“นิติชะลอน้ำ” ค่ายอาสาชาวศรีปทุม
โครงการ “นิติชะลอน้ำ” จึงเกิดขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากผลกระทบเหล่านี้ โดยน้องๆ ชาวนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีปทุม ที่เห็นว่าการสร้างฝายชะลอน้ำจะช่วยบรรเทาปัญหาดังกล่าวได้
เมื่อทราบว่าเขตอนุรักษ์ต้นน้ำหมู่ 8 อ.นาน้อย จ.น่าน ก็เป็นอีกแห่งหนึ่งที่ประสบปัญหา โดยทราบปัญหาเหล่านี้ มาจากน้องนิติ ศาสตร์คนหนึ่งที่อาศัยอยู่ในจังหวัดนั้น ชาวนิติศาสตร์ศรีปทุม จึงร่วมกับหน่วยจัดการต้นน้ำขุนสถาน กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สร้างฝายชะลอน้ำขึ้นพร้อมกับการรับบริจาคหนังสือ อุปกรณ์กีฬา และสิ่งของที่จำเป็นให้แก่โรงเรียนในพื้นที่
กิจกรรมนี้นอกจากรุ่นพี่รุ่นน้องคณะนิติ ศาสตร์ 38 คน จากทุกชั้นปี ได้ทำกิจกรรมร่วมกัน และบำเพ็ญประโยชน์เพื่อสังคมแล้ว ยังสอนให้นักศึกษาที่มาร่วมกิจกรรมนี้ได้รู้จักแก้ไขปัญหาฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้น ตั้งแต่การรับบริจาคเงิน สิ่งของและอุปกรณ์ในการก่อสร้าง ปัญหาการเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปตัวเมือง จ.น่าน
จากการเดินทางที่ยาวนานร่วม 10 ชั่วโมง และต่อด้วยการขึ้นท้ายกระบะรถ 6 ล้อ ที่พาฝ่าฝูงหมอกอีก 3 ชั่วโมงจนถึงที่หมาย และด้วยภูมิประเทศที่เป็นอุปสรรค โดยก่อนทำฝายต้องเดินเท้าเข้าไป 3 – 4 ก.ม. ภูมิประเทศเป็นลำห้วย มีทางชัน ซึ่งเวลาลำเลียงท่อหินไปต้องใช้แรงงานพอสมควร ในป่ามีทั้งแมลงและทาก นอกจากนั้น ยังมีเรื่องของอากาศที่หนาวเย็น
แม้ชาวบ้านจะให้การต้อนรับดี แต่ต่างก็มีงานในสวนในไร่ต้องทำ จึงไม่สามารถเข้ามาช่วยได้มากนัก การทำงานจะแบ่งทีมกันทำ โดยตั้งเป้าไว้ที่ 2 ฝายต่อวัน แต่ทำได้เกือบฝายที่ 3 ต่อวัน โดยทั้งหมดทำได้ 12 ฝายตรงกับเป้าที่ต้องการ ที่นี่ชาวบ้านใช้ฝายในทำการเกษตร ปลูกข้าว ข้าวโพด พืชไร่ พืชสวน โดยส่วนใหญ่ จะเป็นข้าวโพด
ก่อนไปสิ่งที่คาดหวังมีเพียงอย่างเดียวคือ ต้องการสร้างฝายให้สำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ แต่เมื่อได้ลงมือทำ กับได้อะไรมากมายกว่าที่คิด เช่น เวลาไปบริจาคของให้กับเด็กๆ ก่อนบริจาคคิดว่าชาวค่ายจะเข้ากับเด็กไม่ได้ กลับกลายเป็นเข้ากันได้เป็นอย่างดี สำหรับความรับผิดชอบที่ได้ตรงนี้เป็นผลพลอยได้อยู่แล้ว เพราะแต่ละคนมีหน้าที่เป็นของตนเอง และสิ่งที่ทุกคนไม่เคยทำมาก่อน ต้องมาเรียนรู้พร้อมกัน
อาจารย์เจียมจิต สุวรรณน้อย ผู้ช่วยคณบดีฝ่ายกิจการนักศึกษา ม.ศรีปทุม กล่าวว่า โครงการนิติชะลอน้ำ น่าจะฝึกความมีระเบียบวินัย ฝึกความอดทนเนื่องจากไปสร้างในที่ทุรกันดาร ฝึกความตรงต่อเวลา เนื่องจากงานต้องเป็นไปตามระยะเวลาที่กำหนด ฝึกความสามัคคีทุกรุ่น รุ่นพี่รุ่นน้องตั้งแต่ปี 1 – ปี 4 ได้ศึกษานิสัยใจคอกัน นิติศาสตร์จะส่งเสริมกิจกรรมดีๆ อย่างนี้เสมอ
ซึ่งโครงการนี้ก็เป็น 1 ใน 60 จากจำนวนทั้งหมด 500 โครงการ ที่ได้รับคัดเลือกและได้รับทุน จาก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เป็นครั้งแรกที่เราเสนอโครงการไป แล้วก็ได้เลย แสดงว่าโครงการของเราน่าสนใจ
นายวรรเฉลิม มีนาม (น้องบี) ประธานคณะและประธานรุ่น คณะนิติศาสตร์ ม.ศรีปทุม กล่าวว่า เป็นความประทับใจที่เห็นรุ่นน้องชาวค่ายมีความสามัคคีกัน ได้ร่วมมือกันทำฝายชะลอน้ำขึ้นมาได้สำเร็จ
“ผมภูมิใจว่า ถึงพวกเราไม่เคยทำกันมาก่อน เราก็ทำได้ถ้ามีความพยายามที่จะทำจริงๆ การไปครั้งนี้ได้พิสูจน์อะไรหลายๆ อย่างทำให้เราเป็นคนกล้าตัดสินใจและเด็ดขาดมากขึ้น เพราะคนที่จะเป็นผู้นำได้ต้องเด็ดขาด ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดี โดยส่วนตัวผมไม่ใช่คนเก่งอะไร แต่ด้วยเป็นคนรู้จักเพื่อนเยอะ เพื่อนจึงให้ความร่วมมือดี ง่ายต่อการควบคุม”
นายโกญจนาท คงสิงห์ (น้องตั้ม) รองประธานรุ่น และหัวหน้าฝ่ายกิจกรรม บอกว่า การไปในครั้งนี้สิ่ง ที่ได้อย่างแรกคือความภูมิใจ เพราะงานนี้เป็นงานแรก ที่ผ่านมาเคยแต่ทำงานคณะเป็นงานเล็กๆ ไม่เคยออกนอกสถานที่ เคยแต่เป็นผู้ตาม ครั้งนี้ถึงเป็นผู้ตามก็จริง แต่ก็คล้ายกับเป็นผู้นำเหมือนกัน ช่วยกันต่างคนต่างประสานงาน
“สิ่งที่ได้เห็นคือความพยายามของน้องๆ ชาวค่าย เขาไม่เคยเป็นอะไรมาก่อน เราสอนให้เขาผสมปูน ยกหิน แบกหิน คือทุกคนไม่เคยทำงานหนักมาก่อน สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพความเป็นอยู่แบบทุรกันดารได้ การไปครั้งนี้ทำให้ผมมีความรับผิดชอบมากขึ้น ตื่นแต่เช้า ทำให้ทันเวลาแม้แต่ข้าวปลาอาหารก็ต้องช่วยกันครับ”
ในการทำกิจกรรมครั้งนี้ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี หลังจากกลับมานอกจากน้องๆ ชาวนิติศาสตร์ต้องสรุปเป็นรายงานโครงการ ค่าใช้จ่ายกลับไปให้ สสส. แล้ว น้องๆ เหล่านี้ยังมีเรื่องราวบอกกล่าวรุ่นน้อง โดยใช้โครงการดีๆ อย่าง “นิติชะลอน้ำ” นี้เป็นโครงการนำร่องที่จะส่งต่อให้รุ่นน้องชาวนิติศาสตร์ ศรีปทุม ได้สร้างสรรค์สังคมต่อไป
ที่มา: หนังสือพิมพ์ข่าวสด
update 24-07-52
อัพเดทเนื้อหาโดย : กันทิมา ลีจันทึก
