“บิ๊กอาย” สวยแต่เสี่ยงตาบอด!

ทำให้กระจกตาอักเสบและติดเชื้อได้ง่าย

 

 “บิ๊กอาย” สวยแต่เสี่ยงตาบอด!

 

          “บิ๊กอาย” แฟชั่นมาแรงจากเกาหลี กำลังเป็นที่นิยมในมวลหมู่สาวๆ ตั้งแต่วัยรุ่นจนถึงคนทำงาน เพื่อเพิ่มสีสันในดวงตา และยังทำให้ตาดูกลมโตยิ่งขึ้น

 

          ความนิยมของแฟชั่นบิ๊กอาย ปัจจุบันจึงซื้อหาได้ง่ายตามท้องตลาดไม่จำกัดแค่เพียงการซื้อขายในร้านสายตาเท่านั้น แต่ตามท้องตลาดแผงข้างทาง จนถึงกระทั่งธุรกิจแบบขายตรงก็สามารถซื้อใช้ได้อย่างสะดวก มีให้เลือกหลายขนาด หลากสี ในราคาตั้งแต่ 50 บาทจนถึง 500 บาท

 

          ยิ่งไปกว่านั้น บิ๊กอายที่เกลื่อนตามท้องตลาด ยังถูกโฆษณาอายุการใช้งานที่ยาวนานถึง 1 ปี ทำให้เกิดข้อสงสัยถึงคุณภาพ และผลข้างเคียงของสายตา จะเกิดอะไรขึ้นกับ “ดวงตา” ผู้สวมใส่ “บิ๊กอาย” เพราะเป็นผลิตภัณฑ์ที่ใกล้ชิดกับอวัยวะที่อ่อนไหวมากที่สุด

 

          ศ.พญ.วณิชา ชื่นกองแก้ว หัวหน้าสาขาวิชาโรคประสาทจักษุภาควิชาจักษุวิทยา คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ไขคำตอบว่าบิ๊กอาย เป็นคอนแทคเลนส์ชนิดหนึ่งที่ใหญ่กว่าเลนส์ปกติ ใช้สำหรับใส่แนบลูกตาดำ ส่วนใหญ่จะใช้เพื่อความสวยงามซึ่งกำลังเป็นที่นิยมในหมู่วัยรุ่น

 

          โดยปกติคอนแทคเลนส์สายตาถ้าเป็นรายเดือนวัสดุจะแข็งกว่ารายวัน แต่ถึงจะนิ่มหรือแข็งก็ตามก็เป็นตัวกีดขวางไม่ให้ดวงตาได้รับสารอาหารและไม่ได้รับออกซิเจนเท่าที่ควร เนื่องจากปกติตาคนเราจะมีน้ำตา ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของสารอาหารที่เป็นประโยชน์และมีภูมิคุ้มกันที่ใช้ป้องกันเชื้อโรคต่างๆ โดยปกติน้ำตาก็จะเคลือบตาอยู่แล้ว แต่ถ้าเราใช้คอนแทคเลนส์จะมีการบดบังไม่ให้น้ำตาเข้าไปหล่อเลี้ยงโดยเฉพาะส่วนที่สำคัญคือตาดำ

 

          ผลตามมาคือเชื้อโรคที่มีอยู่แล้วในตา ซึ่งตามปกติก็จะไม่เกิดโรคอะไร แต่เมื่อกระจกตาขาดออกซิเจนและสารอาหาร ทำให้เกิดภาวะอ่อนแอของกระจกตา ขาดภูมิคุ้มกัน เชื้อโรคก็จะก่อให้เกิดกระจกตาอักเสบและเป็นแผล จนในที่สุดก็อาจทำให้กระจกตาทะลุ และเกิดการอักเสบติดเชื้อในลูกตาได้

 “บิ๊กอาย” สวยแต่เสี่ยงตาบอด!

          ที่ผ่านมาเราเจอผู้ป่วยหลายรายแล้วที่มีการอักเสบติดเชื้อในลูกตาจนบางรายต้องควักลูกตาออก เนื่องจากมีการติดเชื้อที่รุนแรง และถ้ามีการติดเชื้อในกระจกตาทะลุเข้าไปในลูกตาแล้ว น้ำในลูกตาจะเป็นสารอาหารที่ดีของเชื้อโรค ทำให้เชื้อรุกลามได้เร็ว แพทย์จึงต้องรักษาด้วยการผ่าตัดเอาลูกตาออก เพราะหากปล่อยไว้เชื้อจะกระจาย เข้าสู่สมองได้

 

 

          คุณหมอวณิชา เล่าว่า ผู้ป่วยจำนวนมากที่เข้ามารักษาจากอาการติดเชื้อในลูกตา มีทั้งเกิดจากใส่คอนแทคเลนส์แบบรายเดือนและเกิดจากการใส่บิ๊กอาย แต่ผู้ที่สวมใส่บิ๊กอายจะเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรคได้มากกว่า

 

          “โดยปกติแล้วแพทย์จะแนะนำให้กลุ่มผู้ใส่คอนแทคเลนส์ ไม่ควรใส่เกินวันละ 8 ชั่วโมงแต่ในบางรายอาจใส่เกิน 8 ชั่วโมง หรือใส่ค้างคืนเพราะลืมถอด ทำให้เกิดภาวะตาขาดอาหาร และขาดออกซิเจน แต่บิ๊กอายจะทำให้เกิดภาวะได้มากกว่าคอนแทคเลนส์ธรรมดา เพราะนอกจากจะมีขนาดที่ใหญ่กว่าทำให้น้ำตาเข้าไปได้ยากและเกิดการติดเชื้อได้ง่ายกว่าแล้วคอนแทคเลนส์ที่มีขนาดใหญ่ ถ้าการสวมใส่ไม่เหมาะสมยังทำให้การเคลื่อนไหวของลูกตาได้น้อย ซึ่งนั่นก็หมายถึงการแลกเปลี่ยนของอาหารและอากาศก็จะยิ่งน้อยลงไปด้วย”

 

          แล้วคอนแทคเลนส์สายตาที่มีสีสันและลวดลายสวยงามจะเป็นอันตรายต่อสายตาหรือไม่ คุณหมอวณิชา บอกว่า ถ้าเป็นเลนส์สายตาแต่มีสีเพื่อให้เกิดความสวยงาม อันนี้ก็จะเหมือนกับคอนแทคเลนส์ทั่วไปแต่คนที่ใส่จริงๆ แล้วบางคนไม่ได้ใส่เพราะมีปัญหาสายตา แต่ใส่เพราะต้องการเปลี่ยนสีตา อันนี้จะไม่จำเป็น เพราะตาคนเราถ้าไม่มีสิ่งแปลกปลอมอะไรเข้าไปจะดีกว่า

 

          “สิ่งที่เราพยายามจะแนะนำผู้ป่วยในเรื่องการใช้คอนแทคเลนส์คือ การรักษาความสะอาดและการใช้ให้ถูกต้อง แต่ในปัจจุบันเด็กวัยรุ่นหรือผู้ป่วยสามารถซื้อคอนแทคเลนส์ได้ด้วยตนเอง โดยไม่ได้รับคำแนะนำเรื่องการใช้ที่ถูกต้องก็จะเกิดปัญหาตามมา และเมื่อเกิดปัญหาแล้วก็ไม่สามารถไปปรึกษาผู้ขายได้เพราะบางคนอาจไม่มีความรู้มากพอเมื่อมาปรึกษาจักษุแพทย์ก็ช้าเกินไป จึงต้องฝากผู้ปกครองด้วยว่าให้ช่วยกันดูแล เพราะปัจจุบันไม่ต้องมีใบสั่ง เด็กก็สามารถซื้อใช้ได้เองตามแฟชั่นซึ่งในบางประเทศเริ่มมีมาตรการควบคุมการขายมากขึ้น โดยซื้อจากผู้มีใบอนุญาตประกอบการแว่นหรือคอนแทคเลนส์โดยตรง เพราะพวกนี้จะได้รับการอบรมหรือมีความรู้อย่างถูกต้อง จะมีการแนะนำวิธีใช้อย่างถูกต้อง และสามารถแนะนำเมื่อเกิดปัญหาได้”

 

 

 

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์มติชน

 

 

Update : 14-12-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : กิตติภานันทร์ ลีจันทึก

 

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code