บริษัทบุหรี่วิ่งเต้น ชะลอกฎหมายยาสูบอียู
บริษัทบุหรี่ยักษ์ใหญ่ วิ่งเต้นกับสมาชิกสภาของสหภาพยุโรป เพื่อชะลอการลงมติ แนวทางการควบคุมยาสูบของสหภาพยุโรป
ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ เลขาธิการมูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่ เปิดเผยบทความที่ตีพิมพ์ในนิตยสารยูโรเพียน วอยซ์ ประเทศเบลเยียม ฉบับวันที่ 5 กันยายนว่า บริษัทบุหรี่ยักษ์ใหญ่รายหนึ่ง ได้ว่าจ้างล็อบบี้ยิสต์ถึง 161 คน ในการทำการวิ่งเต้นกับสมาชิกสภาของสหภาพยุโรป 233 คน ซึ่งเป็น 31% ของสมาชิกสภาทั้งหมดของสหภาพยุโรประหว่าง พ.ศ. 2554-2555 ที่มีการพิจารณาร่างนโยบายควบคุมยาสูบของสหภาพยุโรปฉบับใหม่ (tobacco products directive) แทนฉบับเดิมที่ใช้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2544 ซึ่งล้าสมัย จากการที่วิธีการตลาดของยาสูบเปลี่ยนแปลงไปมาก มีผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ออกสู่ตลาด รวมทั้งการมีแนวทางปฏิบัติในการควบคุมยาสูบที่ก้าวหน้าภายใต้อนุสัญญาควบคุมยาสูบ องค์การอนามัยโลก
ร่างกฎหมายยาสูบฉบับใหม่นี้จะเป็นแนวทางที่ให้ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปออกกฎหมายควบคุมยาสูบที่เข้มข้น อาทิ การพิมพ์ภาพคำเตือนขนาดใหญ่ รวมถึงการออกกฎหมายซองบุหรี่แบบเรียบ ห้ามขายบุหรี่มวนเล็ก (สลิม) และบุหรี่ที่เติมสารเพื่อเพิ่มความเย้ายวนหรือเพิ่มอำนาจการเสพติดเช่น เมนทอล รสผลไม้ ช็อคโกแลต ควบคุมบุหรี่ไฟฟ้า และกำหนดระบบการเฝ้าระวังบุหรี่หนีภาษีตลอดสายการผลิต บริษัทบุหรี่เองเคยแสดงว่าต้องการชะลอการลงมติแนวปฏิบัติตามกฎหมายใหม่นี้ เพื่อให้กฎหมายนี้ตกไปในที่สุด
ทั้งนี้ร่างกฎหมายฉบับใหม่ได้รับการเห็นชอบโดยคณะกรรมาธิการแล้วตั้งแต่วันที่ 26 มิถุนายน 2556 และการลงมติเพื่อรับร่างกฎหมายฉบับนี้ได้ถูกเลื่อนออกไปจากเดือนกันยายนตามกำหนดเดิม ซึ่งฝ่ายสุขภาพได้ตำหนิการเลื่อนการลงมติรับกฎหมายฉบับใหม่นี้ เพราะจะทำให้การลดการสูญเสียชีวิตจากยาสูบปีละ 700,000 คน ของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปต้องล่าช้าออกไปอีก จากการชะลอมาตรการควบคุมยาสูบที่มีประสิทธิภาพตามกฎหมายใหม่
ศ.นพ.ประกิต กล่าวว่า การวิ่งเต้นของบริษัทดังกล่าว เพื่อชะลอการลงมติแนวทางการควบคุมยาสูบของสหภาพยุโรป ไม่ได้ต่างจากความพยายามในการพยายามออกมาวิ่งเต้นคัดค้านร่างกฎหมายควบคุมยาสูบฉบับใหม่ของกระทรวงสาธารณสุขไทย ที่ปรับปรุงให้ทันสถานการณ์ภายหลังจากที่ใช้มาตั้งแต่ พ.ศ.2535 โดยบริษัทดังกล่าวนี้เป็นผู้สนับสนุนการก่อตั้งสมาคมผู้ค้ายาสูบไทยที่ออกมาคัดค้านร่างกฎหมายยาสูบฉบับใหม่ รวมทั้งร่วมฟ้องศาลปกครองเพื่อยับยั้งประกาศขยายภาพคำเตือนเป็น 85% ของกระทรวงสาธารณสุขในขณะนี้ด้วย
ที่มา : ศูนย์ข่าว มูลนิธิรณรงค์เพื่อการไม่สูบบุหรี่