นมแม่ดีอย่างไร

ที่มา : มูลนิธิหมอชาวบ้าน


นมแม่ดีอย่างไร thaihealth


แฟ้มภาพ


น้ำนมแม่คืออาหาร ที่ดีและวิเศษสุดของมวลมนุษย์ เป็นอาหาร แห่งความเอื้ออาทรของ แม่สู่ลูก การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่เป็นศิลปะแห่งความสวยงามของชีวิต เพราะน้ำนมแม่ไม่เพียงแต่จะทำให้ลูกอิ่มท้องและสร้างความเจริญเติบโตด้านร่างกายของลูกได้อย่างเหมาะสมเท่านั้น แต่ยังพัฒนา จิตใจของแม่และลูกได้อย่างดีเลิศ


6 เดือนแรกลูกกินนมแม่อย่างเดียว ลูกไม่ขาดน้ำไม่ขาดอาหาร อย่างแน่นอน ที่สำคัญเท่ากับได้เริ่มต้นสิ่งดีๆ ให้กับชีวิตลูกน้อย นั่นคือ


  1. ระยะ 6 เดือนแรก สมองลูกเติบโตเร็วมาก นมแม่เหมาะกับสมองที่โตเร็ว
  2. ระยะ 6 เดือนแรก ทางเดินอาหารลูกยังย่อยอาหารอื่นได้ไม่ดี นมแม่ย่อยง่ายที่สุด
  3. ระยะ 6 เดือนแรก ลูกยังสร้างภูมิคุ้มกัน ได้ไม่ดี นมแม่มีภูมิคุ้มกันมาด้วย
  4. ระยะ 6 เดือนแรก กระเพาะอาหารมีขนาดเล็กนิดเดียว ยืดหยุ่นได้ไม่มาก ถ้าได้อาหารอื่น นอกจากไปแย่งที่แล้วอาหารเหล่านี้มีสารอาหารสู้นมแม่ไม่ได้


การให้ลูกกินอาหารอื่นด้วย จะทำให้ลูกมีโอกาสเจ็บป่วยบ่อยกว่า เพราะมีโอกาสจะรับเชื้อโรคที่ปนมากับอาหารเหล่านั้นได้มาก รวมทั้งมีโอกาสแพ้โปรตีนที่ มากับนมผสมหรืออาหารอื่นด้วย และอาหารอื่นเหล่านี้ รวมถึงน้ำด้วย นอกจากจะไปแย่งที่นมแม่แล้ว ทำให้ ลูกอิ่มและดูดนมแม่น้อยลง แม่ก็จะสร้างน้ำนมได้น้อยลง และนมแม่ก็จะหมดไปในที่สุด 


ภูมิคุ้มกันจากแม่ถึงลูก


นมแม่มีภูมิคุ้มกัน มีเซลล์คอยดักจับเชื้อโรค สารย่อยสลายเชื้อโรค สารต่อต้านการติดเชื้อต่างๆ ที่ทำงาน ประสานและรวมพลังกัน นอกจากนี้ ในนมแม่มีสารภูมิคุ้มกันที่ช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้ระบบทางเดินอาหารและทางเดินหายใจ ช่วยกำจัดเชื้อโรค มีวิตามินเอและสารเร่งการเจริญเติบโต ของเยื่อบุทางเดินอาหาร ทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายลูกน้อย ได้ยากขึ้น ภูมิคุ้มกันเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับทารกเพราะลูกวัยนี้ยังสร้างภูมิคุ้มกันได้ไม่ดี ปกติแล้วเด็กแรกเกิดทุกคนได้รับภูมิคุ้มกันเชื้อโรค จากแม่ผ่านทางสายสะดือ ถ้าให้ลูกกินนมแม่ ลูกก็จะได้รับภูมิคุ้มกันจากนมแม่เพิ่มอีกทาง กลายเป็นสองแรงแข็งขันช่วยป้องกันลูกจากเชื้อโรคได้มากยิ่งขึ้น


  • ลูกแข็งแรง ไม่ป่วยบ่อย


นมแม่ระยะ 1 สัปดาห์แรกเป็นยอดน้ำนม เรียกว่า โคลอสตรัม หรือหัวน้ำนม เป็นน้ำนมที่มีภูมิคุ้มกันสูงสุด คุณแม่ควรให้ลูกได้กินหัวน้ำนมนี้ แม้ว่าตอนหลังจะไม่ต้องการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ก็ตาม เด็กที่กินนมแม่จะมีโอกาสเจ็บป่วยน้อยกว่าเด็กที่กินนมผสม ประมาณ 2-7 เท่า และลดโอกาสเกิดโรคลำไส้อักเสบในเด็กแรกเกิดถึง 20 เท่า ส่วนโรคอื่นๆ ก็ลดโอกาสเกิดได้ 2-5.5 เท่า เช่น โรคท้องเสีย ปอดบวม หูชั้นกลางอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ ทางเดินปัสสาวะอักเสบ ภูมิแพ้ และเบาหวาน


  • ลดภูมิแพ้


ช่วง 6 เดือนแรกของชีวิต การทำงาน ของส่วนต่างๆ ยังไม่เท่าผู้ใหญ่ เยื่อบุลำไส้ยังไม่แข็งแรง น้ำย่อยอาหารยังไม่เพียงพอที่จะย่อยอาหารเหล่านี้ สารช่วยย่อยหรือสารภูมิคุ้มกันยังทำงานไม่เต็มที่ ถ้าให้ลูกกินอาหารอื่น เช่น นมผง ข้าว กล้วย ลูกก็ยังย่อยได้ไม่ดี นำไปสู่การแพ้ได้ปัจจุบันพบโรคแพ้โปรตีนนมวัวมากขึ้น หากลูกน้อยกินนมแม่เพียงอย่างเดียว จะได้โปรตีนจากนมแม่ที่จำเพาะสำหรับลูกคน ไม่กระตุ้นให้เกิดการแพ้ แต่ถ้าให้ลูกกินนมผสมก็จะได้โปรตีนนมวัว ซึ่งสำหรับร่างกาย ลูกวัย 6 เดือนแรกถือเป็นสิ่งแปลกปลอม ร่างกาย ของลูกบอบบางไม่สามารถกำจัดออกไปได้ อาจเกิดอาการแพ้


  • อารมณ์ดี อีคิวเพียบ


การเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ นอกจากลูกฉลาดแล้ว ลูกอารมณ์ดี เลี้ยงง่าย ไม่ร้องไห้โยเยบ่อยๆ การให้ลูกกินนมแม่ แม่โอบกอด สัมผัสระหว่างแม่และลูก ทำให้ลูกเกิดความอบอุ่น รู้สึกถึงความรัก ที่แม่มอบให้ ลูกก็จะเกิดความสุขขึ้นในใจ เมื่อลูกมีความสุข ก็เลี้ยงง่าย ไม่โยเย ร่างกายของแม่เองก็หลั่งสารที่ทำให้แม่มีความสุข อารมณ์ดี ขณะให้นมลูก หากแม่ได้สบตา ยิ้มกับลูก ชวนลูก พูดคุย สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างแม่และลูกให้ค่อยๆ ซึมซับสิ่งที่ดีวันละเล็กละน้อย นำไปสู่การมีอารมณ์ที่ดี อิ่มอุ่นรัก ด้วยนมแม่ 

Shares:
QR Code :
QR Code