ปฐมพยาบาลเบื้องต้น ความรู้สำหรับครอบครัว

/data/content/26541/cms/e_cejosyz12367.jpg


          กระแสวิ่งกำลังมาแรงตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น คนทำงาน และผู้สูงอายุ ก็นิยมกันมากขึ้น แต่บางคนอาจยังไม่รู้ว่าการเตรียมตัวที่ดี โดยเฉพาะการวอร์มอัพร่างกาย เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตัวเราออกกำลังกายได้ดีขึ้น และลดอาการบาดเจ็บ หรืออุบัติเหตุในขณะออกกำลังกายได้ ในทางกลับกัน หากใครไม่สามารถหลีกเลี่ยงอาการดังกล่าว หรือพบเห็นบุคคลที่ได้รับอุบัติเหตุ ก็ควรจะรู้วิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น ที่จะช่วยลดความรุนแรงจากอาการบาดเจ็บเหล่านั้น ก่อนส่งต่อให้แพทย์ช่วยเหลือและรักษาได้ง่ายขึ้น


          ในโอกาสที่สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับสมาพันธ์ชมรมเดินวิ่งเพื่อสุขภาพไทย และภาคีเครือข่ายสุขภาพ กำลังจะจัดงาน "เดิน-วิ่งสู่ชีวิตใหม่ ไทย เฮลธ์ เดย์ รัน 2014" ครั้งที่ 3 (Thai health Day run 2014) ในวันอาทิตย์ที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา ณ บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า รัชกาลที่ 5 ได้จัดการบรรยายประกอบการสาธิต เรื่อง "แนวทางการกู้ชีพฉุกเฉิน" ขึ้นเพื่อให้ความรู้แก่ประชาชน


          นายนารอน แสนทวีผล นักพยาบาลวิชาชีพ จากศูนย์บริการทางการแพทย์ฉุกเฉิน กทม. (ศูนย์เอราวัณ) บอกเล่าประสบการณ์ว่า ในชีวิตประจำวันเมื่อเราเจอผู้ประสบเหตุโดยที่ไม่คาดคิด ทุกคนมักตกใจ แม้แต่/data/content/26541/cms/e_fgijkmuv2458.jpgตนเองซึ่งทำงานช่วยเหลือสังคมมา 20 ปี ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังมีอาการตื่นเต้นอยู่เช่นกัน ซึ่งเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้นได้เสมอ ในอดีตที่ผ่านมามักจะเน้นการนำส่งโรงพยาบาลให้เร็วที่สุด แต่บางครั้งการช่วยเหลือที่ไม่ถูกต้องก็อาจจะก่อให้เกิดอันตรายกับผู้บาดเจ็บได้เช่นกัน


          นักพยาบาลวิชาชีพจาก กทม.อธิบายต่อว่า เมื่อประสบเหตุฉุกเฉิน เบื้องต้นต้องปฏิบัติดังนี้ ประการแรกคือ ต้องควบคุมสติให้ได้ อย่าตื่นกลัวจนทำอะไรไม่ถูก ข้อสองต้องเน้นตัวผู้ที่ช่วยเหลือต้องปลอดภัยก่อน เช่น กรณีช่วยคนถูกไฟชอร์ต ซึ่งต้องระวังอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำซ้อนได้ และข้อสาม กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินต้องนึกถึงเบอร์สายด่วน 191 หรือ 1646 ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ ให้แจ้งที่ 1669 ซึ่งจะเป็นเบอร์กลางที่จะประสานไปยังหน่วยงานช่วยเหลือที่เกี่ยวข้องได้


          ส่วนกรณีการเกิดเหตุระหว่างการวิ่งทั่วไปหรือวิ่งมาราธอนนั้น นายนารอนบอกว่า พบไม่บ่อยนัก เพราะส่วนใหญ่นักวิ่งมักจะเป็นผู้ที่มีสุขภาพดี และเตรียมร่างกายมาก่อนแล้ว อย่างไรก็ตาม หากเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินขึ้น เช่น ผู้สูงอายุวิ่งไปแล้วเกิดอาการแน่นหน้าอกหรือหมดสติ ผู้ที่ประสบเหตุจะต้องมีสติ ไม่ตกใจจนเกินไป จากนั้นให้สอบถามดูอาการว่าผู้ป่วยยังมีสติอยู่หรือไม่ หากหมดสติให้รีบโทร.ไปที่เบอร์สายด่วนเพื่อเรียกรถพยาบาล


          จากนั้นให้ทำตามคำแนะนำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่ทางโทรศัพท์ เช่น การปั๊มหัวใจโดยให้/data/content/26541/cms/e_bijlnoqsu128.jpgวางมือที่กระดูกหน้าอกคนไข้ กดลึกประมาณ 2 นิ้ว และปล่อยให้สุด ปั๊มเป็นจังหวะต่อเนื่องกันอย่างน้อย 100 ครั้งใน 1 นาที ทำไปเรื่อยๆ อย่าหยุด จนกว่าคนไข้จะได้สติกลับคืนมา หรือจนกว่ารถพยาบาลจะมาถึง


          ด้านเวทีเสวนาเรื่อง "จัดงานวิ่งอย่างไรให้ได้มาตรฐานและสร้างความสุขแก่นักวิ่ง" โดย พ.ต.ท.ประชา เนียมสุวรรณ รอง ผกก.จร.สถานีตำรวจนครบาลนางเลิ้ง บอกเล่าภารกิจของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ผู้อยู่เบื้องหลังความปลอดภัยของนักวิ่งมาราธอน ว่า เป็นเรื่องธรรมดาที่หากมีการจัดงานวิ่งในเมือง มักจะมีปัญหากับผู้ที่ใช้รถใช้ถนนบ้าง แต่ถ้าเราวางแผนประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์ก่อนจัดงาน โดยบอกให้เขารู้ว่าจะเลี่ยงไปใช้เส้นทางใดได้บ้าง เชื่อว่าปัญหาเหล่านี้จะลดลงไปได้


          ขณะที่ผู้ที่จะมาร่วมกิจกรรมไม่ควรนำของมีค่าต่างๆ โดยเฉพาะเครื่องประดับติดตัวมาด้วย ที่สำคัญไม่ควรเก็บเอาไว้ในรถ เพราะกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่เพียงพอที่จะไปดูแลรถทุกคันได้ นอกจากนี้ระหว่างการวิ่งควรสังเกตการให้สัญญาณจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อความปลอดภัย เช่น การหยุดให้รถได้ผ่านไปก่อน เป็นต้น


          ด้านนายกำธร นทีธนสาร นักวิ่งมาราธอน ในฐานะผู้จัดทำเว็บไซต์เรื่องวิ่งเรื่องกล้วย บอกว่า การจัดงานวิ่งมาราธอนให้ประสบความสำเร็จและมีความสุขนั้น จากการประสบการณ์ที่ได้เข้าร่วมงานวิ่งมาราธอนในต่างประเทศพบ/data/content/26541/cms/e_abdhinorxz45.jpgว่า แบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ ช่วงก่อนการแข่งขัน เริ่มจากระบบการรับสมัครเข้าใจง่าย สถานที่รับของสะดวกรวดเร็ว


          ขณะที่ช่วงระหว่างการแข่งขันจะต้องปิดการจราจรได้จริง มีบริการน้ำเย็นหรือเครื่องดื่มเกลือแร่ตามจุดต่างๆ การจำกัดจำนวนนักวิ่งเท่าที่จัดการได้ การทำป้ายบอกระยะทางที่ถูกต้องชัดเจน รวมถึงต้องมีห้องน้ำเพียงพอ ส่วนช่วงหลังการแข่งขันจะต้องมีอาหารไว้สำหรับคนที่เข้าเส้นชัย และต้องไม่ใช้โฟมใส่อาหาร เพราะกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และหากปล่อยทิ้งไว้จะทำลายภาพของนักวิ่งที่ทำกิจกรรมแบบอนุรักษ์ธรรมชาติ


          หากทุกคนรับทราบหลักการปฐม พยาบาลเบื้องต้นได้ ก็เชื่อว่าจะช่วยชีวิตและอาการบาดเจ็บของผู้คนในสังคมได้มากขึ้น


          เมื่อประสบเหตุฉุกเฉิน เบื้องต้นต้องปฏิบัติดังนี้ ประการแรกคือ ต้องควบคุมสติให้ได้ อย่าตื่นกลัวจนทำอะไรไม่ถูก ข้อสองต้องเน้นตัวผู้ที่ช่วยเหลือต้องปลอดภัยก่อน เช่น กรณีช่วยคนถูกไฟชอร์ต ซึ่งต้องระวังอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดขึ้นซ้ำซ้อนได้ และข้อสาม กรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินต้องนึกถึงเบอร์สายด่วน 191 หรือ 1646 ส่วนพื้นที่กรุงเทพฯ ให้แจ้งที่ 1669


 


 


          ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์


          ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต

Shares:
QR Code :
QR Code