น้อมนำหลักธรรมสู่ชีวิต ในวันวิสาขบูชา
วันสำคัญของโลก
วันนี้พุทธศาสนิกชนทั้งในกรุงเทพมหานคร ปริมณฑล และทุกจังหวัดของประเทศไทย ได้เข้าร่วมทำบุญตักบาตร ให้ทานรักษาศีล ฟังธรรม สนทนาธรรม และเจริญภาวนาแผ่เมตตาในวันวิสาขบูชาตามวัดวาอาราม ตลอดจนสถานที่ที่ภาครัฐกำหนดกิจกรรมทางพระพุทธศาสนา กรุงเทพมหานครก็มีงานที่ยิ่งใหญ่ ณ บริเวณพุทธมณฑล จ.นครปฐม โดยมีหน่วยงานกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับประชาชนทั่วไป ได้จัดกิจกรรมปฏิบัติธรรมทั้งฝ่ายพระสงฆ์ และฆราวาส ที่บริเวณพุทธมณฑล
ณ พุทธมณฑลศูนย์กลางพระพุทธศาสนาของโลกแห่งนี้ ยังเชิญชวนพุทธศาสนิกชนเข้าร่วมกิจกรรมงานสัปดาห์ส่งเสริมพระพุทธศาสนา เนื่องในเทศกาลวันวิสาขบูชาวันสำคัญสากลของโลก ประจำปี 2552 โดยมหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย และสมาคมสภาสากลวันวิสาขบูชาโลกที่ได้ดำเนินการอาราธนาและเชิญผู้นำชาวพุทธ นักปราชญ์ นักวิชาการ ด้านพระพุทธศาสนาจากนานาชาติมาร่วมจัดกิจกรรม และร่วมฉลองงานวิสาขบูชาโลก ณ ประเทศไทย ซึ่งนับเป็นการบูชาที่สูงส่งยิ่งสมกับ “วันวิสาขบูชา” วันสำคัญสากลของสหประชาชาติ
พูดถึงวันวิสาขบูชาที่มีความสำคัญมากต่อพุทธศาสนิกชนทั่วโลก เนื่องด้วยเป็นวันที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ประสูติ ตรัสรู้ และดับขันธปรินิพาน นับว่าเป็นเรื่องที่น่าอัศจรรย์ยิ่งที่เหตุการณ์ทั้ง 3 เกี่ยวกับวิถีชีวิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ซึ่งมีช่วงระยะเวลาห่างกันนับเวลาหลายสิบปี บังเอิญเกิดขึ้นในวันเพ็ญเดือน 6 ดังนั้นเมื่อถึงวันสำคัญเช่นนี้ ชาวพุทธทั้งคฤหัสถ์และบรรพชิตได้พร้อมใจกันประกอบพิธีบูชาพระพุทธองค์เป็นการพิเศษ เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณ พระปัญญาธิคุณ และพระบริสุทธิคุณของพระองค์ท่าน ผู้เป็นดวงประทีปของโลก
ชาวพุทธจึงควรน้อมนำคำสอนพระพุทธเจ้าสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในโลกได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลักอหิงสา คือ การไม่เบียดเบียนกันและกัน การเห็นอกเห็นใจกัน มีความเมตตากรุณาต่อกัน มีความเอื้อเฟื้อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน อย่างน้อยที่สุดการรักษาศีล 5 ข้อให้บริบูรณ์ เช่น การไม่เบียดเบียนกัน การไม่ลักทรัพย์ ไม่ละเมิดกันและกัน ไม่โกหกหลอกหลวง และงดเว้นสิ่งเสพติด การดื่มของมึนเมา ซึ่งเป็นการกระทำที่ผิดศีล ก็เพียงพอนำความสุขมาให้ได้อย่างแน่นอน
และในโอกาสวันพระใหญ่วันวิสาขบูชา ปี 2552 นี้ ยังมีความพยายามของหลายฝ่ายร่วมกันรณรงค์และผลักดันมาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันพระใหญ่ ก่อนหน้านี้เครือข่ายพระอาสาพัฒนาสังคมคุณธรรม เครือข่ายองค์กรงดเหล้า และเครือข่ายเฝ้าระวังแอลกอฮอล์ ไปรวมตัวกันที่หน้าทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นหนังสือถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี โดยมีนายสุธรรม ลิ้มสุวรรณเกษม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี รับหนังสือแทน
ใจความสำคัญของหนังสือดังกล่าวเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลงนามคำสั่งห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางศาสนา ได้แก่ วันมาฆบูชา วันอาสาฬบูชา วันเข้าพรรษา และวันวิสาขบูชา โดยให้เริ่มตั้งแต่วันที่ 8 พฤษภาคมนี้ ซึ่งเป็นวิสาขบูชา เป็นต้นไป และขอให้นายกรัฐมนตรีให้คณะกรรมการนโยบายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แห่งชาติ ทบทวนการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ช่วงเทศกาลสงกรานต์ และมาตรการห้ามดื่มในยานพาหนะหรือท้ายกระบะโดยเร็วที่สุด เนื่องจากสถิติมีคนเสียชีวิตจากอุบัติเหตุที่เกิดจากเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มขึ้น
ทันทีที่ข่าวนี้เผยแพร่สู่สาธารณะ ก็มีเสียงเห็นด้วยกับการที่หลายฝ่ายจะผลักดันให้มีมาตรการห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันสำคัญทางศาสนา ประชาชนส่วนใหญ่ระบุถึงพิษภัยแอลกอฮอล์ว่า ถ้ามีการขายก็มีการเสพ ทำให้คนดื่มขาดสติ ใช้ชีวิตอยู่บนความประมาท นำมาสู่การก่อเหตุความวุ่นวายต่างๆ นานา รวมทั้งเป็นเหตุทำให้พุทธศาสนิกชนกระทำผิดศีลในข้ออื่นๆ ด้วย ทำให้มีความทุกข์มากยิ่งขึ้น
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางเสียงสนับสนุนกลับมีเสียงคัดค้านมาตรการห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในวันพระใหญ่นั้นดังจากสมาคมผู้ประกอบไวน์ไทย โดยกลุ่มธุรกิจแอลกอฮอล์ดังกล่าวเรียกร้องให้คิดทบทวนให้ดี อ้างธุรกิจไวน์ได้รับผลกระทบ และส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวลดลง หากใครติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มทุนน้ำเมา คงรับรู้ได้ว่าเสียงค้านที่ได้ยินเหมือนแผ่นเสียงตกร่อง เป็นเหตุผลฟังไม่ขึ้น ถือเป็นการขวางเจริญของศาสนาหลักธรรมสำคัญที่ควรนำมาปฏิบัติ
แม้วันนี้จะยังไม่มีการประกาศห้ามขายเครื่องดื่มมึนเมาเหล้าเบียร์ในวันพระใหญ่ แต่สิ่งที่พุทธศาสนิกชนสามารถปฏิบัติได้เลย นั่นคือ การยึดหลักธรรมในการดำเนินชีวิตและไม่กระทำผิดศีล ตลอดจนรู้พระคุณของพระพุทธองค์ โดยร่วมกันแสดงออกซึ่งความกตัญญูกตเวทีต่อพระองค์ด้วยการทำนุบำรุงส่งเสริมพระพุทธศาสนา และประพฤติปฏิบัติธรรมเพื่อดำรงอายุพระพุทธศาสนาสืบไป
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
Update 08-05-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : อารยา สิงห์สวัสดิ์