ประชาชนต่อคิวซื้อหน้ากากอนามัยจำกัดคนละ 10 ชิ้น

ที่มา : แนวหน้า


ประชาชนต่อคิวซื้อหน้ากากอนามัยจำกัดคนละ 10 ชิ้น thaihealth


แฟ้มภาพ


หารือแนวทางบริหารจัดการหน้ากากอนามัย ขอประชาชนอย่ากักตุน ชี้มีโทษหนักจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท พาณิชย์ขอความร่วมมือผู้ค้า ออกมาตรการห้ามซื้อเกิน 10 ชิ้นต่อคน 


เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ ที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้มีการหารือร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ องค์การเภสัชกรรม และบริษัทผู้ผลิตหน้ากากอนามัยทั่วประเทศ เพื่อหารือถึงการบริหารจัดการหน้ากากอนามัยให้เพียงพอกับความต้องการใช้ภายในประเทศไทย ในช่วงที่มีสถานการณ์การระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019


นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังการประชุม ว่าจากการหารือร่วมกันกับผู้ผลิตหน้ากากอนามัย มีการเพิ่มกำลังการผลิตเพิ่มราว 10-20 เปอร์เซ็นต์ และมีการ กระจายสินค้าไปทั่วประเทศ ซึ่งถือว่าเพียงพอ ต่อความต้องการใช้ของประชาชนในระยะนี้ ขอเพียงแค่ประชาชนอย่ากักตุนหน้ากากอนามัยไว้กับตัวจำนวนมาก เพราะส่วนหนึ่งก็มีอายุการใช้งาน แล้วที่กักตุนไว้ก็ไม่รู้ว่ามีมาตรฐานในการเก็บรักษาอย่างไร ในส่วนของกระทรวงสาธารณสุขเองก็ได้พยายามรณรงค์ให้บุคลากรหันมาใช้หน้ากากผ้าในส่วนงานที่ไม่เกี่ยวข้องกับความเสี่ยงในการสัมผัสโรค เช่น คนที่ไม่ได้ทำงานออฟฟิศ ไม่ได้อยู่ในห้องผ่าตัด ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดปริมาณการใช้หน้ากากอนามัยชนิดกระดาษได้ประมาณ 2 แสนชิ้น


ด้าน นายประโยชน์ เพ็ญสุต รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ขณะที่ ได้มีการออกกฎหมายให้หน้ากากอนามัย และเจลล้างมือเป็นสินค้าควบคุม จึงห้ามกักตุนหน้ากากอนามัยไว้ ห้ามส่งออกนอกประเทศ หากจะส่งต้องขออนุญาตส่ง รวมถึงมีการจำกัดโควตาการซื้อของประชาชน ไม่เกินคนละ 10 ชิ้นต่อครั้ง ตอนนี้เราได้ สั่งการให้ผู้ผลิต ผู้ส่งออก นำเข้า หน้ากาก อนามัยต้องรายงานสินค้าที่มีอยู่มาให้กรมการค้าภายในทราบภายในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ แต่ในทางปฏิบัติ ทางกรมฯเอง ก็ได้มีการส่งเจ้าหน้าที่ลงไปตรวจสอบในเชิงลึกด้วย หากใครมีการกักตุนสินค้าเอาไว้จะมีโทษจำคุก 7 ปี ปรับไม่เกิน 1.4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งนี้หากสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติก็จะเลิกมาตรการจำกัดการซื้อ


นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า ได้ขอความร่วมมือให้ผู้ค้า จำกัดการซื้อหน้ากากอนามัยของประชาชน โดยจำกัดปริมาณการซื้อไม่เกินคนละ 10 ชิ้น ซึ่งจะเริ่มดำเนินการได้ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป อย่างไรก็ตาม การจำกัดการซื้อดังกล่าว ยังไม่ครอบคลุมร้านขายยา และร้านค้าทั่วไป แต่ถ้าการขอความร่วมมือยังไม่สามารถทำให้สินค้ากระจายได้อย่างทั่วถึง กรมจะใช้อำนาจตามกฎหมายว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ออกมาตรการบังคับให้ห้างจำกัดการขายต่อไป


นายวิชัยกล่าวว่า ผู้ที่จะส่งออกหน้ากากอนามัยเพื่อการค้าหรือไม่ก็ตาม ตั้งแต่ 500 ชิ้นขึ้นไป จะต้องขออนุญาตก่อน เริ่มขออนุญาตได้ตั้งแต่วันที่ 6 กุมภาพันธ์ เป็นต้นไป และกรมจะขอความร่วมมือกรมศุลกากร หากไม่มีหนังสืออนุญาตจากกรม ห้ามให้ส่งออกโดยเด็ดขาด พร้อมกันนั้น กรมจะนำไปกระจายผ่านร้านธงฟ้า ที่มีอยู่ทั่วประเทศกว่า 120,000 ร้านด้วย

          

Shares:
QR Code :
QR Code