บริหารองค์กรแห่งความสุข มุมมองญิ่ปุ่นในไทย

ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์ 


บริหารองค์กรแห่งความสุข มุมมองญิ่ปุ่นในไทย thaihealth


แฟ้มภาพ


บริหารองค์กรอย่างไรให้เป็น'องค์กรแห่งความสุข'เปิดมุมมองผู้ประกอบการบริษัทญี่ปุ่นในไทย


สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ร่วมกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และบริษัท มาริโม 5 ที่ปรึกษาด้านการส่งเสริมสุขภาวะของภาคธุรกิจ จัดการประชุมสัมมนา เครือข่ายผู้ประกอบการภาคธุรกิจด้านการส่งเสริมธรรมาภิบาลและความรับผิดชอบต่อสังคม (Caux Round Table) ในหัวข้อ "แนวทางเพื่อมุ่งสู่การจัดการห่วงโซ่อุปทานในประเทศไทยอย่างยั่งยืน: ประโยชน์ขององค์กรสร้างสุข" ที่สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย โดยมีนาย ชิโร ซะโดะชิมะ เอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย เป็นประธาน พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัทญี่ปุ่นชั้นนำกว่า 30 ราย อาทิ บริษัท แคนนอน ไฮเทค (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท คาโอ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัท คาโกเมะ จำกัด เข้าร่วมงาน


 เอกอัครราชทูตญี่ปุ่น กล่าวว่า แนวคิดองค์กรสร้างสุขมีความสำคัญอย่างยิ่ง ซึ่งในปัจจุบันนักลงทุนญี่ปุ่นในประเทศไทยมีมูลค่าการลงทุนสูงถึง 2.26 แสนล้านบาทต่อปี ส่วนใหญ่อยู่ในภาคการผลิต แต่ปัจจุบันมีสัดส่วนในภาคบริการเพิ่มสูงขึ้น โดยรวมมีการจ้างงานในประเทศไทยนับแสนตำแหน่ง อย่างไรก็ตามประเทศไทยกำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ จึงควรให้ความสำคัญกับแนวคิดสร้างสุขอย่างจริงจังว่าจะทำอย่างไรให้ผลผลิตและประสิทธิภาพการทำงานยังคงอยู่แม้ว่าจำนวนประชากรจะลดลง


ศ.ดร.ชาติชาย ณ เชียงใหม่ คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ และอดีตรองอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวว่า เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 3 เรื่องการมีสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี ซึ่งในปัจจุบัน 70% ของโรคที่เกิดขึ้นในประเทศไทยมาจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง อาทิ โรคความดัน หัวใจ นโยบายองค์กรสร้างสุขจึงเกี่ยวข้องกับปัญหาโรคไม่ติดต่อในประเทศไทย และเป้าหมายที่ 8 เรื่องการจ้างงานที่มีคุณค่าและการเติบโตทางเศรษฐกิจเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน จึงคาดหวังว่าการประชุมนี้จะเป็นเวทีที่เปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการเข้าใจแนวคิดองค์กรสร้างสุขและนำไปสู่การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และการทำงานร่วมกันของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง การสัมมนาครั้งนี้มีผู้บริหารองค์กรธุรกิจญี่ปุ่นในประเทศไทยให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟังแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับกระบวนการทางธุรกิจ สภาพแวดล้อมและอนามัยในการทำงานที่ส่งผลต่อสุขภาวะ และความปลอดภัยของลูกจ้าง ถือเป็นปัจจัยที่ผู้ประกอบการญี่ปุ่นในประเทศไทยจำนวนมากให้ความสำคัญ


บริหารองค์กรแห่งความสุข มุมมองญิ่ปุ่นในไทย thaihealth


นายซาโทรุ นากาตะ ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท คาโกเมะ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่มจากมะเขือเทศและผลไม้อันดับต้นๆ ของญี่ปุ่นที่มีการลงทุนทั้งในทวีปเอเชียและอเมริกา กล่าวว่า องค์กรเริ่มนำแผนองค์กรสร้างสุขมาใช้ในเมื่อต้นปีที่ผ่านมา เช่น ส่งเสริมให้พนักงานรับประทานผักอย่างน้อย 350 กรัมต่อวัน ไม่ดื่มสุรา ไม่สูบบุหรี่ ออกกำลังกายโดยการเดินอย่างน้อย 8,000 ก้าวต่อวัน นอกเหนือจากการตรวจสุขภาพประจำปี และการจ้างงานของพนักงานหญิงและชายในสัดส่วนที่เท่ากัน ซึ่งถือเป็นนโยบายหลักที่ทางบริษัทส่งเสริมให้พนักงานนำไปปฏิบัติใช้อย่างจริงจัง และจำเป็นต้องลดภาระโรคเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานไปพร้อมๆ กัน นอกจากนี้ประสบการณ์ตรงของผู้บริหาร ถือเป็นตัวอย่างที่ดีที่มีส่วนโน้มน้าวให้พนักงานปฏิบัติตามได้ นายนากาตะกล่าวว่า ตนสามารถลดน้ำหนักได้ถึง 20 กิโลกรัมภายในระยะเวลา 3 ปีด้วยการออกกำลังกายและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกิน เป็นตัวอย่างที่ดีให้พนักงานปฏิบัติตามได้เช่นกัน


นายฮิโรกิ มิโนวะ ผู้บริหารบริษัท คาโอ คอมเมอร์เชียล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า องค์กรสร้างสุขเริ่มต้นจากการสร้างความไว้วางใจของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องขององค์กรนำมาสู่การมีส่วนร่วมทั้งระบบ เช่น กรณีที่บริษัทเคยได้รับจดหมายประท้วงจากกลุ่มกรีนพีซ เรื่องการใช้แรงงานเด็ก และการผลิตที่ไม่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ทำให้องค์กรต้องทบทวน ตรวจสอบและปรับระบบการทำงานทั้งห่วงโซ่การผลิต พร้อมเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นและข้อเสนอแนะทั้งจากฝ่ายพนักงานและองค์กรเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้องค์กรเป็นสร้างสุขอย่างแท้จริง ซึ่งนักลงทุนในตลาดหลักทรัพย์จะให้ความสำคัญมากกับหลักธรรมาภิบาลทางธุรกิจ หากเราไม่ปรับตัวจะทำให้เกิดปัญหาอุปสรรคการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วยเช่นกัน


นายฟูยูมิ ซากาโมโตะ ผู้บริหารบริษัท แคนนอน ไฮเทค (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า องค์กรของตนให้ความสำคัญกับสุขภาวะที่ดีของพนักงาน โดยมีการตรวจสุขภาพประจำปีเพื่อเชื่อมโยงกับการเฝ้าระวังโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง หรือ NCDs เพราะแคนนอนจะสื่อสารกับภายนอกในการรับสมัครงานว่า ถ้าทำงานที่แคนนอนจะมีสุขภาพที่ดี อย่างไรก็ตามบริษัทเคยพบเกิดกรณีพนักงานมีปัญหาการใช้สารเสพติด เช่น ยาบ้า บริษัทไม่ได้ใช้มาตรการทางกฎหมายด้วยการไล่ออกเพราะส่งผลกระทบต่อครอบครัวของพนักงาน แต่พยายามเข้าใจปัญหาและยื่นมือเข้าช่วยเหลือเพื่อเข้ารับการบำบัด และใช้วิธีสุ่มตรวจสารเสพติดกับพนักงานรายอื่นๆ ทำให้องค์กรสามารถแก้ไขประเด็นยาเสพติดในกลุ่มพนักงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ


บริหารองค์กรแห่งความสุข มุมมองญิ่ปุ่นในไทย thaihealth


นพ.ชาญวิทย์ วสันต์ธนารัตน์ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนสุขภาวะองค์กร สสส. กล่าวว่า การสัมมนาครั้งนี้นับเป็นโอกาสดีทำให้หน่วยงานได้เรียนรู้แนวคิดของผู้บริหารชาวญี่ปุ่นผ่านกรณีศึกษาองค์กรต่างๆ ในประเทศไทย ทำให้เชื่อมั่นได้ว่าทัศนคติที่ดีของผู้ประกอบการชาวญี่ปุ่นที่มีต่อพนักงานไทยในองค์กร และความจริงใจที่จะช่วยขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็นองค์กรที่เป็นมิตรกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อมได้อย่างเป็นรูปธรรม สอดคล้องกับนโยบายของประเทศไทย หลังจากได้ลงนามในอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศฉบับที่ 187 ว่าด้วยการดำเนินงานความปลอดภัยและอาชีวอนามัย


นายชิเกรุ ยามาโตะ ผู้อำนวยการบริหาร บริษัท มาริโม่ 5 จำกัด ในฐานะองค์กรที่ทำงานส่งเสริมสุขภาพกับองค์กรเอกชนสัญชาติญี่ปุ่นในประเทศไทย กล่าวว่า องค์กรเริ่มดำเนินงานโดยนำคอนเซ็ปต์องค์กรสร้างสุขของ สสส. เพื่อนำมาประยุกต์ใช้กับองค์กรญี่ปุ่นในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2558 เพื่อให้ผู้บริหารบริษัทญี่ปุ่นในประเทศไทยเห็นความสำคัญของการป้องกันและดูแลสุขภาพของพนักงานในองค์กร เพราะถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและมีความยั่งยืนเมื่อเทียบกับการรักษา ซึ่งต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ก้าวต่อไปขององค์กรคือ ทำงานร่วมมือกับองค์กรภาครัฐและเอกชนของญี่ปุ่นและไทย เพื่อขยายความรู้ความเข้าใจต่อแนวคิด "องค์กรสร้างสุข" ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้างต่อไป

Shares:
QR Code :
QR Code