นศ.แพทย์ 1ใน3 อยากเลิกบุหรี่

เห็นด้วยกม.ห้ามสูบ-โฆษณา

 

 นศ.แพทย์ 1ใน3 อยากเลิกบุหรี่

 

           ศจย. – สสส. สำรวจพบนักศึกษาแพทย์สาธารณสุข 1 ใน 3 อยากเลิกสูบบุหรี่ เป็นตัวอย่างที่ดีให้ประชาชนรักสุขภาพ เห็นด้วยกฎหมายยาสูบ ห้ามสูบ ห้ามโฆษณา ชี้ต้องขยายเครือข่ายสุขภาพ ชวนนักศึกษาวิชาชีพอื่นเลิกสูบ รู้ภัยบุหรี่ เชื่อส่งผลประชาชนได้ ฮูสนับสนุนให้สำรวจรอบสอง

 

           ดร.ศิริวรรณ พิทยรังสฤษฏ์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยและจัดการความรู้เพื่อการควบคุมยาสูบ (ศจย.) กล่าวว่า หน้าที่ของบุคลากรด้านการแพทย์และสาธารณสุขอย่างหนึ่งคือ การเป็นตัวอย่าง ที่ดีให้กับประชาชน โดยเฉพาะด้านสุขภาพ ศจย. ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เคยทำการสำรวจอัตราการสูบบุหรี่ของนักศึกษาวิชาชีพสุขภาพชั้นปีที่ 3 ประกอบด้วย 7 วิชาชีพ คือ กลุ่มนักศึกษาแพทย์ ทันตแพทย์ พยาบาล เภสัชกร เทคนิคการแพทย์ กายภาพบำบัด และสาธารณสุขของสถาบันการศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชนในปี 2549 จำนวนทั้งสิ้น 5,952 คน พบว่านักศึกษาที่เคยสูบบุหรี่อย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิตมี 14.7% เป็นชาย 30.1% หญิง 9.7% โดยนักศึกษาสาธารณสุขมีอัตราการเคยลองสูบมากที่สุด 21.4% พยาบาลเคยลองน้อยที่สุด 13.9% เมื่อสอบถามอัตราการสูบบุหรี่ในช่วงรอบเดือนที่ทำการสำรวจพบว่า นักศึกษาเทคนิคการแพทย์มีอัตราการสูบมากที่สุด 7.7% ต่ำ สุดนักศึกษาพยาบาล 1.1%

 

            กลุ่มตัวอย่าง 24.7% ต้องการจะเลิกสูบบุหรี่ทันที และอีก 40.6% พยายามที่จะเลิกสูบบุหรี่ และเคยได้รับการแนะนำให้สูบบุหรี่ หรือคิดเป็น 1 ใน 3 ของนักศึกษาที่อยากจะเลิกสูบบุหรี่ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชนดูแลรักษาสุขภาพของตนเอง โดยกลุ่มตัวอย่างทั้งหมดคือ 100% เห็นด้วยกับแนวทางการบังคับใช้กฎหมายยาสูบ เช่น การกำหนดอายุต่ำกว่า 18 ปีห้ามซื้อบุหรี่ การห้ามโฆษณายาสูบ การห้ามสูบบุหรี่ในสถานบันเทิงและอาคาร เป็นต้น โดยนักศึกษายังเห็นด้วยกับการเป็นแบบอย่างที่ดีในการเลิกสูบบุหรี่ถึง 99.0%  ดร.ศิริวรรณ กล่าว

 

           ดร.ศิริวรรณ กล่าวต่อว่า องค์การอนามัยโลก จะสนับสนุนให้ประเทศไทย ทำการสำรวจการบริโภคยาสูบในกลุ่มนักศึกษาด้านการแพทย์และสาธารณสุขเป็นรอบที่สอง ซึ่ง ศจย. จะเป็นผู้ประสานงานการดำเนินงานในต้นปี พ.ศ. 2554 นี้ ซึ่งจะเป็นการประเมินผลการรับรู้ของนักศึกษาหลังจากประกาศนโยบายการขยาย พื้นที่ห้ามสูบบุหรี่ในสถานศึกษา ที่ประกาศไปแล้วในปีพ.ศ. 2553 นี้ด้วย ซึ่งเชื่อว่านักศึกษาส่วนใหญ่เห็นด้วยกับแนวทางนี้

 

 

 

 

 

ที่มา : สำนักข่าว สสส.

 

 

 

 

Update : 08-11-53

อัพเดทเนื้อหาโดย : กิตติภานันทร์ ลีจันทึก

 

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code