ประกาศเพิ่มพื้นที่ “ห้ามสูบบุหรี่”

ฝ่าฝืนโทษปรับไม่เกิน 2 พันบาท

 

          เมื่อวันที่ 2 มีนาคม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงว่า เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา สธ.ได้ออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข ฉบับที่ 19 พ.ศ.2553 เรื่อง กำหนดชื่อหรือประเภทของสถานที่สาธารณะที่ให้มีการคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สุบบุหรี่และกำหนดส่วนหนึ่งส่วนใด หรือทั้งหมดของสถานที่สาธารณะดังกล่าวเป็นเขตสูบบุหรี่หรือเขตปลอดบุหรี่ ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) คุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ พ.ศ.2535 โดยจะมีผลบังคับใช้หลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาภายใน 90 วัน คาดว่าจะเริ่มบังคับใช้ในอีก 4 เดือนข้างหน้า

 

ประกาศเพิ่มพื้นที่ “ห้ามสูบบุหรี่”

          นายจุรินทร์กล่าวถึงสาระสำคัญของประกาศว่า เป็นการกำหนดสถานที่ห้ามสูบบุหรี่ 3 กลุ่มหลัก คือ 1. สถานที่ที่ห้ามสูบบุหรี่ทั้งหมด (เดิมอนุญาตให้สูบในห้องส่วนตัวหรือในส่วนที่มีการจัดพื้นที่ไว้เป็นการเฉพาะ) ได้แก่ สถานที่สาธารณะทั่วไป ยานพาหนะสาธารณะ สถานบริการสาธารณสุขและส่งเสริมสุขภาพทั้งของคนและสัตว์ สถานศึกษา เช่น โรงเรียน อุทยานการเรียนรู้ ศูนย์การเรียนรู้ สถาบันกวดวิชา สอนดนตรี กีฬาและศิลปะ หอศิลป์ พิพิธภัณฑสถาน สถานที่สาธารณะที่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน อาทิ ร้านค้า สถานบันเทิง สถานที่ออกกำลังกาย ห้างสรรพสินค้า และบริเวณโถงพักคอยและบริเวณทางเดินทั้งหมดภายในอาคารโรงแรม ห้องเช่า หอพักคอนโดมิเนียม ศาสนสถาน ธนาคาร และสถาบันการเงิน

 

          นายจุรินทร์ กล่าวว่า 2.สถานที่ห้ามสูบบุหรี่ในอาคาร แต่สามารถจัดพื้นที่สูบนอกอาคารได้(เดิมอนุญาตให้สูบในอาคารได้หากมีการจัดพื้นที่ไว้เป็นการเฉพาะ) ได้แก่ สถานที่ราชการและรัฐวิสาหกิจ สถานีบริการน้ำมันและแก๊ส มหาวิทยาลัยและสถาบันการศึกษาตั้งแต่ระดับอุดมศึกษา สถานที่ทำงานเอกชนสถานีขนส่งผู้โดยสารทางบกทุกประเภทสถานีรถไฟ และ 3.สถานที่อนุญาตให้สูบในอาคาร แต่จะต้องมีการจัดพื้นที่ไว้เป็นการเฉพาะ ได้แก่ สนามบินนานาชาติ เท่านั้น ส่วนสนามบินภายในประเทศ ซึ่งเดิมอนุญาตให้สูบในพื้นที่เฉพาะจะยกเลิก ผู้ฝ่าฝืนมีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท ทั้งนี้ในอนาคตจะพิจารณาเอาผิดไปถึงเจ้าของสถานที่ด้วย หากปล่อยให้มีการงฝ่าฝืนกฎหมาย

 

          ด้าน นพ.ชูฤทธิ์ เต็งไตรสรณ์ ผู้อำนวยการสำนักควบคุมการบริโภคยาสูบ กรมควบคุมโรค กล่าว่า ประกาศฉบับนี้ครอบคลุมร้านอาหาร ร้านค้า ทั้งบริเวณที่มีการจัดส่งอาหารโต๊ะอาหารทั้งภายในและภายนอกร้าน (open air) ก็ห้ามสูบทั้งสิ้น สำหรับระเบียงคอนโดมิเนียมในห้องส่วนตัว ประกาศฉบับนี้ยังไม่สามารถเอาผิดได้ แต่สามารถใช้กฎหมายขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการ ในฐานที่สร้างความเดือดร้อน รำคาญให้กับผู้อื่นแทนได้ ซึ่งเร็วๆ นี้ จะทำหนังสือแจ้งไปยังหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อให้ทราบรายละเอียดต่อไป

 

 

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน

 

 

update 03-03-53

 

อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์

Shares:
QR Code :
QR Code