ประเพณีบุญบั้งไฟ วิถีใหม่ สไตล์ New normal
เรื่องโดย ฉัตร์ชัย นกดี Team Content www.thaihealth.or.th
ภาพโดย ชยวี ลิ้มถาวรรักษ์ Team Content www.thaihealth.or.th
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโควิด-19 ได้สร้างผลกระทบไปทุกหย่อมหญ้า ทุกคนต่างต้องปรับตัวเพื่อให้เข้ากับชีวิตวิถีใหม่ หรือยุค New normal อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่นเดียวกับงานบุญบั้งไฟ หรืองานบุญเดือนหกของภาคอีสาน มีจุดประสงค์เพื่อขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล ก็ต้องมีการปรับตัวให้เข้ากับวิถี New normal นี้เช่นกัน
หากจะพูดถึงงานบุญบั้งไฟ ทุกคนคงจะนึกถึงขบวนแห่ที่สวยงาม มีการตกแต่งบั้งไฟพญานาค มีการประกวดแข่งขันยิงบั้งไฟ รวมไปถึงกิจกรรมรื่นเริงต่างๆ ซึ่งในแต่ละปีจะมีผู้คนมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง แต่จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 อย่างที่ทราบกันดี การจัดงานในปีนี้จึงต้องเข้มงวดมาตรการด้านสุขอนามัยเป็นพิเศษ
อย่างไรก็ตาม เพื่อไม่ให้งานบุญกลายเป็นงานเศร้า เพราะการแพร่ระบาดของโควิด-19 โดยเฉพาะความเสี่ยงจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ดังนั้นทางเครือข่ายงดเหล้า สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และมูลนิธิสื่อเพื่อสุขภาวะ จึงจัดเวทีเสวนาออนไลน์ “ประเพณีบุญบั้งไฟในยุคโควิด ความเชื่อ โอกาสและความเสี่ยง” เพื่อสะท้อนบทเรียนการทำงานควบคุมปัจจัยเสี่ยงในงานบุญบั้งไฟ
“งานบุญบั้งไฟถือเป็นภูมิปัญญา และความเชื่อ ที่แสดงออกถึงความสามัคคีของชาวบ้าน เพราะต้องเตรียมงานกันเป็นเดือน เป็นงานประจำปีที่มีความสนุกสนาน ขณะที่ลูกหลานก็จะกลับบ้านเพื่อมาร่วมงานนี้” เป็นความเห็นของ “นายมานพ แย้มอุทัย” คณะกรรมการกำกับทิศ สำนักควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส.
นายมานพ กล่าวว่า ปีนี้มีโรคโควิด-19 ระบาด สิ่งที่น่ากังวลคือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในงาน อาจจะเป็นต้นเหตุทำให้เกิดการแพร่ระบาดขึ้นมาได้ เพราะเมื่ออยู่ในภาวะมึนเมา ความสนุกสนานจากการดื่มสุรา มักทำให้ขาดสติ จนละเลยการป้องกันตนเอง ทำให้การรักษาสุขอนามัย เช่น การเว้นระยะห่าง ทำได้ไม่ดีพอ
“แนวทางหนึ่งที่น่าสนใจ คือการรณรงค์สร้างสื่อรู้เท่าทัน เช่น การทำหนังสั้นเชิดชูความงดงามของประเพณีบั้งไฟ ท่ามกลางวิกฤติโควิด-19 ขณะเดียวกันต้องชี้ให้เห็นโทษของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่แทรกซึมเข้ามา ทำให้คุณค่าของประเพณีบั้งไฟลดลง และยังเพิ่มความเสี่ยงที่จะแพร่ระบาดไปยังกลุ่มญาติพี่น้องได้อีกด้วย” นายมานพ กล่าว
ด้าน “นายวิษณุ ศรีทะวงศ์” ผู้จัดการแผนงานพัฒนานโยบายสาธารณะ สำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) เล่าภาพรวมสถานการณ์ปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ว่า น่าเสียดายที่บ่อยครั้งงานบุญที่งดงามต้องยุติลงกลางคัน เพียงเพราะมีคนเมาเหล้ามาป่วนขบวนแห่ ส่วนหนึ่งมาจากธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เข้ามาจัดลานเบียร์ ส่งเสริมการตลาดหวังยอดขาย เช่นเดียวกับปัญหาเล่นการพนัน ซึ่งมักพบว่ามีแทรกซึมอยู่ภายในงานด้วย
อย่างไรก็ตามในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทาง สคล. ภายใต้การสนับสนุนของ สสส. และภาคีเครือข่าย ได้ช่วยกันรณรงค์งานบุญบั้งไฟปลอดเหล้า สื่อสารประชาสัมพันธ์ ทำความเข้าใจกับร้านค้า ขอความร่วมมือ ตรวจเตือนเพื่อป้องกัน บางที่ถึงขนาดนำกิจกรรมรณรงค์งดเหล้าไปไว้ในขบวนแห่ รวมไปถึงจัดเวทีเสวนาถอดบทเรียน ซึ่งช่วยทำให้ปัญหาลดลง โดยพบว่าการจัดงานมีความปลอดภัยขึ้น ปัญหาการเมาทะเลาะวิวาทลดลง และพื้นที่ข้างเคียงเริ่มทำตาม เพราะเห็นผลดีของการจัดงานบุญปลอดเหล้า
นายวิษณุ กล่าวต่อว่า ช่วงโควิดระบาดในรอบนี้ต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก ในการจัดงานบุญประเพณี ดังนั้นเพื่อลดความเสี่ยงจากโควิด-19 จึงมีข้อเสนอดังนี้
1. ผู้ร่วมงานทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัย และเว้นระยะห่างกันอย่างน้อย 1-2 เมตร
2. เน้นการจัดงานแบบ SMS (Small / Meaningful / Safe) เล็กๆ แต่มีคุณค่าความหมาย เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีเท่านั้น
3. เปลี่ยนไปจัดในรูปแบบออนไลน์ เพื่อลดการพบปะสังสรรค์ ขณะที่ลูกหลานอยู่กับบ้าน ลองให้สืบค้นหาประวัติตำนานประเพณีบุญบั้งไฟ
4. เจ้าภาพจัดงานต้องกล้าตัดสินใจ ปฏิเสธไม่รับบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มาเป็นสปอนเซอร์จัดงาน เพราะเป็นอุปสรรคต่อการรณรงค์งานบุญปลอดเหล้า และยังช่วยลดการเข้าถึงเครื่องดื่มมึนเมาภายในงานได้
5. จัดทำบุญตักบาตร แบบ New Normal โดยมี อสม.หรือเจ้าหน้าที่ดูแลคัดกรอง และประชาสัมพันธ์มาตรการป้องกันโควิด-19
6. ให้ความรู้ถึงผลเสียของการดื่มแอลกอฮอล์ ในช่วงมีโควิดระบาด เช่น ทำให้ภูมิคุ้มกันร่างกายอ่อนแอลง ขณะที่การตั้งวงดื่มเหล้า อาจเกิดการส่งต่อเชื้อโดยไม่รู้ตัว หากมีการสัมผัส พูดคุย หรือใช้แก้วร่วมกัน
7. หากิจกรรมที่น่าสนใจมาสนับสนุนให้เด็กและเยาวชน ได้ซึมซับวัฒนธรรมที่ดีงาม และเห็นข้อดีของการจัดงานบุญปลอดเหล้า ปลอดการพนัน ในแบบฉบับของคนรุ่นใหม่ต่อไป
ในขณะที่นายประสาน ขันติวงษ์ กำนัน ต.เสียว อ.โพธิ์ศรีสุวรรณ จ.ศรีสะเกษ เล่าว่า ช่วงนี้โควิดระบาดหนัก ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยของชาวบ้าน ปีนี้ในพื้นที่จึงมีมติรวมกันแล้วว่า จะงดการจัดประเพณีบุญบั้งไฟ แต่จะมีในส่วนของพิธีกรรมไหว้ปู่ตา ซึ่งแต่ก่อนเราจะจัดเซ่นไหว้ด้วยเหล้าและไก่ต้ม แต่เดี๋ยวนี้เราสร้างชุมชนคุณธรรมขึ้นมา โดยการไหว้จะไม่มีเหล้าเข้ามาเกี่ยวข้อง และอาจจะจุดบั้งไฟเล็กๆ พอเป็นพิธี ขณะเดียวกันในพื้นที่ก็มีการรณรงค์ ในการป้องกันโควิด-19 กันอย่างเต็มที่ผ่านผู้นำชุมชน
“ประเพณีบุญบั้งไฟปลอดเหล้า ปลอดการพนันเกิดขึ้นได้ ไม่ใช่เป็นเพราะคำสั่งของทางราชการบังคับ แต่เกิดจากมติความเห็นพ้องต้องกันของคนในชุมชน ดังนั้นการจะรักษารูปแบบการจัดงานที่ดีเอาไว้ให้ยั่งยืน จะต้องอาศัยความร่วมไม้ร่วมมือของคนในพื้นที่ แสดงออกถึงความงดงามของประเพณี รวมไปถึงการปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนคนรุ่นใหม่เข้าใจ และสานต่อความดีงามนี้ให้คงอยู่ตลอดไป” นายประสาน กล่าว
การจัดงานประเพณีบุญบั้งไฟในยุคโควิด อาจจะมีเงื่อนไขและข้อจำกัดมากมาย แต่ทั้งหมดก็เพื่อสกัดยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 สสส.ขอสนับสนุนการจัดงานบุญปลอดเหล้าปลอดการพนัน เพื่อทำให้ประเพณีบุญบั้งไฟวิถีใหม่ เป็นพื้นที่ปลอดภัยสำหรับทุกคน