ประกันสังคมยุค 4.0 เข้าถึงสิทธิประโยชน์รอบด้าน
ที่มา : เว็บไซต์สยามรัฐ
แฟ้มภาพ
กระทรวงแรงงานมุ่งหวังให้ความคุ้มครองผู้ประกันตนตามแนวคิดประกันสังคมถ้วนหน้า โดยในปี 2562 แนวทางในการดำเนินงานที่ต้องเน้นหนักและเร่งรัดการขยายความคุ้มครองประกันสังคมสู่แรงงานนอกระบบ ให้เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เพื่อการเข้าถึงหลักประกันทางสังคมทุกกลุ่มอาชีพ ซึ่งจะเป็นการสร้างหลักประกันทางสังคมที่ครอบคลุมตอบสนองตามยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ยุทธศาสตร์ที่ 4 การสร้างความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางสังคมที่กำหนดให้มีสวัสดิการทางสังคมที่เหมาะสมกับคนทุกเพศ ทุกวัยของรัฐบาล
พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.แรงงาน ให้สัมภาษณ์ถึงความพร้อมการทำงานของสำนักงานประกันสังคมในโอกาสก้าวสู่ปีที่ 29 ว่า ในการขยายความคุ้มครองประกันสังคมสู่แรงงานนอกระบบให้เป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 ของสำนักงานประกันสังคมได้ขยายความคุ้มครองไปในทุกกลุ่มอาชีพในปี 2561 โดยที่ผ่านมาได้มอบนโยบายเน้นหนักและเร่งด่วนให้สำนักงานประกันสังคม เร่งผลักดันการขยายความคุ้มครองประกันสังคมสู่แรงงานนอกระบบเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เพิ่มอีก 1 ล้านคนให้เข้าถึงหลักประกันทางสังคมครอบคลุม เหมาะสมกับคนทุกเพศ ทุกวัย ทุกกลุ่มอาชีพ และส่งเสริมให้แรงงานภาคสมัครใจเข้าสู่ระบบประกันสังคมอย่างทั่วถึง
โดยปัจจุบันได้มีการขยายความคุ้มครองสู่แรงงานนอกระบบทุกกลุ่มอาชีพเช่น แท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง และกลุ่มอาชีพอื่นๆ ขณะนี้มีสมาชิกกลุ่มดังกล่าวเข้าสู่ระบบประกันสังคมแล้วจำนวน 113,777 คน อีกทั้งสำนักงานประกันสังคมได้พัฒนาและเพิ่มสิทธิประโยชน์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับลูกจ้าง ผู้ประกันตน อาทิ พัฒนารูปแบบการให้บริการกรณีทันตกรรมโดยไม่ต้องสำรองจ่าย มีผู้ประกันตนเข้าถึงบริการทันตกรรมเพิ่มขึ้นจากปี 2560 จำนวนถึง 8 แสนครั้ง เพิ่มเป็น 1.27 ล้านครั้งในปัจจุบัน เพิ่มเงินสงเคราะห์บุตรจาก 400 บาทเป็น 600 บาทต่อเดือน ให้แก่บุตรผู้ประกันตนกว่า 1 ล้านคน ขณะนี้อยู่ระหว่างการออกกฎกระทรวงให้มีผลบังคับใช้ย้อนหลังตั้งแต่ 1 ม.ค.61 เป็นต้นไป
นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มค่าฝากครรภ์ กรณีคลอดบุตรให้กับผู้ประกันตนกว่า 290,000 คน เพิ่มสิทธิประโยชน์และค่าทดแทนให้กับลูกจ้างที่ทำงานให้กับนายจ้างในระบบกองทุนเงินทดแทน โดยจัดทำร่างแก้ไขพระราชบัญญัติเงินทดแทน (ฉบับที่…) พ.ศ. …เพื่อเพิ่มความคุ้มครองให้กับลูกจ้างได้มีหลักประกันที่มั่งคงและยั่งยืน ขณะนี้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)เห็นชอบผ่านร่างพระราชบัญญัติเงินทดแทนฉบับใหม่แล้ว เตรียมเสนอสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อนนำขึ้นทูลเกล้าเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อบังคับใช้ต่อไป คาดว่าจะมีผลบังคับใช้ภายในสิ้นปี 2561
สำหรับการดำเนินตามนโยบายเร่งด่วน(Agenda Based)ของกระทรวงแรงงานประจำปีงบประมาณ 2562 ตามกลยุทธ์ก้าวกระโดด สำนักงานประกันสังคมได้ดำเนินการพัฒนาและปรับปรุงสิทธิประโยชน์การประกันสังคม และปรับปรุงบริการทางการแพทย์เช่น เพิ่มสิทธิประโยชน์กรณีเข้ารับการผ่าตัดวันเดียวกลับ (One day Surgery) ปรับปรุงสิทธิประโยชน์กรณีรักษาโรคมะเร็ง ปรับปรุงสิทธิประโยชน์กรณีผู้ทุพพลภาพ ปรับปรุงมาตรฐานสถานพยาบาลที่ให้บริการพัฒนารูปแบบการให้บริการทางการแพทย์กับสถานพยาบาลต่างๆ ในรูปแบบใหม่เพื่อให้บริการผู้ประกันตนระดับพรีเมียมส่งเสริมและป้องกันโรคแก่ผู้ประกันตนในสถานประกอบการ ปรับปรุงสิทธิประโยชน์กรณีสงเคราะห์บุตรให้ผู้ประกันตนที่สิ้นสภาพได้รับสิทธิประโยชน์ไปอีก 6 เดือน จากเดิมขาดสิทธิทันที
ทั้งนี้ยังมีการให้สัตยาบันอนุสัญญา ILO C 102 ปฏิรูประบบประกันสังคม เพื่อรองรับเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ปฏิรูประบบบำนาญ การปรับเพดานค่าจ้างปรับสูตรการคำนวณบำนาญ ประกันเงินบำนาญขั้นต่ำ กรณีเสียชีวิตภายใน 5 ปี ผู้รับบำนาญทำงานต่อได้สิทธิประโยชน์ 3 กรณีคือ เจ็บป่วย ทุพพลภาพ ตาย ขยายอายุการรับบำนาญจาก 55 ปีเป็น 60 ปี ขยายอายุผู้สมัครเป็นผู้ประกันตนในระบบจากเดิม 15–60 ปีเป็น 15 ปีขึ้นไป ขยายโอกาสในการรับสมัครผู้ประกันตนมาตรา 40 ตั้งแต่อายุ 60 ปีขึ้นไป การจ้างงานผู้สูงอายุเข้าทำงานกับสำนักงานประกันสังคมสำหรับบุคคลที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป บูรณาการภาคีเครือข่ายในการส่งเสริม คุ้มครอง และพัฒนาแรงงานนอกระบบให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
โดยในส่วนของการแก้ไขกฎหมายกองทุนเงินทดแทน ตามพระราชบัญญัติเงินทดแทนฉบับใหม่ จะส่งผลให้มีการขยายความคุ้มครองให้กับลูกจ้างชั่วคราวส่วนราชการทุกประเภทและเพิ่มสิทธิประโยชน์ให้กับลูกจ้างที่ประสบอันตรายอันเนื่องจากการทำงาน เช่น การเพิ่มอัตราค่าทดแทนกรณีต่างๆจากร้อยละ 60 เป็นร้อยละ 70 ของค่าจ้างรายเดือน เพิ่มระยะเวลาการจ่ายค่าทดแทนกรณีลูกจ้างทุพพลภาพเป็นไม่น้อยกว่า 15 ปี ปัจจุบันไม่เกิน 15 ปี เพิ่มระยะเวลาการจ่ายค่าทดแทนกรณีลูกจ้างถึงแก่ความตายหรือสูญหายเป็นไม่เกิน 10 ปี ปัจจุบันไม่เกิน 8 ปี แก้ไขหลักเกณฑ์การจ่ายค่าทดแทนสำหรับกรณีลูกจ้างไม่สามารถทำงานได้ให้ได้รับตั้งแต่วันแรกที่ลูกจ้างไม่สามารถทำงาน ปัจจุบันจ่ายค่าทดแทนกรณีลูกจ้างไม่สามารถทำงานติดต่อกันได้เกิน 3 วัน
ขณะเดียวกันได้มีการเพิ่มการจ่ายค่าทำศพแก่ผู้จัดการศพของลูกจ้างตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวง ปัจจุบันการจ่ายค่าทำศพแก่ผู้จัดการศพของลูกจ้างเป็นจำนวน 100 เท่า ของอัตราสูงสุดของค่าจ้างขั้นต่ำรายวันตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานในส่วนของนายจ้างจะได้รับประโยชน์จากร่างพระราชบัญญัติเงินทดแทนนี้เช่นกันคือได้มีร่างกฎหมายในการปรับลดเงินเพิ่มจากเดิมร้อยละ 3 ต่อเดือน ลดลงเหลือร้อยละ 2 ต่อเดือน และไม่เกินเงินสมทบที่นายจ้างต้องจ่ายอีกด้วย
สำหรับในส่วนของการให้บริการสำนักงานประกันสังคมได้มีการยกระดับการให้บริการผู้ประกันตน ในระบบ e-Service เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ผู้ประกันตนในรูปแบบที่หลากหลายทั้ง e-Service,Mobile Application, Social Media และ Web application ได้แก่ พัฒนาระบบ e-Service เพิ่มช่องทางการสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตนมาตรา 40 ผ่านช่องทางต่างๆ เพิ่มขึ้นอาทิ ศูนย์บริการข้อมูล 1506 ร้านสะดวกซื้อ(7-11) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร เพิ่มช่องทางการชำระเงินสมทบผ่านธนาคารและหน่วยบริการพัฒนารูปแบบการรับ-จ่ายเงินให้สอดคล้องกับเทคโนโลยี และนวัตกรรมด้านการเงิน เพื่อก้าวสู่สังคมดิจิทัล โครงการ e-self Service สำหรับนายจ้างและผู้ประกันตน การบูรณาการระหว่างสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัลกับสำนักงานประกันสังคม การจัดทำโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามนายจ้างมาขึ้นทะเบียนประกันสังคมโดยใช้ E-mail /SMS แทนการออกหนังสือ การยกเลิกการขอสำเนาเอกสารทางราชการ(Zero copy)
โดยในโอกาสครบรอบปีที่ 28 ของสำนักงานประกันสังคม ขอชื่นชมบุคลากรของสำนักงานที่ตั้งใจทำงาน ทุ่มเท มุ่งมั่นพัฒนาสิทธิประโยชน์ต่างๆเพื่อให้ผู้ประกันตนได้รับการบริการที่เป็นเลิศ รวมถึงเป็นที่พึ่งให้กับผู้ประกันตนอย่างแท้จริง