ปลูกพลังบวกสร้างภูมิคุ้มกัน ลดปัจจัยเสี่ยงเหล้าบุหรี่ปฐมวัย

ที่มา : หนังสือพิมพ์คมชัดลึก


ภาพประกอบจากเว็บไซต์คมชัดลึก


ปลูกพลังบวกสร้างภูมิคุ้มกัน ลดปัจจัยเสี่ยงเหล้าบุหรี่ปฐมวัย thaihealth


คนไทยดื่มเหล้ามากเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน โดยเด็กที่เริ่มดื่มอายุน้อยที่สุดคือ 7 ขวบ ได้รับผลกระทบจากบุหรี่กว่า 66.8% นำมาสู่การร่วมมือระหว่าง สสส. และสพฐ. จัดโครงการ "ปลูกพลังบวก เพื่อสร้างจิตสำนึกภูมิคุ้มกันปัจจัยเสี่ยงสำหรับเด็กปฐมวัย" เสริมเกราะป้องกันเหล้าบุหรี่ให้เด็กตั้งแต่ช่วงปฐมวัย โดยมีกลุ่มเป้าหมายเข้าร่วมกว่า 42 แห่ง


ข้อมูลจากสำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ซึ่งสำรวจพฤติกรรมการสูบบุหรี่ในเด็กอายุ 10-14 ปี พบว่าเคยสูบบุหรี่ 3.5% ได้รับผลกระทบจากบุหรี่ 66.8% นอกจากนี้การดื่มเหล้าในเด็กกลุ่มดังกล่าวพบว่าเคยดื่มเหล้า 5.5% เคยดื่มเครื่องดื่มชนิดอื่นที่มีแอลกอฮอลล์ 4.7% อยู่ใกล้ร้านเหล้า 64.7% และกว่า 50% ซื้อดื่มเอง โดยอายุน้อยที่สุดที่เริ่มดื่มคือ 7 ขวบ นอกจากนี้คนไทยยังดื่มเหล้ามากเป็นอันดับ 2 ของอาเซียน


พีระ รัตนวิจิตร รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กล่าวในเวทีนิทรรศการทางวิชาการ "ปลูกพลังบวกเพื่อสร้างจิตสำนึกภูมิคุ้มกันปัจจัยเสี่ยงสำหรับเด็กปฐมวัย" โดยสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าและภาคีเครือข่าย สนับสนุนโดยสสส. ว่า ลูกหลานเรามีปัจจัยเสี่ยงสูงในสภาพสังคมปัจจุบันไม่ว่าจะเป็นครอบครัว ชุมชน และสื่อมวลชน ดังนั้นทุกหน่วยงานต้องช่วยกันไม่ว่าจะเป็น กระทรวงสาธารณสุข พ่อแม่ สตรีวัยเจริญพันธุ์ ต้องพร้อมมีบุตรอย่างมีคุณภาพ ด้านพ่อต้องงดสิ่งเหล่านี้ด้วย หลังจากเด็กคลอดออกมา การรับรู้ เรียนรู้ จะเป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุดในช่วงปฐมวัย (0-6 ขวบ)


ปลูกพลังบวกสร้างภูมิคุ้มกัน ลดปัจจัยเสี่ยงเหล้าบุหรี่ปฐมวัย thaihealth


"นักจิตวิทยาพัฒนาการได้ประมาณการว่า การเรียนรู้ในช่วงนี้ก้าวหน้าไปกว่า 80% ของผู้ใหญ่เต็มวัย นั่นหมายความว่าตั้งแต่ป.1 เป็นต้นไป คือ 20% ของชีวิตเท่านั้น ดังนั้นการสร้างพัฒนาการต่าง ๆ ต้องเริ่มจากช่วงปฐมวัย โดยเฉพาะในเรื่องการเรียนรู้เพื่อให้เด็กซึมซับเจนตคติที่ดีสู่การปฏิบัติ นอกจากนี้พ่อแม่ควรเป็นต้นแบบ รวมถึงสถานศึกษาต้องเข้มงวดกวดขันในเรื่องนี้ เพราะเราถือว่าเด็กเป็นต้นกล้าสำคัญของประเทศไทย ถ้าต้นกล้าอ่อนแอ ไม่มีทางที่จะปลูกแล้วสมบูรณ์" พีระ กล่าว


ทั้งนี้โครงการ "ปลูกพลังบวกเพื่อสร้างจิตสำนึกภูมิคุ้มกันปัจจัยเสี่ยงสำหรับเด็กปฐมวัย" ดำเนินงานโดยสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้าและภาคีเครือข่าย สนับสนุนโดย สสส. ซึ่งได้รับความร่วมมือจากผู้ทรงคุณวุฒิด้านปฐมวัยจากสพฐ. เป็นผู้ออกแบบการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนสำหรับครูปฐมวัย เพื่อใช้จัดกิจกรรมสำหรับเด็กอายุระหว่าง 2-6 ขวบ โดยจัดชุดการเรียนการสอน กิจกรรมลดปัญหาเสี่ยงเรื่องเหล้าบุหรี่ในรูปแบบนิทาน เพลง เกม แบบฝึกกิจกรรม ซึ่งครูสามารถนำชุดกิจกรรมนี้ไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถประเมินพัฒนาการของเด็กได้ตามมาตรฐานการเรียนรู้ปฐมวัย รวมถึงการอบรมให้ความรู้ครูอีกด้วย


ปลูกพลังบวกสร้างภูมิคุ้มกัน ลดปัจจัยเสี่ยงเหล้าบุหรี่ปฐมวัย thaihealth


ขณะนี้มีกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมทั้งหมด 42 แห่ง รวม 140 คน ประกอบด้วย ผู้บริหาร 42 คน ครูปฐมวัย 84 คน และคณะทำงาน 14 คน แบ่งเป็น สังกัด สพฐ. 18 แห่ง, สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) 19 แห่ง, สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) 4 แห่ง, สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) 2 แห่ง และ สังกัดกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) 1 แห่ง


ธนิมา เจริญสุข ประธานคณะทำงานโครงการ "ปลูกพลังบวกเพื่อสร้างจิตสำนึกภูมิคุ้มกันปัจจัยเสี่ยงสำหรับเด็กปฐมวัย" กล่าวว่า หลังจากการดำเนินโครงการมีการเก็บข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามจากผู้บริหารสถานศึกษา ครู และผู้ปกครอง และแบบสังเกตพฤติกรรมของเด็กปฐมวัยที่มีความรู้ความเข้าใจต่อการใช้ชุดกิจกรรม แบ่งเป็นความคิดเห็นของผู้บริหารสถานศึกษา 93.85% ความคิดเห็นของครู 86% ความคิดเห็นผู้ปกครอง 88.70% พร้อมแบบสังเกตพฤติกรรมของเด็กปฐมวัยที่ผ่านเกณฑ์ทักษะชีวิต พบว่า เด็กปฐมวัยที่มีอายุต่ำกว่า 3 ขวบ ผ่านเกณฑ์การประเมิน 95.77% ชั้นอนุบาล 1 (อายุ 3-4 ขวบ) 94.68% ชั้นอนุบาล 2 (4-5 ขวบ) 94.68% และอนุบาล 3 (5-6 ขวบ) 95.06%


ปลูกพลังบวกสร้างภูมิคุ้มกัน ลดปัจจัยเสี่ยงเหล้าบุหรี่ปฐมวัย thaihealth


ยุพิน ประเสริฐกุล ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเปรมประชากร ในฐานะ ผู้บริหารสถานศึกษา กล่าวว่า โรงเรียนวัดเปรมประชากรมีจำนวนนักเรียนชั้นอนุบาลราว 200 คน จะเห็นว่าปัจจุบันสังคมอยู่ยากมากขึ้นเพราะภัยจากเหล้า บุหรี่ ยาเสพติด ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัว แต่เด็ก ๆ ไม่รู้ว่าเป็นสิ่งที่อันตรายและไม่สมควรทำ เพราะฉะนั้นสถานศึกษาจึงต้องเป็นหน่วยงานที่ทำหน้าที่ปลูกฝังความรู้ตั้งแต่ชั้นอนุบาลให้เขาโตขึ้นเป็นบุคลากรที่ดี เมื่อมีโครงการนี้เข้ามาสิ่งแรกที่เราทำ คือประชุมครูและผู้ปกครองเพื่อให้เกิดความตระหนัก รวมถึงได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นครูในโรงเรียน ผู้ปกครอง วัด โรงพยาบาล เข้ามาให้ความรู้เกี่ยวกับโทษเหล้าบุหรี่ รวมถึงมีกิจกรรมทดลองเอาเหล้าเบียร์ราดไปบนตับให้เด็กเห็นว่าตับ สีซีดลง เพื่อให้เด็กเห็นถึงโทษอย่างชัดเจน


"เราโชคดีที่ผู้ปกครองให้ความร่วมมือและให้ความสำคัญมาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในกิจกรรมที่ทางโรงเรียนจัดขึ้น และสิ่งที่เห็นชัด คือความอบอุ่นในครอบครัวจากกิจกรรมทำ กระปุกออมรักซึ่งมีผู้ปกครองให้ความร่วมมือจำนวนมาก เราจะไม่หยุดโครงการเพียงเท่านี้แต่จะทำต่อยอดไปเรื่อย ๆ ซึ่งในวันที่ 1 พฤษภาคม 2562 จะเป็นวันประชุมผู้ปกครอง ทางโรงเรียนจะให้เด็ก ๆ ได้นำเสนอว่าตลอด 1 ปีที่ผ่านมา เขาได้ความรู้อะไรบ้าง" ยุพิน กล่าว


ปลูกพลังบวกสร้างภูมิคุ้มกัน ลดปัจจัยเสี่ยงเหล้าบุหรี่ปฐมวัย thaihealth


ด้าน อารดา ศรีหวาด หรือครูแนน ครูผู้ช่วย โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏศรีสะเกษ กล่าวว่า เนื่องจากโรงเรียนเป็น 2 ภาษา เน้นสอนแบบบูรณาการ หลังจากที่เข้าร่วมโครงการได้นำชุดกิจกรรมปลูกพลังบวกไปบูรณาการเข้ากับหน่วยการเรียนรู้ชั้นอนุบาลไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ พละ ดนตรี วิทยาศาสตร์  ให้เด็กได้ลองเหตุการณ์สมมุติ หาคำตอบจากที่บ้านหรือผู้รู้ด้วยตัวเขาเอง โดยทั้งครูไทยและครูต่างชาติ รวมถึงผู้บริหารโรงเรียนให้ความร่วมมือและตระหนักถึงความสำคัญของเรื่องนี้


"ที่ผ่านมาได้รับเสียงตอบรับจาก ผู้ปกครองว่า เด็กได้รู้ลึกถึงโทษของเหล้าและบุหรี่มากขึ้น สิ่งที่เราเห็นชัด คือ ปลูกพลังบวก ซึ่งเกิดขึ้นกับเด็กจริงๆ  เขาไม่ใช่แค่คิดบวก เขาสามารถใช้คำพูดทางบวก ไม่ดูถูกเพื่อน รู้จักพูดคำว่าไม่เป็นไร เธอทำได้ เชื่อว่าพลังบวกเปลี่ยนพฤติกรรมเด็กได้จริงๆ" อารดา กล่าว ทิ้งท้าย


"เด็กเป็นต้นกล้าสำคัญของประเทศไทย ถ้าต้นกล้าอ่อนแอ ไม่มีทางที่จะปลูกแล้วสมบูรณ์"

Shares:
QR Code :
QR Code