ประเทศไทยเจ้าภาพประชุมความปลอดภัยโลก
ที่มา : เว็บไซต์เดลินิวส์
ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ
ประเทศไทยกระหึ่มเจ้าภาพประชุมปลอดภัยโลก พร้อมปฏิวัติถนนต้องมีไหล่ทางครบปี 2573
นพ.วีระพันธ์ สุพรรณไชยมาตย์ รองประธานคนที่2 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เปิดเผยว่า ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุม Campaign, Advocacy for Safety 2018 หรือ การจัดประชุมรณรงค์ หนุนการประชุมนานาชาติ เรียกว่า การประชุมระดับโลกด้านการป้องกัน การบาดเจ็บและส่งเสริมความปลอดภัย ครั้งที่ 13 (Safety 2018- The 13thWorld Conference no Injury Prevention and Safety Promotion) ระหว่างวันที่วันที่ 5-7 พ.ย. 61 ณ ศูนย์ประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพฯ
นพ.อนุชา เศรษฐเสถียร ผู้จัดการโครงการประชาสัมพันธ์การประชุมระดับโลกว่าด้วยการป้องกัน การบาดเจ็บและความรุนแรงอย่างยั่งยืน กล่าวว่า ถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทย จากภูมิภาคเอเชียที่ได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพจัดประชุมครั้งนี้ โดยก่อนหน้านี้ประเทศอินเดียเคยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพเมื่อ 20 ปีก่อน ซึ่งการประชุมมักจัดในประเทศกลุ่มยุโรป โดยความร่วมมือของหน่วยงานหลัก 4 หน่วยงาน ได้แก่ องค์การอนามัยโลก กระทรวงสาธารณสุข สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริม สุขภาพ (สสส.) ทั้งนี้ องค์การอนามัยโลกต้องการลดการสูญเสียให้น้อยลง รวมถึงการลดความรุนแรงในเด็ก สตรี ยังเป็นเป้าหมายของโลก กำหนดไว้เป็นเป้าหมาย SDGs หรือ Sustainable Development Goals จนรัฐบาลทั่วโลกขานรับเป็นนโยบายที่ต้องทำการแก้ไข
นายอนุชา กล่าวต่อว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เสด็จพระราชดำเนิน และเป็นองค์ประธานเปิดงานผลงานทางวิชาการ จากผู้เชี่ยวชาญมาจากทั่วโลก ที่ผ่านการคัดเลือก 1,300 เรื่อง ในบรรดาผลงานมีเรื่อง การล้มของผู้สูงอายุมากที่สุด ผลงานวิชาการจากสหรัฐอเมริกากว่า 500 เรื่อง ประเทศจีน 158 ประเทศไทย 150 เรื่อง ทั้งนี้ ทั่วโลกที่มีสถิติรายงาน พบว่า ความรุนแรงเป็นภัยอันดับ 1 ของโลกมากกว่า 1.6 ล้านคน อันดับ 2 คือ รถชนกันตาย 1.5 ล้านคน คนตายเพราะล้มเสียชีวิต 646,000 เคส ต่อปี 360,000 รายจมน้ำเสียชีวิต ส่วนมากอายุน้อยกว่า 2 5ปี ทั้งนี้ประเทศไทยในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (55-59) อุบัติเหตุทางถนนทำให้เสียชีวิตสูงที่สุดเฉลี่ย 20,000 คนต่อปี รองลงมาเป็นการพลัดตกหกล้ม การทำร้ายตัวเอง การถูกทำร้าย การตกน้ำจมน้ำ นอกจากนี้พบว่าภาคเหนือ พบสถิติการล้มของผู้สูงอายุใน จ.เชียงใหม่ มีถึง 80% อาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นมีเรื่องของสะโพกหักจนถึงการเสียชีวิต เพราะรอคิวผ่าตัด และเคลื่อนย้ายผู้ป่วยมา รพ.ผิดวิธี
นพ.อนุชา กล่าวอีกว่า ไทยได้ร่วมลงนามทศวรรษเพื่อความปลอดภัยทางถนนกับนานาชาติในปี ค.ศ.2030 (พ.ศ.2573) มีข้อตกลงต้องปรับปรุงถนนให้ได้มาตรฐานสามดาว ถนนต้องมีไหล่ทางเพราะการมีไหล่ทางจะลดการตายบนท้องถนนได้ 50% นอกจากนี้จะต้องผลิตรถให้ได้มาตรฐานสากล คือมีระบบสัญญาณเตือนเมื่อจะชนรถคันหน้า รวมทั้งการควบคุมความเร็วเกินกำหนด ประเทศไทยจะต้องมีระบบควบคุมการทำงานของพนักงานขับรถ ตามมาตรฐานสากลขับ 4 ชม. ต้องพัก รวมทั้งเข้มงวดกับการออกใบขับขี่