ปลุกกระแสร้านค้า 5 ส สร้างสุขภาพ
ยกระดับคุณภาพชีวิตเพื่อคนในชุมชน
หลักการ 5 ส สะสาง สะอาด สะดวก ถูกสุขภาพลักษณะสุขาภิบาลอาหาร และสร้างนิสัยรักษา 4 ส แรก ไม่เพียงแต่มีประโยชน์กับองค์กรหรือบริษัทเท่านั้น ยังมีประโยชน์ต่อชุมชนด้วย
ตัวอย่างล่าสุดที่สำนัก งานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นผู้สนับสนุน จัดขึ้นที่ตำบลขึ่ง อำเภอเวียงสา จังหวัดน่าน ซึ่งเดิมชาวบ้านมีปัญหาโรคติดต่อ เป็นโรคอุจจาระร่วงเฉียบพลันมากที่สุดเป็นอันดับ 1 รองลงมาคือโรคอาหารเป็นพิษ สาเหตุเกิดจากการบริโภคอาหารหมดอายุ เสื่อมคุณภาพ และมีขั้นตอนการปรุงที่ไม่ถูกสุขอนามัย อีกทั้งมีการใช้สารเคมีอย่างหนักในพื้นที่การเกษตร ส่งผลให้เกิดโรคภัยต่างๆ
องค์การบริหารส่วนตำบลขึ่ง ร่วมกับสถานีอนามัยตำบลขึ่ง สำนักงานสาธารณสุขอำเภอเวียงสา และเครือข่ายคุ้มครองผู้บริโภคอำเภอเวียงสา จัดทำ “โครงการชุมชนขึ่งร่วมใจพัฒนาร้านค้า 5 ส เพื่อสุขภาพดี” เพื่อเป็นแนวทางในการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีให้ประชากร ซึ่งเป็นปัจจัยพื้นฐานในการดำเนินชีวิตอย่างมีคุณภาพ
เริ่มจากการสำรวจปัญหา พบว่าปัญหาสำคัญที่เกิดขึ้นในระบบการซื้อขายเครื่องอุปโภคและบริโภค คือร้านค้าชุมชนที่ประชาชนส่วนใหญ่มาจับจ่ายใช้สอยอยู่เป็นประจำ ซึ่งมีอยู่จำนวน 26 ร้าน แบ่งเป็นร้านขายของชำ 14 ร้าน และร้านอาหารแผงลอยจำนวน 12 ร้านนั้น บางร้านค้าจัดร้านไม่เป็นสัดส่วน วางสินค้าปะปนกันระหว่างอาหารและของใช้ในครัวเรือนซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ เช่น ผงปรุงรสอาหารแขวนรวมอยู่กับผงซักฟอก
นอกจากนี้ยังมีการแอบจำหน่ายยาที่เป็นอันตราย เช่น ยาแก้อักเสบ ยาแก้ปวดข้อ รวมถึงยังมีสินค้าที่หมดอายุหรือเสื่อมสภาพวางขายอยู่ ปัญหาเหล่านี้ส่งผลให้ประชาชนในชุมชนเกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคระบบทางเดินอาหาร เช่น โรคอุจจาระร่วง โรคอาหารเป็นพิษ รวมถึงปัญหาเด็กท้องเสียจากการดื่มนมบูด ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการที่ผู้ซื้อขาดความรู้ในการเลือกซื้ออาหารบริโภค รวมทั้งผู้ขายขาดความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน
การดำเนินโครงการพัฒนาร้านค้า 5 ส เริ่มจากการให้อาสาสมัครสาธารณสุขหมู่บ้าน อธิบายทำความเข้าใจถึงเหตุผลที่ต้องมีการพัฒนาร้านค้า กระตุ้นให้เจ้าของร้านมีจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมและชุมชน โดยชี้ให้เห็นว่าชุมชนก็คือครอบครัว ประกอบด้วยญาติมิตร พี่น้อง ลูกหลาน ที่ต้องเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน พร้อมเชิญชวนเจ้าของร้านค้าต่างๆ มาร่วมแลกเปลี่ยนความคิดความเห็นในการพัฒนาร้านค้าผ่านเวทีเรียนรู้ ซึ่งจะมีนักวิชาการสาธารณสุขมาให้ความรู้เกี่ยวกับ 5 ส แก่ผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการอย่างใกล้ชิด
น.ส.สมพร ประสงค์ นักวิชาการสาธารณสุข สถานีอนามัยตำบลขึ่ง กล่าวว่า หลักการ 5 ส ได้แก่ 1.สะสาง ต้องตรวจสอบร้านค้าของตนเอง ขจัดสินค้าที่ไม่ได้มาตรฐาน สินค้าหมดอายุ ชำรุดเสียหาย ออกจากร้านให้หมด เนื่องจากสินค้าเหล่านี้เมื่อนำไปบริโภคหรืออุปโภคจะทำให้เสียสุขภาพ 2.สะอาด ร้านค้าต้องทำความสะอาดปัดฝุ่น ทำความสะอาดร้านอย่างสม่ำเสมอ 3.สะดวก ร้านค้าต้องจัดวางสินค้าให้สะดวกต่อการหยิบจับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย 4.ถูกสุขภาพลักษณะสุขาภิบาลอาหาร และ 5.สร้างนิสัยให้ผู้ซื้อและผู้ขายรักษา 4 ส แรกอย่างต่อเนื่องและยั่งยืน
“ในช่วงแรกของการเชิญชวนให้ผู้ประกอบการร้านค้ามาเข้าร่วมโครงการ ส่วนใหญ่ได้รับคำตอบจากผู้ค้าว่ายาก แต่ทางโครงการ นอกจากจะสนับสนุนให้ความรู้แล้ว ยังอาสาช่วยจัดแต่ง ตรวจสอบสินค้า และปรับปรุงวิสัยทัศน์ของร้านค้าให้เป็นไปตามหลัก 5 ส รวมถึงมอบป้ายร้านค้า 5 ส และจัดทำแผ่นป้ายบอกรายละเอียดหมวดหมู่สินค้าให้แก่ร้านค้าอีกด้วย ส่วนร้านค้าที่ขายอาหารสด เช่น เขียงเนื้อ เขียงหมู ก็สนับสนุนด้วยการติดมุ้งให้ในบริเวณที่เป็นจุดแล่เนื้อ เพื่อป้องกันแมลงไปวางไข่ และเชื้อโรคที่แฝงอยู่ในอากาศ” น.ส.สมพรกล่าว
ด้านนางสายใจ ปันทะนะ เจ้าของร้านขายของชำ ซึ่งตอบรับเข้าโครงการโดยปฏิบัติตามหลัก 5 ส เป็นรายแรก กล่าวว่า แต่ก่อนนี้ทางร้านจัดสินค้าไม่เป็นระเบียบ ลูกค้าเคยบ่นว่าหาสินค้าที่ต้องการไม่เจอ สินค้าก็ขายไม่ได้เพราะไม่รู้เก็บอยู่ตรงไหน พบอีกทีก็หมดอายุแล้ว เมื่อนำหลัก 5 ส มาใช้ ปรากฏว่ายอดขายดีขึ้น เพราะสินค้าหาง่าย เนื่องจากมีป้ายบอกหมวดหมู่สินค้า และทางร้านก็รู้สึกภูมิใจที่คนซื้อได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพ เกิดความไว้วางใจ เอื้ออาทรซึ่งกันและกัน
การนำหลัก 5 ส มาใช้ในร้านค้าและในชีวิตประจำวัน นอกจากจะทำให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของชาวบ้านในการเลือกซื้อและการจำหน่ายสินค้าแล้ว ยังช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้คนในชุมชนให้มีอนามัยที่ดีอีกด้วย
ที่มา : หนังสือพิมพ์ข่าวสด
update 20-01-52