นำธรรมะใส่เพลงป็อป เชื่อมโยงคนรุ่นใหม่เข้าถึงธรรมได้ง่าย
แม่ชีชาวทิเบตเผยแผ่พุทธศาสนาแนวใหม่ นำธรรมบทมาใส่ทำนองป็อป เพื่อเชื่อมโยงคนรุ่นใหม่ในทั่วโลกปรากฏบางเพลงฮิตถึงขั้นติดชาร์ตเพลงในสหรัฐอเมริกาและฝั่งยุโรป นอกจากเพราะแล้วยังช่วยให้ใจสงบ
ทึ่ง “เพลงธรรมะจังหวะป็อป” ของแม่ชีทิเบตเสียงเพราะที่สุดในโลก “อะนิ เชอยิง เตรอมา” ฮิตติดชาร์ตเพลงอเมริกา-ยุโรป เผยเป็นครั้งแรกในการนำเอาหลักธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาใส่ไว้ในดนตรีสากลจนกลายเป็นธรรมมนตรา หวังให้คนจิตใจสงบเข้าถึงธรรมได้ง่าย ด้านผู้ช่วยเลขาฯ สังฆราชชี้ไม่ผิดหลักพุทธ เหตุการสวดมนต์ที่มีมาแต่โบราณก็ใช้ทำนองเข้าช่วยเชื่อมคนให้รู้รสแห่งธรรม
ภายในงานสืบสานภูมิปัญญาพุทธหิมาลัย เพื่อแนะนำโครงการ “26 วัน ศิโรราบ ปราบอัตตา” ด้วยการเดินทางไปกราบอัษฎางคประดิษฐ์ไปทิเบต เนื่องในโอกาสฉลองปีพุทธชยันตีของมูลนิธิพันดารา ภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ณ อาคารมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย ได้มีการแสดงธรรมคีตาจาก อะนิ เชอยิง เตรอมา (ani choying drolma) แม่ชีชาวทิเบต ผู้เลื่องชื่อในการปลุกจิตวิญญาณของผู้คนให้ตื่นจากกิเลสผ่านการสวดธรรมมนตราที่มีทำนองเป็นดนตรีสากลแบบ “ป็อป” และเพราะที่สุดในโลกนานกว่า 2 ชั่วโมง โดยผู้ฟังกว่าครึ่งร้อยคนตกอยู่ในภาวะสงบนิ่งอย่างน่าอัศจรรย์
พระ ดร.อนิลมาน ธมฺมสากิโย ผู้ช่วยเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช วัดบวรนิเวศวิหาร กล่าวว่า การใช้ทำนองเพลงสากลมาถ่ายทอดหลักพระพุทธศาสนาไม่ใช่เรื่องผิดแต่อย่างใดเพราะศาสนาพุทธนิกายมหายานมีการนำพระธรรมบทมาร้อยเรียงเป็นบทสวดมนต์ในลักษณะเพลงที่มีดนตรีประกอบเป็นปกติมาแต่เดิมอยู่แล้ว ขณะที่นิกายเถรวาทเองก็มีการสวดสรภัญญะ หรือการแหล่ รวมถึงการเคาะระฆัง ฆ้อง กลองมโหระทึกให้เป็นจังหวะ ไว้ใช้ในการสืบสานหลักพุทธเช่นเดียวกัน จึงไม่ผิดหลักศาสนาแต่อย่างใด
“เพลงทุกวันนี้เป็นเพลงที่ยั่วยุกิเลส มีแต่เรื่องรักใคร่ จึงไม่ใช่เพลงที่ดี ส่วนเพลงที่ดีจะต้องเป็นที่ฟังแล้วอาการรัก โลภ โกรธ หลง ค่อยๆ จางหายไป และธรรมคีตาของแม่ชีทิเบตผู้นี้เป็นการนำเอาพระธรรมบทมาเผยแผ่ เพียงแต่นำเอาจังหวะสากลอย่างดนตรีป็อปมาเชื่อมโยงให้คนสมัยใหม่เข้าถึงพระธรรมโดยง่าย เป็นการกระชากวิญญาณและจิตใจที่กระโดดโลดเต้นจนเกินควรให้กลับมามีสติ อย่างเพลงดวงตาแห่งดอกไม้ หรือ phoolko aankhama ก็เป็นเพลงหนึ่งที่ชาวต่างชาติฮิตมาก จนติดชาร์ตเพลงในสหรัฐอเมริกาและยุโรป คือฝรั่งเขาฟังไม่รู้ความหมายก็จริง แต่ด้วยทำนองและพลังเสียงของแม่ชีก็สามารถสะกดให้ใจสงบนิ่งได้ ถือว่าเป็นก้าวใหม่ของการเผยแผ่ธรรมะที่คนไทยควรรู้จัก”พระอนิลมานกล่าว ด้านแม่ชีอะนิ เชอยิง เตรอมากล่าวว่า เวลาพูดถึงเมโลดี้หรือทำนอง เดิมพระพุทธศาสนาก็มีการใช้ทำนองเพลงเชื่อมให้คนเข้าถึงหลักธรรมอยู่แล้วเพราะทำนองจะให้เรารวบรวมสมาธิได้ง่าย และมีพลังมากพอที่จะทำให้แม้แต่เทวดา คน หรือสัตว์ กระทั่งต้นไม้ ดอกไม้สงบนิ่งได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าวทำให้แถบทิเบต เนปาล นิยมสวดมนตราในแบบธรรมคีตา ที่ใส่ทำนองเพลงเข้าไปเพื่อให้การเข้าถึงพระธรรมได้ผลดีที่สุด รวมถึงการนำเอาธรรมบทมาร้อยเรียงด้วยทำนองเพลงป็อปในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน” พระ ดร.อนิลมาน กล่าว
“เพลงบนโลกมีหลายประเภท หลายแบบ แต่ส่วนมากเป็นเพลงทางโลกที่มีแต่เรื่องอกหักรักๆ ใคร่ๆ เป็นเพลงที่ส่งเสริมปัญหา แม่ชีจึงอยากทำเพลงที่มีพุทธคุณ คำสอน สถิตอยู่ เพื่อให้คนที่เกรี้ยวกราดกลับมามีสติเหมือนอย่างแม่ชีที่เคยเป็นมา ซึ่งหลักการในการสร้างสรรค์มนตราของแม่ชี ก็เพียงแค่นำคำสอนของพระพุทธเจ้ามาถอดเป็นคำง่ายๆ แล้วร้อยเรื่องใส่ทำนองเพลงเข้าไปให้ทุกคนไว้ฟัง” แม่ชีทิเบตระบุ
อะนิ เชอยิง เตรอมา เป็นแม่ชีชาวทิเบต ที่บวชตั้งแต่อายุ 9 ขวบด้วยปัญหาทางบ้าน และอยู่ในร่มของพระธรรมสืบมาจนปัจจุบันอายุได้ 41 ปี สืบสานพระพุทธศาสนาผ่านธรรมคีตาจนมีอัลบั้มเพลงธรรมะอย่างน้อย 4 อัลบั้ม พร้อมกับการเดินทางแสดงธรรมผ่านการขับร้องมนตราทั่วโลกไม่น้อยกว่าปีละ 50 รอบการแสดง ปัจจุบันมนตราของอะนิ เชอยิง เตรอมา เป็นที่นิยมของกลุ่มผู้นับถือศาสนาพุทธในแถบอเมริกาและยุโรปอย่างมาก
ทั้งนี้ อะนิ เชอยิง เตรอมา ยังได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้ขับขานเพลงแห่งธรรมผ่านทำนองสากลต่อหน้าพระพักตร์ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ ภายในงานประชุมองค์กรพุทธศาสนิกสัมพันธ์แห่งโลก (พ.ส.ล.) ที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 21-22 พ.ค.2555 ที่ผ่านมาอีกด้วย
ที่มา: หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์