บัตรทองเพิ่มสิทธิตรวจยีน HLA

ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์


บัตรทองเพิ่มสิทธิตรวจยีน HLA ก่อนให้ยากันชัก ลดเกิดผื่นแพ้ยารุนแรง thaihealth


แฟ้มภาพ


บัตรทองเพิ่มสิทธิประโยชน์ ตรวจยีน HLA หาความเสี่ยงแพ้ยากลุ่มสตีเวนส์ จอห์นสัน ซินโดรม ก่อนให้ยากันชัก "คาร์บามาซีปีน" หลังผลประเมินคุ้มค่า ลดภาวะแพ้ยาในผู้ป่วยลมชัก 88% ลดเสี่ยงพิการ เสียชีวิต ประหยัดงบค่ารักษาและการสั่งจ่ายยารายการอื่นปีละกว่า 250 ล้านบาท เริ่มปี 2561 นี้


นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า ในการประชุมคณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บอร์ด สปสช.) เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมา ได้เห็นชอบการเพิ่มสิทธิประโยชน์ การตรวจยีน HLA ในผู้ป่วยโรคลมชัก ก่อนเริ่มยาคาร์บามาซีปีน เพื่อป้องกันผื่นแพ้ยาชนิดรุนแรง ในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (บัตรทอง) เริ่มต้นในปีงบประมาณ 2561 หลังโครงการประเมินเทคโนโลยีและนโยบายด้านสุขภาพ (HITAP) ศึกษาความคุ้มค่าทางการแพทย์ พบว่า การให้บริการตรวจคัดกรองยีน HLA-B*1502 ก่อนให้ยาคาร์บามาซีปีน มีประสิทธิผลทำให้จำนวนผู้ป่วยที่เกิดผื่นแพ้ยากลุ่มสตีเวนส์ จอห์นสัน ซินโดรม ลดลงร้อยละ 88 ลดโอกาสความพิการและเสียชีวิต และมีความคุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบกับการไม่คัดกรองและต้องเสียค่าใช้จ่ายจากการรักษาผู้ป่วยแพ้ยาและการสั่งจ่ายยากันชักรายการอื่น


"สำหรับค่าใช้จ่ายในการตรวจยีน HLA ในผู้ป่วยโรคลมชักอยู่ที่ 1,000 บาท/ราย โดยปี 2561 คาดการณ์จำนวนผู้ป่วยโรคลมชักที่รักษาด้วยยาคาร์บามาซีปีน และต้องรับการตรวจยีน HLA เพื่อลดความเสี่ยงจากภาวะสตีเวนส์ จอห์นสัน ซินโดรม มีจำนวน 29,392 ราย รวมเป็นงบประมาณ 29.39 ล้านบาท ขณะที่ปี 2562 อยู่ที่จำนวน 29,534 ราย คิดเป็นงบประมาณ 29.53 ล้านบาท ทั้งนี้ ยังได้ประเมินมูลค่าการประหยัดค่าใช้จ่าย ทั้งจากค่ารักษาและยากันชักชนิดอื่นที่แพทย์เลือกใช้เพื่อหลีกเลี่ยงภาวะสตีเวนส์ จอห์นสัน ซินโดรม ปี 2561 มีมูลค่าประหยัดจำนวน 254.9 ล้านบาท และปี 2562 มูลค่าประหยัดอยู่ที่จำนวน 256.18 ล้านบาท" นพ.ศักดิ์ชัย กล่าว


นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า ยาคาร์บามาซีปีนเป็นยาในกลุ่มยากันชักเพื่อใช้รักษาผู้ป่วยโรคลมชัก อยู่ในกลุ่มยาอันดับต้นๆ ที่มีรายงานการแพ้ยาไม่พึงประสงค์กลุ่มอาการสตีเวนส์จอห์นสัน ซินโดรม ซึ่งมีความรุนแรง โดยจะมีผื่นตามลำตัว เป็นผื่นแดงขยายกว้าง มีตุ่มน้ำหรือถุงพองกระจายทั่วลำตัว หนังกำพร้าตาย มีการหลุดลอกของผิวหนัง บางรายเกิดการติดเชื้อแทรกซ้อนที่อวัยวะสำคัญ รายที่รุนแรงอาจก่อให้เกิดความสูญเสียถาวร เช่น ตาบอด พิการหรือเสียชีวิตได้ เฉลี่ยผู้ป่วยต้องเข้ารับการรักษาต่อเนื่องในโรงพยาบาลนาน 2 สัปดาห์ ค่ารักษาอยู่ที่ 20,000-100,000 บาท แต่ในรายที่รุนแรงต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลนาน ค่าใช้จ่ายจะสูงถึง 330,000 บาทต่อราย โดยพบความสัมพันธ์การเกิดผื่นแพ้ยากลุ่มกับยีนชนิด HLA-B*1502 ซึ่งพบค่อนข้างสูงในประชากรแถบภูมิภาคเอเชีย เช่น ชาวจีนฮั่นพบร้อยละ 5-15 ชาวมาเลเซีย ร้อยละ 12-15 และชาวไทย ร้อยละ 8-27 จึงแนะนำให้สุ่มตรวจพันธุกรรม HLA-B*1502 เพื่อคัดกรองโอกาสแพ้ยาคาร์บามาซีปีนก่อนรับยา ซึ่งข้อมูลการเฝ้าระวังด้านยาในประเทศไทยช่วง 10 ปี ระหว่างปี 2545-2554 โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) มีผู้ป่วยจากภาวะสตีเวนส์จอห์นสัน ซินโดรมราว 5,000 ราย


นพ.ศักดิ์ชัย กล่าวว่า สำหรับแนวทางการตรวจยีน HLA ในผู้ป่วยโรคลมชักก่อนเริ่มยาคาร์บามาซีปีน สมาคมโรคลมชักแห่งประเทศไทย ร่วมกับสถาบันประสาทวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข และสถาบันวิชาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการจัดทำแนวทางเวชปฏิบัติในการรักษาโรคลมชักสำหรับแพทย์ ปี 2559 เรียบร้อยแล้ว แนะนำให้พิจารณาส่งตรวจคัดกรองกองยีน HLA-B*1502 ก่อนเริ่มยาคาร์บามาซีปีน และก่อนหน้านี้ สปสช.ได้เตรียมความพร้อมดำเนินการ โดยประสานสมาคมโรคลมชักฯ เพื่อประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ข้อมูลการตรวจคัดกรองยีน HLA-B*1502 ในผู้ป่วยที่ต้องใช้ยาคาร์บามาซีปีน ผ่านทางเว็บไซต์ของสมาคม และประสานกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เพื่อจัดทำคู่มือการตรวจคัดกรองทางห้องปฏิบัติการ สถานที่ส่งตรวจ และแจ้งหน่วยบริการเพื่อทราบต่อไป

Shares:
QR Code :
QR Code