ประณามรัฐบาลล้มประกาศห้ามขายเหล้าวันพระใหญ่

264 องค์กร ทำหนังสือท้วง

 

ประณามรัฐบาลล้มประกาศห้ามขายเหล้าวันพระใหญ่          มีปฏิกิริยาทันที หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้ลงนามในประกาศสำนักนายกรัฐมนตรีกำหนดห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันมาฆบูชา วิสาขบูชา อาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา เพื่อให้มีผลบังคับใช้ทันในวันอาสาฬหบูชาที่ผ่านมา ตามเสียงเรียกร้องของภาคประชาชนและเครือข่ายพระสงฆ์นั้น แทบไม่น่าเชื่อว่า ความหวังที่จะมีมาตรการช่วยส่งเสริมพระพุทธศาสนาสร้างความชัดเจนในเรื่องศีลธรรม กลับมีอันต้องสะดุดหยุดลงจากการที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ทำหนังสือทักท้วงโดยขอให้มีข้อยกเว้นการขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในโรงแรม

 

          เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม นายคำรณ ชูเดชา เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์ เปิดเผยว่า พฤติกรรมดังกล่าวนี้ถือเป็นการผิดมารยาททางการเมืองอย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นการหักหน้าผู้นำประเทศ ที่ได้ประกาศไว้ต่อสาธารณชนและถึงขั้นได้ลงนามในประกาศดังกล่าวแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้มีคำแนะนำให้ความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ มีมีพลตรีสนั่น ขจรประศาสตร์ เป็นประธานครบถ้วนตามกระบวนการที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ทุกประการ แต่ด้วยมือที่ชอบอ้างถึงผละกระทบจากการท่องเที่ยว และเป็นมือที่คอยขัดขวางมาตรการควบคุมเครื่องดื่มมาตรการห้ามขายเหล้าช่วงสงกรานต์ ก็ได้แสดงอิทธิฤทธิ์อีกครั้ง โดยไม่เคยมีข้อมูลทางวิชาการมายืนยัน นักท่องเที่ยวเป็นเพียงตัวประกันหน้าฉาก ที่หลังฉากคือการปกป้องนายทุนน้ำเมา

 

          คราวนี้ นายชุมพล ศิลปอาชา หัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จับมือกับอีกครั้งกับ พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งหมวกอีกใบหนึ่งคือประธานคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เจ้าเดิม อ้างถึงผลกระทบจากการท่องเที่ยวอีกตามเคย ล่าสุดมีข่าวออกมาว่าจะมีจัดประชุมคณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพื่อให้คำแนะนำยกเว้นให้กับโรงแรมในวันพรุ่งนี้ช่วงบ่ายที่ทำเนียบรัฐบาลหรือที่ไหนสักแห่งหนึ่ง เพื่อกดดันนายกรัฐมนตรีอีกรอบ เล่นออกโรงขวางไม่เว้นแม้กระทั่งวันสำคัญทางพระพุทธศาสนาแบบนี้ เชื่อได้ว่าชาวพุทธทั่วประเทศไม่อาจทนพฤติกรรมดังกล่าวได้อีกต่อไปแล้ว

 

          เครือข่ายรณรงค์ป้องกันภัยแอลกอฮอล์และภาคี 264 องค์กร จึงขอแสดงจุดยืนและเรียกร้องดังต่อไปนี้

 

          1) ขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงความชัดเจนในนโยบายทางสังคม และมีภาวะความเป็นผู้นำที่เด็ดขาด ไม่กลับไปกลับมาด้วยการเดิมหน้ามาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันมาฆบูชา วิสาขบูชา อาสาฬหบูชา และวันเข้าพรรษา โดยไม่มีข้อยกเว้นเพราะทุกกระบวนการที่ผ่านมานั้นชอบด้วยกฎหมาย และขอให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีในการทำเรื่องดีๆ

 

          2) ขอประณามบุคคลและขบวนการที่ขัดขวางมาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา และขอเรียกร้องให้พุทธศาสนิกชนจดจำชื่อบุคคลและพรรคการเมืองนี้ไว้เพื่อประชาชนจะร่วมกันให้บทเรียนครั้งสำคัญกับนักการเมือง ที่นอกจากจะไม่ทำนุบำรุงพุทธศาสนาแล้วยังขัดขวางทางเจริญ ทางที่ดีงามซึ่งกำลังจะเกิดขึ้นแก่ชาวพุทธอีกด้วย

 

          3) การเปิดช่องว่างให้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในโรงแรม โดยอ้างนักท่องเที่ยวนั้น ด้านหนึ่งคือการผลักให้บรรดานักดื่มทั้งหลาย กระโจนเข้าไปเป็นลูกค้ากับโรงแรมต่างๆ ในวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา เป็นการกีดกันผู้ค้ารายหนึ่งแต่ไปสร้างประโยชน์ให้ผู้ค้าอีกรายหนึ่ง และเป็นคำสั่งทางปกครองที่มีปัญหาเลือกปฏิบัติ เข้าข่ายการกีดกันทางการค้าที่ศาลอาจต้องพิจารณาการฟ้องร้อง จากบรรดาผู้ประกอบการที่เสียประโยชน์จากมาตรการที่ไม่เป็นธรรมนี้ และต่อไปบรรดาโรงแรมจิ้งหรีด ม่านรูดทั้งหลาย คงมีพัฒนาการกลายเป็นร้านเหล้ากันเต็มบ้านเต็มเมือง วันสำคัญทางพระพุทธศาสนาก็จะมีคนจำนวนไม่น้อยที่หลบกระแสธรรมเข้าไปเมากันในโรงแรม

 

          4) คำถามที่พลตรีสนั่น ขจรประศาสน์ และนายชุมพล ศิลปอาชา ต้องตอบกับสังคมคือหามมีมาตรการดังกล่าวแล้วนักท่องเที่ยวจะไม่มาเมืองจริงหรือ? แล้วต่อไปหากมีมาตรการห้ามขายเหล้าปั่น ห้ามขายเหล้าในพื้นที่รอบสถานศึกษาเพื่อปกป้องกันเด็กและเยาวชน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา จะมาอ้างผลกระทบนักท่องเที่ยวอีกหรือไม่? และหากมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายฯ จริง ในวันพรุ่งนี้ หวังว่าบรรดากรรมการซึ่งเป็นรัฐมนตรีจากหลายกระทรวงจะมีจุดยืนที่เห็นแก่พระพุทธศาสนาบ้าง

 

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์

 

 

Update 10-07-52

 

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์

Shares:
QR Code :
QR Code