‘น้ำหมักผักผลไม้’ เติมความสดชื่นเพื่อสุขภาพ
ปัจจุบันคนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจในเรื่องสุขภาพกันมากขึ้น โดยเฉพาะเรื่องของอาหารการกิน กลายเป็นกระแสเกิดขึ้นมากมาย หลายคนคงเคยได้ยินคำว่า “อาหารคลีน” การรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ รวมไปถึงเครื่องดื่มที่กำลังเป็นที่นิยมโดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อนแบบนี้อย่าง “น้ำหมักผักผลไม้” หรือ “Infused water”
ซึ่งเรื่องนี้ “อาจารย์แววตา เอกชาวนา” นักโภชนาการบำบัด และผู้เชี่ยวชาญเรื่องอาหารเพื่อสุขภาพ ให้ข้อมูลว่า Infused water หรือที่เรียกกันว่า น้ำหมักผักผลไม้ ได้รับความนิยมในต่างประเทศจนแพร่หลายมาในประเทศไทย เนื่องจากเป็นเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์ที่สวยงามมีสีสันสดใส ที่สำคัญคือสามารถทำได้ด้วยตนเอง ซึ่งวิธีการทำคือ การนำเอาน้ำเปล่า หรือน้ำแร่ธรรมชาติ มาหมักรวมกันกับ ผัก ผลไม้ หรือสมุนไพรต่างๆ เช่น ใบสระเหน่ ใบโหรพา ตามความชอบของแต่ละบุคคล โดยนิยมหมักไว้ในขวด หรือโหลแก้ว ปริมาณไม่เกิน 1 ส่วน 4 ของภาชนะ จากนั้นจึงนำไปแช่เย็นเพื่อให้ได้ความเย็นสดชื่น ทิ้งไว้ประมาณ 6-8 ชั่วโมง จนกลิ่นและรสของผักผลไม้ออกมาผสมกับน้ำแล้วนำมาบริโภค
ประโยชน์ และข้อควรระวังในการบริโภค “น้ำหมักผักผลไม้” คืออะไร?
นักโภชนาการคนเก่ง บอกว่า น้ำหมักผักผลไม้ ถือเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการลดบริโภคหวาน สำหรับคนที่ติดน้ำอัดลม และคนที่ไม่ค่อยชอบดื่มน้ำเปล่า เพราะ Infused water จะมีรสชาติจากผัก และผลไม้ ที่เราเลือกใส่ลงไป จึงช่วยทำให้ดื่มน้ำได้อร่อยขึ้น นอกจากนั้นยังได้รับแร่ธาตุ และวิตามินธรรมชาติ ที่ให้ผลเรื่อง การดีท็อกซ์ (Detox) หรือระบายอ่อน ๆ เมื่อดื่มตอนเช้าหลังจากตื่นนอน จะช่วยให้สดชื่นและได้รับวิตามินและเกลือแร่จากผักและผลไม้ชนิดนั้นทันที และที่สำคัญคือ การได้รับความสดชื่นจากกลิ่นและรสชาติของผักผลไม้ที่เราหมักไว้ หันมาดื่มน้ำมากขึ้น
สิ่งที่ควรระวังในการดื่ม น้ำหมักผักผลไม้ คือ เนื่องจากผักและผลไม้แต่ละชนิดมีระยะเวลาการเน่าเสียที่ต่างกัน จึงควรทำบริโภควันต่อวัน และควรเก็บไว้ในอุณหภูมิที่เย็นเพื่อไม่ให้เกิดการก่อตัวของแบคทีเรียที่ทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพได้
“น้ำหมักผักผลไม้ ไม่สามารถทดแทนกากใยที่มีในผักและเนื้อของผลไม้สดได้ เพราะฉะนั้นการบริโภคเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงจึงควรบริโภคอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำให้เพียงพอ ให้ร่างกายได้รับสารอาหารครบถ้วน และอย่าลืมออกกำลังกายให้เหมาะสมด้วย” อาจารย์แววตา กล่าว
ในสภาพอากาศที่ร้อนของประเทศไทย การดื่มน้ำเป็นเรื่องสำคัญ โดยปกติร่างกายเราจะสูญเสียน้ำจากทางเหงื่อ ลมหายใจ และการขับถ่าย อีกทั้งสูญเสียเกลือแร่ออกจากร่างกายด้วยในเวลาที่เราขับเหงื่อออกจากร่างกาย หากร่างกายขาดน้ำมากๆ และไม่ได้รับการทดแทนอย่างเพียงพอในเวลาที่เหมาะสม ซึ่งมาตรฐานคือ 8 แก้วต่อวัน ก็อาจจะก่อให้เกิดผลเสียตามมาได้ หรือถ้าหากร่างกายได้รับน้ำมากเกินไปก็จะส่งผลเสียได้เหมือนกัน
สำหรับ “ผู้สูงอายุ” เป็นวัยที่ต้องดูแลเรื่องการดื่มน้ำให้เพียงพอเป็นพิเศษ เนื่องจากต่อมรับรู้การกระหายน้ำจะช้ากว่าวัยอื่นๆ ทำให้เกิดอันตรายได้ สังเกตอาการได้จาก ริมฝีปากแห้ง ไม่ปัสสาวะ หรือปัสสาวะออกน้อยมาก ผิวแห้ง ความดันต่ำ ชีพจรเร็ว หายใจเร็ว จนถึงขั้นหมดสติ
“นอกจากนี้ การบริโภคอาหารในหน้าร้อน ต้องระวังเรื่องการเน่าเสียง่าย ไม่ปรุงอาหารทิ้งไว้เป็นเวลานานก่อนนำไปให้ผู้บริโภค โดยเฉพาะอาหารประเภทที่มีกะทิเป็นส่วนประกอบจะเสียง่ายกว่าปกติ อาหารประเภทยำ ลาบ ต้องปรุงให้สุก เนื่องจากอากาศร้อนจะทำให้อาหารบูดเสียง่าย และควรยึดหลัก กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือ เพื่อสุขอนามัยที่ดีด้วยค่ะ” อาจารย์แววตา กล่าวทิ้งท้าย
เรื่องโดย : กิดานัล กังแฮ Team Content www.thaihealth.or.th
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต