ปลุกเด็กไทยตระหนักประชาคมอาเซียนเป็นเรื่องใกล้ตัว
สสค.จับมือมูลนิธิร่มฉัตรเปิดเวทีเสวนาชี้ประเทศไทยก้าวไปข้างหน้าลำบากเพราะติดกับดักปัญหาคุณภาพการศึกษา ปลุกเด็กไทยตระหนักการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนเป็นเรื่องใกล้ตัว ถ้าหวังจะอยู่รอดต้องเร่งพัฒนาทั้งทักษะภาษาอังกฤษและคอมพิวเตอร์
จากการเสวนา“การเตรียมความพร้อมสู่ประชาคมอาเซียน 4 ภูมิภาค รูปแบบ บ ว ร โมเดล” จัดโดยสำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน (สสค.) ร่วมกับ มูลนิธิร่มฉัตร ดร.สถิต ลิ่มพงษ์พันธุ์ อดีตปลัดกระทรวงการคลัง กล่าวบรรยายพิเศษในหัวข้อ “รู้เขารู้เราสู่อาเซียน” ว่าปัจจุบันประเทศไทยกำลังติดกับดักอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ที่ไม่สามารถขยับตัวขึ้นไปสู่กลุ่มประเทศที่มีรายได้สูงที่ใช้เทคโนโลยีอย่างมาเลเซียและสิงคโปร์ เพราะปัญหาด้านคุณภาพทางการศึกษา และขาดการส่งเสริมด้านการวิจัยและพัฒนาด้านต่างๆ อย่างจริงจัง ดังนั้นจึงต้องหาหนทางออกจากกับดักนี้ด้วยการเปลี่ยนรูปแบบศึกษาและการเรียนการสอนในปัจจุบันที่เป็นแบบท่องจำ ให้เป็นการศึกษาเพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้ ควบคู่ไปกับการเรียนภาษาอังกฤษและคอมพิวเตอร์ และเสริมทักษะที่จำเป็นของประชาคมโลกในทศวรรษที่ 21
“การเตรียมความพร้อมของภาคการศึกษา ต้องเริ่มจากการเตรียมความพร้อมอย่างเข้าใจ ทั้งในด้านประวัติศาสตร์ความเป็นมาและภูมิศาสตร์ของอาเซียน เพื่อให้เด็กและเยาวชนให้เกิดความเข้าใจและมองเห็นภาพของอาเซียนในความเป็นจริง ไม่ได้เกิดจากการท่องจำ และมุ่งเน้นไปที่การเรียนการสอนภาษาอังกฤษและคอมพิวเตอร์ เพราะหนึ่งในข้อตกลงร่วมกันของอาเซียนคือ การใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษากลางของการทำงาน โดยประเทศไทยจะต้องส่งเสริมให้มีการพูดภาษาอังกฤษและเรียนรู้คอมพิวเตอร์กันทั้งประเทศ เพราะทั้งสองข้อนี้ถือเป็นคุณสมบัติขั้นพื้นฐานของการเป็นประชาคมอาเซียนที่โดดเด่น และเป็นหนึ่งในหลายๆ ปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นของทักษะใหม่ในทศวรรษที่ 21 ในการเป็นประชากรของประชาคมโลกด้วย” ดร.สถิตระบุ
นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการ สสค. เปิดเผยว่า โลกในปัจจุบันหมุนเร็วขึ้น และมีการติดต่อสัมพันธ์ เดินทางเชื่อมโยงกันทั่วโลกได้อย่างรวดเร็ว คำถามก็คือว่าเราจะเตรียมตัวเด็กและเยาวชนของเราได้อย่างไร เพราะทุกวันนี้เราตื่นตัวกันแต่ในเรื่องเศรษฐกิจการค้า แต่ลืมเรื่องการเมือง ความมั่นคง สังคมและวัฒนธรรม ดังนั้นสิ่งสำคัญก็คือต้องถอยหลังกลับมาทำความรู้จักและทำความเข้าใจการอยู่ร่วมกันก่อนเป็นลำดับแรก และต้องทำให้เรื่องอาเซียนเป็นเรื่องใกล้ตัวของเด็กและเยาวชน ไม่ได้สอนเฉพาะในห้องเรียน แต่ต้องทำให้รู้ว่าการเปิดประชาคมอาเซียนแล้วจะมีผลกระทบกับชุมชนของเราอย่างไร
ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์