ปักจักรวานีตา บรือจายา
ที่มา : วิถีชุมชน สร้างเศรษฐกิจฐานราก : ส่งเสริมอาชีพ โดย สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เครือข่ายร่วมสร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ และประชารัฐ
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต
ผ้าฮิญาบสีสันสดใสเรียงรายอยู่ภายในบ้านของผู้ใหญ่หมู่ที่ 3 ข้างๆ กันมีใบประกาศนียบัตรรับรอง OTOP ระดับ 5 ดาว เป็นการยืนยันถึงคุณภาพสินค้าของกลุ่ม นี่เป็นความภาคภูมิใจของบรรดาสตรีบ้านเจ๊ะเหม
ย้อนกลับไปเมื่อเดือนกรกฎาคม 2545 สาเราะห์ วอหะ ภริยาของผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ได้ชักชวนเพื่อนสตรีในพื้นที่ 4-5 คน รวมกลุ่มใช้เวลาว่างระหว่างวันทำผ้าคลุมเพื่อหารายได้เล็กๆ น้อยๆ เพิ่มเสริมจากการกรีดยาง โดยช่วงแรกได้อาจารย์จากสึไหงโก-ลก ซึ่งมาแต่งงานกับคนบ้านเจ๊ะเหมมาช่วยสอน ใช้เวลาเรียนอยู่ 5 เดือน เสียค่าเรียนคนละ 600 บาท ได้ความรู้เรื่องลวดลายดอกไม้ต่างๆ มากมาย หลังจากนั้นเริ่มมีการต่อยอดขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่การไปกระจายความรู้ให้แก่สตรีคนอื่นๆ ในหมู่บ้าน รวมถึงศึกษาลวดลายใหม่ๆ เพิ่มเติมจากนิตยสารแฟชั่นของสตรีมุสลิม
“เรารวมเงินกันคนละ 500 บาท เป็นเงินสำหรับซื้อผ้า ด้าย เพชรประดับที่ตลาดแว้งและตลาดโกลก เราผลิตตามสั่ง โดยลูกค้าส่วนมากจะรู้ข่าวจาก อบต. พัฒนาอุตสาหกรรม เพราะเวลามีอบรมเขาก็เชิญเราไปเรียน บ่อยครั้งคนก็เริ่มรู้จักแล้วยังได้คะดสรร OTOP ด้วย ครั้งแรกเมื่อปี 2547 ได้มาแค่ 3 ดาว เพราะเรายังไม่ได้มาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน พอปี 2555 เราส่งใหม่ ครั้งนี้ได้รับคัดสรรระดับ 5 ดาว จุดเดนของผลิตภัณฑ์คือสีไม่ตก ดอกแน่น” สาเราะห์ว่า
ปัจจุบันกลุ่มปักจักรวานีตา บรือจายานี้มีสมาชิกรวมทั้งสิ้น 11 คน ขึ้นทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนเมื่อปี 2555 สินค้าหลักๆ มี 2 ประเภท คือผ้าฮิญาบ และผ้าละหมาด ราคาตั้งแต่ 500-3,000 บาท ขึ้นอยู่กับลวดลายและกากเพชร ยิ่งมีมากราคายิ่งแพง
“เมื่อได้ออเดอร์ครั้งหนึ่ง สมาชิกจะมารวมตัวกัน ใช้เงินลงทุนของกลุ่ม หรือถ้าไม่พอก็มีเงินกู้จากกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี หากไม่พอจริงๆ จะมีการเรี่ยไรเพิ่ม และจ่ายคืนภายหลังที่ได้ค่าจ้างเรียบร้อยแล้ว ส่วนวิธีการแบ่งรายได้นั้นจะจัดสรรตามชิ้นงาน แต่ละชิ้นได้เงินไม่เท่ากัน หากชิ้นไหนต้องปักดอกเยอะ หรือต้องใช้ฝีมือในการทำค่อนข้างมากก็ได้ส่วนแบ่งเยอะตามไปด้วย”
นอกจากนี้ยังมีการแบ่งปันผลจากกำไรที่กลุ่มเก็บไว้ปีละ 2 ครั้ง คือในช่วงวันฮารีรายอ หรือวัน 1 ค่ำ เดือนเชาวาล หรือเดือน 10 ตามปฏิทินอิสลามซึ่งเป็นวันออกบวชและวันอีดิลอัฏฮา ตรงกับวันที่ 10 เดือนซุลฮิจญะฮุ หรือเดือน 12 ตามปฏิทินอิสลาม ซึ่งเป็นการฉลองวันออกฮัจญ์ โดยจะแบ่งเป็นเงินเท่ากันทุกคน สาเหตุที่ปันผลกันค่อนข้างกระชั้นชิด เพราะช่วงเวลา 2 เดือนนี้เป็นช่วงที่สินค้าขายดีที่สุดและมีเงินหมุนเวียนมากที่สุด
ส่วนแหล่งกระจายสินค้า นอกจากงานเทศกาลต่างๆ ที่อบต.จัดแล้ว ยังมีร้านในตัวจังหวัดนราธิวาส มีอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา และเมืองโกตาบารู รัฐกลันตัน ประเทศมาเลเซีย
ส่วนทิศทางของกลุ่มในอนาคต ประธานฯ สาเราะห์บอกว่า มีความพยายามหาความรู้ใหม่ๆ เพิ่มเติมตลอด อย่างล่าสุดทางวิทยาลัยชุมชนจังหวัดนราธิวาสก็เข้ามาให้ความรู้เรื่องการผลิตกระเป๋จากเส้นพลาสติก พร้อมแจกจ่ายอุปกรณ์มาให้ลองทำเช่นเดียวกัน ตัวเธอยังเดินสายเป็นวิทยากรให้ความรู้เรื่องการผลิตผ้าฮิญาบในพื้นที่ด้วย