น้องมายด์ หัวใจไม่เคยท้อ
ด้วยพลังแห่ง “ความดี” “อดทน” นำชีวิตเล็กๆ สว่าง สดใสได้
ท่ามกลางสังคมที่วุ่นวาย สับสน เศรษฐกิจย่างเข้าสู่ยุคข้าวยากหมากแพลง หลายๆ คนมีชีวิตที่สุขสบายและอบอุ่น แต่อีกแง่มุมหนึ่งของเด็กผู้หญิงตัวน้อย ที่ชื่อ กรรณิการ์ กองศิริ หรือ น้องมายด์ กลับต้องประสบความทุกข์ยากลำบากของชีวิต อะไรที่ทำให้เธอสู้ อะไรที่ทำให้เธอมีกำลังใจ อะไรทีคอยหล่อเลี้ยงจิตใจของเธอให้ก้าวย่างไปอย่างมั่นคงในเส้นทางเดินชีวิตที่มองเห็นเพียงแสงสว่างแค่รำไรนี้ได้…..
บ้านของน้องมายด์ตั้งอยู่ในหมู่บ้านหนองกุง ตำบลหายโศก อำเภอบ้านผือ จังหวัดอุดรธานี เธออาศัยอยู่ในบ้านเช่าหลังเล็กๆ เป็นบ้านครึ่งไม้ครึ่งปูน 2 ชั้น ชั้นล่างผนังก่อด้วยอิฐบล็อกที่ยังไม่ได้ฉาบปูนปิดให้เรียบร้อย ใช้เป็นห้องครัวและห้องนั่งเล่น ส่วนชั้นบนมีการแบ่งห้องต่างๆ ให้เหมาะกับการอยู่อาศัยพอสมควร บ้านหลังนี้แม่ของเธอขอแบ่งเช่ามาจากเพื่อนบ้านที่สนิทกัน ซึ่งพอจะเป็นที่อยู่อาศัยที่พอคุ้มฟ้าคุ้มฝนไปได้เพียงแค่วันๆ
ถึงแม้จะมีเพียงบ้านหลังน้อย แต่นี่ก็เปรียบเป็นสวรรค์น้อยๆ ของน้องมายด์ สวรรค์ที่เธอมองว่าสวยงาม และสุขสบายเสมอสำหรับเธอ ในแต่ละวันน้องมายด์จะช่วยงานบ้านแทบจะทุกอย่าง เพื่อแบ่งเบาภาระของผู้เป็นแม่ น้องมายด์ได้เล่าให้ฟังว่า “ตอนเย็นหลังจากเลิกเรียนแล้ว น้องมายด์จะนึ่งข้าวรอแม่ ล้างจาน ทำการบ้านให้เสร็จ อาบน้ำ แล้วก็อ่านหนังสือ” เธอเล่าด้วยสีหน้าและแววตาที่สดใส และเปี่ยมไปด้วยความสุข
“ทุกวันน้องมายด์จะช่วยล้างถ้วยจาน ซักผ้า กรอกน้ำใส่ขวด หลังจากที่ทำการบ้านเสร็จเรียบร้อยแล้ว และก็จะอาบน้ำ อ่านหนังสือ ถูบ้าน ในวัน เสาร์- อาทิตย์ ถ้าใช้ให้ไปซื้อของอะไร น้องมายด์ก็เต็มใจทำให้หมด นอกจากนั้น ก็ยังไปรับจ้างสับกาบมะพร้าวกับเพื่อนบ้านด้วย” นางบัวเรียน กองศิริ ได้พูดถึงลูกสาวด้วยความปลาบปลื้มใจ
ส่วนเพื่อนบ้านของน้องมายด์ยังได้บอกถึงนิสัยของน้องมายด์อีกว่า “น้องมายด์เป็นเด็กดี ไม่ว่าจะทำอะไร เธอจะนึกถึงแม่และพ่อก่อนเสมอ ได้อาหารอะไรมาก็มักจะต้องแบ่งให้พ่อกับแม่ก่อน”
แม้แต่กระทั่งเจ้าของบ้านเช่าเองก็ยังพูดถึงน้องมายด์ด้วยความชื่นชมว่า “นับว่าเป็นบุญของพ่อและแม่ของน้องมายด์ที่มีลูกอย่างน้องมายด์ แบบนี้ถือว่าเป็นศรีของบ้าน เวลาพ่อแม่ไปทำงานกลับมา ก็หาอาหารให้กิน ล้างถ้วยจาน ไม่ให้แม่เหนื่อย เวลาไม่มีใครอยู่บ้าน เธอก็สามารถดูแลตัวเองได้”
และสำหรับชีวิตการเป็นนักเรียนของเธอที่โรงเรียนบ้านผือพิทยาสรรค์ ก็ถือได้ว่าน้องมายด์เป็นเด็กที่มีความประพฤติดี ปฏิบัติ และวางตัวได้ดีในบทบาทของความเป็นนักเรียน ซึ่งอาจารย์
ด้านอาจารย์
ไม่เพียงแต่อาจารย์วิทยาศาสตร์เท่านั้นที่พูดถึงเธอด้วยความชื่นชม อาจารย์
สำหรับตัวน้องมายด์เองก็ได้พูดถึงเรื่องนี้ว่า “เรื่องการช่วยเหลืองานที่โรงเรียน น้องมายด์ยินดีช่วยเหลือครูทุกอย่าง เช่น ช่วยครูกวาดห้องเรียน ถ้าตัวเองมาแต่เช้าก็จะไปรับบัตรอาหาร มาแจกเพื่อนในช่วงเข้าแถวหน้าเสาธงตอนเช้า เพราะนี่นอกจากเป็นช่วยแบ่งเบาภาระครูแล้ว ยังเป็นหน้าที่ที่น้องมายด์และเพื่อนต้องทำอยู่แล้วเป็นประจำทุกวัน”
ส่วนเพื่อนผู้หญิงที่สนิทก็เล่าถึงน้องมายด์ว่า “มายด์เป็นคนดี ช่วยเหลือเพื่อนเสมอ ถ้าเพื่อนมีปัญหาก็ขอให้บอกเธอ เธอบอกว่าถ้าช่วยได้เธอก็จะช่วย มายด์เป็นเด็กใฝ่รู้ ชอบสนใจ อะไรไม่รู้ก็มักจะถามจากอาจารย์ ชอบตั้งคำถาม ชอบพูด ชอบคุย เป็นคนรักสนุก และอีกอย่างที่สำคัญก็คือ เป็นคนมีน้ำใจ เช่น เวลาหนูไม่มีปากกา เมื่อมายด์เห็น เธอก็จะถามว่าจะยืมของเธอก่อนหรือเปล่า ไม่เป็นไร ถ้าไม่มีก็ยืมเธอได้ และก็ถือว่าเป็นคนมีน้ำใจมาก ช่วยเหลือเพื่อนมาตลอด หนูอยากบอกว่า หนูรักเขา แต่หนูไม่กล้าบอกเขาตรงๆ เพราะเขาเป็นคนที่ทำให้หนูหัวเราะได้อยู่เสมอ แต่ในใจหนูก็รู้สึกรักเธอมากตลอดมา”
ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของชีวิต ที่น้องมายด์กำลังย่างเข้าสู่วัยรุ่น เธอต้องการคนอยู่เคียงข้าง ไว้คอยเป็นที่ปรึกษาหารือได้ตลอดเวลา แต่ในสภาพเศรษฐกิจของสังคมที่บีบรัด ทำให้แม่ ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของเธอมาโดยตลอด ต้องจากเธอไปทำงานรับจ้างที่กรุงเทพฯ เพื่อหารายได้มาเลี้ยงดู และส่งเสียให้เธอได้เรียนสูงขึ้น
น้องมายด์พูดถึงแม่ด้วยอาการเศร้าสร้อยว่า “ไม่อยากให้แม่ไปทำงานที่กรุงเทพฯ สักเท่าไร เพราะไม่มีใครอยู่ด้วย แต่ก็ต้องอยู่ให้ได้”
ส่วนผู้เป็นแม่ ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องเลือกเดินในเส้นทางนี้ ได้พูดถึงลูกด้วยความห่วงใยว่า “เรื่องห่วงน่ะห่วง ก็ไม่อยากไปหรอก ถ้าอยู่บ้านแล้วมีรายได้เพียงพอก็ไม่อยากไป แม่ก็ไม่มีให้ลูก ไม่อยากให้ลูกเป็นคนอ่อนแอ อยากให้ลูกมีชีวิตที่ดี ให้สุขสบาย”
และนี่ก็คืออีกหนึ่งบันทึกเรื่องราวคนดี ของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ และอดทน ถึงแม้เธอจะต้องเผชิญกับชีวิตที่ยากลำบากเพียงไร กำลังใจจากคนที่เธอรัก จากคนรอบข้าง สามารถทำให้เธอยืนหยัดอยู่บนเส้นทางของความดี และมั่นใจที่จะสู้กับปัญหาต่อไป
ไม่ว่าชีวิตต่อไปข้างหน้าจะเป็นอย่างไร ขอเพียงแค่ ไม่ย่อท้อ อดทน ทำวันนี้ให้ดีที่สุด ทำความดี เหมือนเป็นส่วนหนึ่งที่ต้องทำเป็นประจำในชีวิตประจำวัน เพียงแค่นี้ “ความสุข” ก็จะอยู่เหมือนเงาตามติดตามเราไปจนตาย….
วันนี้ชีวิตน้องมายด์ดีได้เพราะ “ความดี” หวังเพียงอย่างเดียวว่า กระแสสังคม กระแสเศรษฐกิจในปัจจุบันจะไม่พัดโหมกระหน่ำให้ชีวิตเล็กๆ ของเธอหวั่นไหวได้… ด้วยหัวใจที่สู้ อดทน และคนรอบข้างจะช่วยเธอได้….. และในอนาคตเมื่อน้องมายด์ผ่านพ้นสถานการณ์เหล่านี้ไปได้สองมือเล็กๆ ของเธอจะกลายเป็นอีกหนึ่งพลังที่จะช่วยสร้างชาติให้สวยงามได้อย่างแน่นอน….
เรียบเรียงเขียนใหม่โดย : ณัฐภัทร ตุ้มภู่ team content www.thaihealth.or.th
บันทึกความดีโดย… โรงเรียนบ้านผือพิทยาสรรค์ จังหวัดอุดรธานี
จากหนังสือแผนที่ความดี โครงการสืบค้นความดี ผลิตสื่อคุณธรรม
update 26-09-51