นิคมฯ ลำพูนรณรงค์ ‘โรงงานสีขาว’ ปลอดเหล้า
บรรดาโรงงานหลายแห่งในนิคมอุตสาหกรรมลำพูนสนับสนุนนโยบายสีขาว ลด ละ เลิกเหล้า ที่ผ่านมาประกาศชัดเจนหนุนโรงงานปลอดเหล้าและให้เร่งออกมาตรการเพิ่ม ห้ามขาย-ห้ามดื่มในบริเวณสถานประกอบการโรงงานเพื่อช่วยลดผลกระทบจากปัญหาเหล้า ทั้งประสิทธิภาพในการทำงานและคุณภาพชีวิต ขณะที่กระทรวงพลังงานขยับกับความเคลื่อนไหวของพี่น้องแรงงาน สั่งให้ระดมความคิดเห็นเพื่อหาแนวทางผลักดันสู่นโยบายโรงงานสีขาวทั่วประเทศไม่เฉพาะเมืองลำพูน
ปรากฏการณ์ตรงนี้สะท้อนให้เห็นว่า สหภาพแรงงาน นายจ้าง รวมไปถึงหน่วยงานรัฐต่างก็เชื่อมั่นว่ามาตรการเหล่านี้จะนำไปสู่ทางออกในการแก้ปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในโรงงาน
สำหรับในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมลำพูน วิสิษฐ์ ยาสมุทร รักษาการประธานสหภาพแรงงานอัญมณีและเครื่องประดับสัมพันธ์ บริษัท สเต็ปโสตน์ ที่ทำงานขับเคลื่อนโรงงานสีขาว ลด ละ เลิกเหล้าในโรงงาน มีศูนย์ศึกษาโรงงานสีขาว ลด ละ เลิกเหล้าในโรงงาน เพื่อให้โรงงานในนิคมมาศึกษา เรียนรู้ และตระหนักพิษภัยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
วิสิษฐ์ รักษาการประธานสหภาพฯ ที่เคยเป็นนักดื่ม กล่าวว่า ในการแก้ปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในโรงงานเน้นรณรงค์ให้ความรู้ ทำความเข้าใจในประเด็นผลกระทบเหล้า ทั้งค่าเหล้าเพิ่มรายจ่าย ไม่มีเงินออม เป็นหนี้นอกระบบ การขาดงาน ในปี 2552สหภาพฯ ขับเคลื่อนต่อสู้ประเด็นเหล้าชัดเจนเพื่อให้โรงงาน คนงานออกจากวังวนที่เรื้อรังอยู่ ชักชวนพนักงานมาร่วมกิจกรรมต่างๆ อย่าง งดเหล้าเข้าพรรษา ปวารณาตนเลิกเหล้า รณรงค์งดเหล้าในวันสำคัญของประเทศ อาทิ วันพ่อ วันแม่ รวมถึงวันหยุดยาวอย่างเทศกาลสงกรานต์
นอกจากนี้ ทุกเดือนมีลงเยี่ยมบ้านสมาชิกที่มีปัญหาเรื่องเหล้า-ครอบครัว มาพูดคุยหาทางออกร่วมกันและรวมถึงให้ความรู้จากการฝึกอบรม ล่าสุด ปี 2553ริเริ่มก่อตั้งกลุ่มออมทรัพย์ลด ละ เลิกเหล้าในนามของบริษัท ก็เริ่มจาก 13คน ปัจจุบันมีสมาชิกถึง 82คน ตั้งเป้าช่วยแก้ปัญหาด้านการเงินคนงาน เน้นพอเพียง กู้ได้เท่าที่ออม ใช้เงินตัวเองเป็นตัวค้ำประกัน มีการปันผลกำไร ขณะเดียวกันก็เป็นการแสดงให้นายจ้างเห็นความมุ่งมั่นตั้งใจของแรงงานเรื่องการออม เพื่อนำไปสู่การตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ร่วมกัน โดยมีกองทุนสำรองเลี้ยงชีพเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนกรณีโรงงานปิดหรือถูกเลิกจ้าง ตอนนี้นายจ้างเห็นความสำคัญ คาดว่าสหกรณ์ออมทรัพย์จะเกิดขึ้นปลายปีนี้
“พนักงานในโรงงานเป็นช่างเจียระไนเพชรประเภทอัญมณี เดิมสภาพปัญหาคนงานดื่มเหล้าในไลน์ผลิต นำเหล้าเถื่อนเหล้ากลั่นเข้าโรงงานบรรจุใส่ขวดน้ำพลาสติก ดูเผินๆ เหมือนน้ำเปล่า ตรวจสอบได้ยาก คนงาน 80%กิน-ดื่มในโรงงาน ก็เป็นปัญหาหนักที่สร้างผลกระทบ มีอาการง่วง ทำงานหนักมากก็ขาดงาน บางคนลา 6-7วันต่อเดือน กระทบประสิทธิภาพ เงินลงขวดเดือนเป็นพัน ถึงเวลาที่ต้องงดเหล้า แรกๆ มีกระแสต่อต้าน เมื่อทำงานมาซักระยะโดยผู้นำแรงงานต้องเป็นต้นแบบเลิกเหล้าให้ได้ ก็เห็นผลสำเร็จขั้นหนึ่ง คนดื่มหนักก็ลดปริมาณ จนเลิกเหล้า แล้วยังมีเงินฝากเข้ากลุ่มออมทรัพย์ หลายครอบครัวมีความสุขกันมากขึ้น” วิสิษฐ์เน้นย้ำ และให้ข้อมูลด้วยว่า เวลานี้ร้านเหล้ารายล้อมโรงงาน ก้าวออกจากประตูโรงงานก็พบเรียงราย ภายในนิคมยังมีร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อีกเพียบ ทำให้คนงานเข้าถึงเหล้าได้ง่าย นี่เป็นอีกประเด็นที่อยากให้มีมาตรการจัดระเบียบ ขจัดสภาพแวดล้อมเอื้อพฤติกรรมการดื่ม ไม่อยากให้เพิกเฉย เพราะน้ำเมาเป็นตัวการก่อความสูญเสียและความรุนแรง
นอกจากนี้ รักษาการประธานสหภาพฯ ยังหวังให้พินิคมอุตสาหกรรมลำพูนเป็นนิคมสีขาวได้ทั้งหมด เขายืนยันโรงงานสีขาวเป็นไปได้ โดยเฉพาะนายจ้างต้องตระหนักถึงความสำคัญของคุณภาพชีวิตคนงาน ขณะนี้ที่โรงงานได้เป็นโรงงานสีขาวลด ละ เลิกเหล้าต้นแบบ มีศูนย์ศึกษาเรียนรู้ประเด็นนี้โดยเฉพาะ เป็นที่ยอมรับของหลายฝ่าย ที่ผ่านมามีบริษัทที่สนใจมาศึกษาดูงาน หากหลายบริษัทและกลุ่มสหภาพขับเคลื่อนไปในทิศทางเดียวกัน พร้อมกับภาครัฐออกกฎหมายควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในพื้นที่โรงงาน เชื่อว่าจากหลายปัจจัยช่วยผลักดันสู่นิคมอุตสาหกรรมสีขาวได้ ในนิคมฯ ลำพูนมีกว่า 100โรง คนงาน 7-8หมื่นคน ถ้าป้องกันเหล้าได้อย่างเด็ดขาด ลดผลกระทบมากมาย อยากให้กำลังใจแรงงานที่ตั้งใจลด ละ เลิกเหล้า ต้องเข้มแข็งทำให้สำเร็จ เลิกเหล้าแล้วชีวิตจะดีขึ้น ยืนยันได้จากประสบการณ์ของตัวเอง เลิกเหล้า เลิกจน.
แรกๆ มีกระแสต่อต้าน เมื่อทำงานมาซักระยะโดยผู้นำแรงงานต้องเป็นต้นแบบเลิกเหล้าให้ได้ ก็เห็นผลสำเร็จขั้นหนึ่ง คนดื่มหนักก็ลดปริมาณ จนเลิกเหล้า แล้วยังมีเงินฝากเข้ากลุ่มออมทรัพย์ หลายครอบครัวมีความสุขกันมากขึ้น
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์