นำร่องเยาวชนไทยห่างไกลเหล้า-พนัน
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
ภาพประกอบจากเว็บไซต์บ้านเมือง
"เหล้า-การพนัน" ถือเป็นอบายมุขและสิ่งมอมเมาใกล้ตัวที่แฝงโทษพร้อมอันตรายมหันต์ ที่จะชักชูงให้เด็กและเยาวชนหลงทาง พลาดโอกาสเติบโตอย่างมีคุณภาพ
ด้วยเหตุนี้ เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน ร่วมกับเครือข่ายเยาวชนป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ ทีมเฉพาะกิจเธียเตอร์ เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงจัดกิจกรรมลงพื้นที่ชวนน้องๆ นักเรียนโรงเรียนบ้านแบนชะโด เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 มาทำกิจกรรมเสริมทักษะ ภายใต้แนวคิด "เด็กรุ่นใหม่ ไม่พนัน ห่างไกลสุรา" เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กๆ ได้รู้เท่าทันกับปัญหาการพนัน และปัญหาเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
นายสุกฤต อ่องชาติ ผู้ประสานงาน ทีมเฉพาะกิจเธียเตอร์ กล่าวถึงกิจกรรมในครั้งนี้ว่า กิจกรรมครั้งนี้พวกเรามีความตั้งใจอย่างมาก จึงชวนน้องๆ มาเรียนรู้ผ่านฐานต่างๆ ที่มีความสนุกสนาน ออกแบบให้แตกต่างเหมาะสมกับช่วงวัย ประกอบด้วย จิกซอว์มหาสนุก โยนห่วง ลูกบอลเสี่ยงทาย จรวด นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมนิทานสำหรับน้องๆ ระดับอนุบาล ซึ่งทั้งหมดได้สอดแทรกเนื้อหาสาระ เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน ป้องกันภัยต่างๆ ที่เป็นปัจจัยเสี่ยง เช่น การพนัน สุรา โดยเรามีทีมพี่เลี้ยง แกนนำเยาวชนมาช่วยชี้แนะไปพร้อมๆ กับเด็ก
"กิจกรรมครั้งนี้ ผมเห็นศักยภาพของน้องๆ เขามีความตั้งใจที่อยากจะเรียนรู้และชวนแลกเปลี่ยน บรรยากาศจึงเป็นไปด้วยรอยยิ้ม เสียงหัวเราะของเด็กๆ ยิ่งเขาได้มาลองทำในสิ่งใหม่ๆ รู้จักเรียนรู้อะไรใหม่ๆ เขาจะนำไปต่อยอดสิ่งดีๆ ในอนาคตได้" ผู้ประสานงานทีมเฉพาะกิจเธียเตอร์กล่าว
นางสาวมาลีนี ดีพิมาย ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านแบนชะโด ระบุว่า โรงเรียนเรามีนักเรียนทั้งหมด 163 คน ส่วนใหญ่เป็นมุสลิมอิสลาม และ 70% เป็นเด็กที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ พ่อแม่แยกทาง ซึ่งพื้นที่ชุมชนรอบโรงเรียนค่อนข้างแออัด และกิจกรรมที่จัดขึ้นครั้งนี้ทำให้เด็กได้สร้างภูมิคุ้มกันในชีวิต รู้เท่าทันปัญหาอบายมุข ซึ่งจัดอยู่ในสาระการเรียนรู้ของโรงเรียน นำมาเชื่อมบูรณาการร่วมกันได้
"ที่ผ่านมาเราให้ความสำคัญกับกิจกรรมนอกห้องเรียน และไม่เคยมองว่าเป็นภาระของคุณครู การเรียนการสอนต้องปรับให้เข้ายุคสมัย จะมาเน้นวิชาการมากเกินไปไม่ได้ เพราะกิจกรรมลักษณะนี้จะทำให้เด็กได้เรียนรู้นอกห้องเรียน ซึ่งมีหลายกิจกรรมที่เราได้ให้เด็กทำ ถ้าเด็กทำได้ก็ผ่านตัวชี้วัดของวิชานั้น อยากให้ทุกโรงเรียนจัดกิจกรรมลักษณะนี้ นอกจากจะได้ละลายพฤติกรรม ยังเสริมทักษะชีวิตด้านต่างๆ ได้ความรัก สามัคคี รุ่นพี่รุ่นน้อง พบปะพูดคุยทำกิจกรรมเพื่อให้เกิดการพัฒนามากขึ้น" ผอ.โรงเรียนบ้านแบนชะโดกล่าวทิ้งท้าย
ขณะที่ เด็กหญิงวรรณกาญจน์ พึ่งและ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านแบนชะโด บอกว่า วันนี้หนูสนุกมาก ได้รับความรู้มุมมองใหม่ๆ โดยเฉพาะโทษของการติดการพนันและการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมันส่งผลกระทบมหาศาล และรู้ข้อกฎหมายตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.2551 ว่าหากทำผิดจะมีโทษอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะเด็กที่อายุต่ำกว่า 20 ปี ห้ามซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ช่วงเวลา สถานที่ไหนที่ห้ามขายแอลกอฮอล์ และหนูจะนำความรู้ที่ได้รับในกิจกรรมครั้งนี้ไปเล่าให้พ่อแม่และญาติพี่น้องข้างบ้านฟังด้วย
เด็กหญิงธิดารัตน์ พุ่มพวง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สะท้อนว่า ที่ผ่านมาทางโรงเรียนมีกิจกรรมให้เด็กๆ ได้ทำเพื่อให้เรียนรู้หลากหลาย แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง เพราะหนูทั้งสนุกและได้ความรู้ใหม่ๆ หนูไม่คิดเลยว่าการพนัน การดื่มสุรา มันจะร้ายแรงทำให้เกิดปัญหาต่อสังคม ต่อประเทศ และมันทำลายอนาคตเยาวชนมากขนาดนี้ อยากฝากถึงทุกคนอย่าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนัน เพราะมันเป็นสิ่งไม่ดีมีแต่โทษ รวมถึงเหล้า บุหรี่ด้วย
ปิดท้ายที่ น้องเล็กสุด เด็กหญิงพินนภัทร โหงอุ่ม ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ระบุว่า ปกติชอบทำกิจกรรมของทางโรงเรียนอยู่แล้ว เพราะมันทำให้เราได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ และครั้งนี้ก็ไม่ผิดหวัง ทั้งสนุกได้มุมมองใหม่ๆ ได้เล่นเกม ตามฐานต่างๆ ซึ่งพี่ๆ ได้สอดแทรกพิษภัยจากการพนันและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ให้ได้ฉุกคิด และขอสัญญาว่าหนูจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับอบายมุขเหล่านี้แน่นอน
นับเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่จะช่วยตอกย้ำสร้างภูมิคุ้มกัน สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้เด็กๆ และครอบครัวไทยให้ห่างไกลจากอบายมุขมากยิ่งขึ้น