นักดื่ม 98% เมินเข้ารับการบำบัด! พบสถิติติดเหล้าเพิ่มขึ้นทุกปี
จิตแพทย์ เผยผู้มีปัญหาการดื่มสุรา 98% เมินเข้ารับการบำบัด ชี้เสี่ยงเกิดสารพัดโรค ห่วง!คอทองแดงติดเหล้าเพิ่มและอายุน้อยลงทุกปี แนะผู้มีปัญหาใช้ช่วงเข้าพรรษาเลิกดื่ม ชูสายด่วน 1413 รับปรึกษาเลิกเหล้า
พญ.พันธุ์นภา กิตติรัตนไพบูลย์ จิตแพทย์ที่ปรึกษากรมสุขภาพจิต และ ผจก.แผนงานการพัฒนาระบบการดูแลผู้มีปัญหาการดื่มสุรา (ผรส.) กล่าวถึงแนวทางและคำแนะนำสำหรับผู้มีปัญหาการดื่มสุรา ว่า ในทางการแพทย์ถือเป็นโรคชนิดหนึ่งที่เรียกว่า “ความผิดปกติพฤติกรรมดื่มสุรา”
ซึ่งเป็นความผิดปกติของพฤติกรรมการดื่ม ทั้งดื่มแบบติด และดื่มแบบอันตราย ก่อให้เกิดโรค เช่น ตับแข็ง ตับอักเสบ ระบบประสาท หรือเสี่ยงต่ออันตราย เช่นอุบัติเหตุ สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือ ขณะนี้มีผู้ป่วยติดสุราเพิ่มมากขึ้น ที่สำคัญพบผู้หญิงมากขึ้น และพบผู้ป่วยมีอายุน้อยลงเรื่อยๆ
สาเหตุหนึ่งมาจากเยาวชนหาซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ง่าย ประกอบกับผู้ที่ติดสุราไม่ยอมรับว่าตนเองติดสุรา ดังนั้นการสังเกตอาการติดสุรา คือ ดื่มเป็นประจำ หรือดื่มเกือบทุกวัน หากไม่ได้ดื่มจะมีอาการ เช่น นอนไม่หลับ หงุดหงิด กระสับกระส่าย เครียด โมโหง่าย มือไม้สั่น มีเหงื่อออกตามร่างกาย ฝันร้าย หูแว่ว ประสาทหลอน หรือมีอาการชัก โดยอาการมากน้อยแล้วแต่ความรุนแรงของการติดสุรา แต่อาการดังกล่าวสามารถปรึกษาแพทย์ และรับการบำบัดรักษาได้อย่างปลอดภัย
“จากผลการสำรวจประชากรไทยอายุ 15-60 ปี พบผู้มีปัญหาการดื่มสุรามากถึง 5 ล้านคน ในจำนวนนี้เป็นโรคติดสุรา 3 ล้านคน เป็นเพศชายมากกว่าเพศหญิง และในพื้นที่ภาคเหนือ อีสานมีปริมาณสูงกว่าภาคอื่นๆ ทั้งนี้ ข้อมูลที่น่าเป็นห่วง พบว่า ผู้ติดสุราขอเข้ารับการบำบัดรักษาในสถานพยาบาลเพียง 2% เท่านั้น แสดงว่าผู้ติดสุราอีก 98% ไม่ได้เข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษา โดยมีสาเหตุที่ว่า ตัวเองไม่ได้ติดสุรา”
สำหรับผู้ที่ดื่มสุราเป็นประจำ ที่คิดจะใช้ช่วงเทศกาลเข้าพรรษานี้เป็นจุดเริ่มต้นในการเลิกดื่ม อย่างแรกที่ต้องทำคือ ต้องประเมินอาการของตนเองว่า ที่ผ่านมาการดื่มสุราส่งผลกระทบกับร่างกายรุนแรงแค่ไหน เคยมีอาการข้างต้นมากน้อยเพียงใด หากไม่ได้ดื่มหรือลดปริมาณการดื่มลง หากรุนแรงมากควรพบแพทย์เพื่อขอคำแนะนำในการบำบัดจะปลอดภัยที่สุด
ส่วนคนที่ดื่มไม่มาก ไม่เคยมีอาการดังกล่าวหรือมีเพียงเล็กน้อย และไม่มีโรคประจำตัวที่ควรเฝ้าระวัง ก็สามารถเลิกดื่มได้เอง การฟื้นฟูของร่างกายจะใช้เวลาประมาณ 5-7 วัน จะหายเป็นปกติ อย่างไรก็ตาม การเลิกสุราไม่ใช่เรื่องยาก แต่สิ่งที่ทำได้ยากคือ ทำอย่างไรไม่ให้กลับไปดื่มซ้ำอีก เพราะหากผู้ป่วยยังอยู่ในสภาพแวดล้อมเดิมๆ หาซื้อแอลกอฮอล์ได้ง่าย ก็จะเสี่ยงต่อการกลับไปดื่มซ้ำได้
“เชื่อว่ากิจกรรมงดเหล้าเข้าพรรษาในช่วง 3 เดือน จะเป็นหนทางหนึ่งที่จะทำให้เลิกดื่มได้ โดยเฉพาะปีนี้เป็นปีมหามงคล “พุทธชยันตี” 2,600 ปี การตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า น่าจะมีคนจำนวนไม่น้อย ตั้งใจอธิษฐาน งดเหล้าตลอดพรรษา 3 เดือน และตลอดชีวิต เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา กิจกรรมดังกล่าวจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้คนดื่มสุราเริ่มเรียนรู้เพื่อปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ควบคุมตัวเองไม่ให้ดื่ม และเกิดความมั่นใจว่าตนสามารถเลิกดื่มได้จริง”
ที่ผ่านมา พบว่า ช่วงเข้าพรรษาเป็นช่วงที่มีคนโทรศัพท์เข้ามาขอรับคำปรึกษาจากสายด่วน 1413 มากที่สุด สำหรับคนที่เริ่มตัดสินใจอยากจะเลิก ควรหาข้อมูลเพื่อเตรียมพร้อมของร่างกาย คือ ปรึกษาแพทย์ หรือผู้ให้บริการทางสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลชุมชน โรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลศูนย์ หรือโรงพยาบาลจิตเวช สถาบันบำบัดยาเสพติดทุกแห่ง หรือหน่วยงานสายด่วนเลิกเหล้า 1413 ซึ่งสามารถโทรขอคำปรึกษาได้
ที่มา: หนังสือพิมพ์สยามรัฐ