอิง] ทางบัณฑิตยสถานได้กำหนดคำที่ใช้อย่างเป็นทางการหรืออยู่ในรูปแบบมาตรฐาน หากใช้ผิดอาจกลายเป็นคำวิบัติได้[ต้องการอ้างอิง] ซึ่งคำวิบัติไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงของภาษาแต่อย่างใด[ต้องการอ้างอิง] เป็นเพียงการใช้ภาษาให้แตกต่างจากปกติในช่วงระยะเวลาหนึ่ง หรืออาจใช้จากรุ่นสู่รุ่นไปจนกว่าคำวิบัตินั้นจะหายไปจากสังคมนั้น ๆ


          นิธิ เอียวศรีวงศ์ ว่า ภาษาวิบัติเป็นการเปลี่ยนแปลงของภาษาที่ผู้ใหญ่ในสังคมไม่ชอบ แม้ภาษาจะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ แต่ผู้ใหญ่ไม่ชอบให้ภาษาเปลี่ยน การให้เหตุผลว่าภาษาไทยไม่ควรเปลี่ยนแปลง เพราะเป็นภาษาของชาติที่มีความศักดิ์สิทธิ์ นิธิเห็นว่าเป็นเหตุผลแบบไสยศาสตร์ ไม่ค่อยน่าฟัง นิธิยังเห็นว่า ปัญหาของภาษาไทยในปัจจุบันคือ การใช้ภาษาไม่มีประสิทธิภาพ เช่น ไวยากรณ์ การใช้ศัพท์หรือการเรียบเรียง เป็นต้น และการไม่ศึกษาภาษาที่เปลี่ยนแปลงไปนี้เองที่จะเป็นเหตุให้เกิด "ภาษาวิบัติ"


          เดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2553 ช่วงที่มีผู้สร้างภาพยนตร์ไปตั้งเป็นชื่อ หอแต๋วแตกแหวกชิมิ กาญจนา นาคสกุล ราชบัณฑิตประเภทวรรณศิลป์ สาขาวิชาภาษาไทย ระบุ คำว่า "ชิมิ" หากเป็นการใช้ภายในกลุ่มก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นการล้อกันเล่นซึ่งเป็นปกติของภาษา และจะเลือนหายไปตามกาลเวลา แต่การนำไม่ใช้เชิงสาธารณะดังที่ไปตั้งเป็นชื่อภาพยนตร์ ถือว่าไม่เหมาะสมนัก เมื่อเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2554 กนกวลี ชูชัยยะ เลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน กล่าวว่า สถานการณ์ภาษาไทยในปัจจุบันยังไม่ถึงขั้นวิกฤต และวัยรุ่นใช้ภาษาแช็ตเฉพาะบนอินเทอร์เน็ต และสื่อสารภายในวัยรุ่นเท่านั้น ยังไม่พบนำมาใช้ในการเขียนหรือการทำงานแต่อย่างใด


           ลักษณะและตัวอย่าง


คำสะกดผิดได้ง่าย เป็นรูปแบบของคำที่มีการสะกดผิด ซึ่งเกิดจากคำที่มีการผันอักษรและเสียงไม่ตรงกับรูปวรรณยุกต์


•             สนุ๊กเกอร์ (สนุกเกอร์)


•             โน๊ต (โน้ต)


คำที่สะกดผิดเพื่อให้แปลกตา


•             หน่องเตย (ใบเตย อาร์ สยาม)


•             นู๋ (หนู)


•             ชะมะ,ชิมิ (ใช่ไหม)


•             ช่ะ (ใช่ปะ, ใช่เปล่า, ใช่หรือเปล่า ตามลำดับ)


•             มว๊ากกกก (มาก)


•             ป่าว , ป่ะ, ปล่าว (เปล่า)


•             คัย,ไค,ครัย (ใคร)


•             เตง,ตะเอง (ตัวเอง)


•             เก๊า, เก๊าท์, (เขา)


•             เทอ,เทอร์ (เธอ)


•             ชั้ล , ช้าน (ฉัน)


•             ค้ะ , คร๊ , คร้ะ , ค่า (ค่ะ)


•             คร้าบ , คับ , คัฟ , คร๊าฟ (ครับ)


•             บร๊ะ (พระ)


•             เกรีeu (เกรียน)


•             uou (นอน)


•             Inw (เทพ)


•             วาน (วัน)


•             จิง (จริง)


•             ll"ll ""ll ll"ll (กาก)


•             กำ (กรรม)


คำที่สะกดผิดเพื่อแสดงอารมณ์


•             เป็นอะไร → เปงราย, เปนรัย, เปงรัย


•             ทำไม → ทามมาย, ทามมัย


•             จังเลย → จังรุย, จังเยย, จุงเบย


•             บอกตรง ๆ → บ่องตง


•             นิดนึง → นิสนึง, นิสนุง


•             คือแบบ → คีบับ, เคบับ


•             น่ารำคาญ → น่ามคาน


•             น่ารักอะ → น่าร๊อคอ้า


•             จริง ๆ → จีจี,จิงๆ


•             สุด ๆ → ฝุด ๆ


•             ไม่รู้ → มะรุ


•             อะไรหรือ → ไรเหรอ, ไรหรา, ไรเหลอ, ไรหรอ, อาไยหยอ


คำเลียนเสียง โดยส่วนใหญ่จะเพิ่มทัณฑฆาต หรือซ้ำตัวอักษร


•             อ๊าย → แอร๊ยย, อร๊ายยย, อั้ยยะ


•             กรี๊ด → กี๊สส


•             โฮก → โฮกกก


•             โอ้ → โอ้วส์


•             มัน → มันส์


 


          ภาษาเหล่านี้เป็นภาษาที่วัยรุ่นทำให้เปลี่ยนแปลงมาเรื่อยจนอาจจะทำให้ไม่มีเค้าโครงเดิมของภาษาไทยอีกต่อไป ฉะนั้นแล้ววัยรุ่นไทยควรช่วยกันถนอมและรักษาภาษาไทยเอาไว้ให้เหมือนอย่างที่มันเป็นมาตลอด


 


 


          ที่มา : เว็บไซต์วิกิพีเดีย


            ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code