นิทานสร้างสุข ในโรงเรียนตาดีกา

ที่มา : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์


ภาพประกอบจากเว็บไซต์ปิดเทอมสร้างสรรค์


นิทานสร้างสุข ในโรงเรียนตาดีกา thaihealth


เหตุการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ นอกจากจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิต เศรษฐกิจต่อผู้คนแล้ว ยังสร้างปัญหาด้านสภาพจิตใจ การขาดโอกาสในการเรียนรู้ รวมไปถึงการขาดพื้นที่เพื่อทำกิจกรรมสร้างสรรค์ของเด็ก ๆ ในพื้นที่อีกด้วย


"กลุ่มลูกเหรียง" หรือ "สมาคมเด็กและเยาวชนเพื่อสันติภาพชายแดนใต้" ที่ทำงานด้านการปกป้อง คุ้มครองช่วยเหลือเยียว ยาพัฒนาเด็กและเยาวชนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้มานานกว่า 15 ปี จึงใช้โอกาสในช่วงปิดเทอม เปิดพื้นที่การเรียนรู้ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างจินตนาการผ่านกิจกรรม "นิทานยุติความรุนแรงสัญจรในโรงเรียนตาดีกา" โรงเรียนตาดีกาบ้านบานา อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี  ภายใต้กิจกรรม "ปิดเทอมสร้างสรรค์" โดยการสนับสนุนของสสส.ร่วมกับองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม


หลังจากพี่ ๆ อาสาสมัครช่วยกันเปลี่ยนห้องเรียนให้กลายเป็นเวทีการแสดงขนาดย่อม การแสดงละครประกอบการเล่านิทานก็เริ่มต้นขึ้น โดยการใช้ภาษาไทยสลับกับภาษามลายู เพื่อสร้างความน่าสนใจควบคู่ไปกับการอธิบายความหมายให้เด็ก ๆ เกิดความเข้าใจ พร้อม ๆ กับการ สอดแทรกเรื่องความสามัคคี การอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข การเห็นคุณค่าและเคารพในความแตกต่าง รวมไปถึงความพอเพียงและความประหยัด เป็นต้น


นายสุไลมาน เจะอุบง ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาเด็กและเยาวชนกลุ่มลูกเหรียง บอกว่า ลูกเหรียงเติบโตมาพร้อมกับการใช้นิทานเป็นเครื่องมือพัฒนาเด็ก ๆ ในพื้นที่ โดยมีนิทานเรื่อง "มดน้อยกับช้างใหญ่" ที่เด็ก ๆ ที่ได้รับผลกระทบจากความรุนแรงสร้างขึ้นมาจากความรู้สึกจริง ๆ ของพวกเขา และผลลัพธ์ที่เขาอยากจะได้รับในชีวิตจริง คืออยากให้ทุกอย่างจบลง ไม่อยากให้ใช้ความรุนแรง ดังนั้นนิทานเรื่องนี้นั้นเป็นนิทานง่ายๆ สำหรับเด็กที่สามารถใช้ได้มาตลอดจนถึงทุกวันนี้


นางสาวนษมา เสกหวัง ชั้นปีที่ 1 คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี อาสาสมัครกลุ่มลูกเหรียง กล่าวว่า ในระหว่างการเล่านิทานและชวนน้อง ๆ หาบทสรุปในท้ายเรื่อง เราก็จะเปรียบเทียบให้ เด็ก ๆ เห็นถึงความแตกต่างทั้งเชื้อชาติ ศาสนา ภาษา การศึกษา วัฒนธรรม สีผิว เพศ แต่ทุกคนก็สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขด้วยการหาจุดร่วมและการปรับตัวเข้าหากัน เป็นการเปิดมุมมองของน้อง ๆ ให้เห็นและเข้าใจในความต่างว่าไม่ว่าจะเป็นคนไทยพุทธหรือคนไทยมุสลิมเราก็สามารถเป็นเพื่อนกันได้และอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข


นายซาหดัม แวยูโซ๊ะ เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดอบรมกลุ่มลูกเหรียง ผู้รับผิดชอบกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ กล่าวว่า โครงการนี้มีเป้าหมายที่จะไปเล่านิทานให้น้อง ๆ ในโรงเรียนสอนศาสนาจำนวน 20 แห่งในช่วงปิดเทอมนี้ เพราะพ่อแม่ผู้ปกครองจะพาบุตรหลานมาเรียนในโรงเรียนตาดีกาซึ่งเป็นโรงเรียนสอนศาสนา จึงต้องการให้เยาวชนเข้าถึงภาษาไทย รวมไปถึงคุณภาพชีวิตด้วย


กิจกรรมนิทานยุติความรุนแรงสัญจรในโรงเรียนตาดีกาของกลุ่มลูกเหรียง จึงเป็นมากกว่าความสนุก แต่เป็นความสุขและเติมเต็มโลกของจินตนาการที่ขาดหายไป พร้อมกับสอดแทรกเรื่องสันติภาพ ให้หยั่งรากลึกในหัวใจของเด็ก ๆ ทุกคน

Shares:
QR Code :
QR Code