ท่องเที่ยวแบบวิถีอินทรีย์

ท่องเที่ยวแบบวิถีอินทรีย์ thaihealth


แฟ้มภาพ


เมื่อสวนเกษตรอินทรีย์ของเกษตรกรในโครงการสามพรานโมเดล อำเภอสามพราน จังหวัดนครปฐม ที่ มูลนิธิสังคมสุขใจภายใต้การสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และโรงแรมสามพรานริเวอร์ไซต์ ได้ส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวแบบมีส่วนร่วมสไตล์วิถีอินทรีย์ โดยเชื่อมผู้ปลูกกับผู้บริโภคได้พบปะกันโดยตรง สถานที่ดังกล่าวจึงกลายเป็นเสน่ห์ที่นักท่องเที่ยวทุกคนอยากจะเดินทางไปสัมผัสสักครั้งหนึ่ง


ล่องเรือคลองจินดา


ด้วยเหตุนี้ ทางกองส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) จึงนำทีมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวต่างประเทศลงพื้นที่สำรวจภูมิทัศน์ ในพื้นที่ ตำบลบางช้าง ตำบลตลาดจินดา ตำบลไร่ขิง รวมถึงตลาดสุขใจ เพื่อนำร่องสู่เส้นทางท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์สายอาหาร รองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่นิยมวิถีไทย


เริ่มต้น ที่ กลุ่มเกษตรกรตลาดจินดา ซึ่งเป็นแหล่งปลูกไม้ผลสำคัญของอำเภอสามพรานล่องเรือแจวไปตามลำน้ำคลองจินดา โดยมี มัคคุเทศก์น้อย เล่าเรื่องราวของคลองแห่งนี้ให้ฟังว่า ในอดีตชื่อว่าคลองจีนด่ ที่เชื่อมมาจากแม่น้ำท่าจีน ซึ่งชาวจีนได้มาตั้งรกรากทำสวนผลไม้ ก่อนจะมาเปลี่ยนป็นคลองจินดา เพื่อความไพเราะ จนกลายเส้นทางคมนาคมสำคัญทั้งในอดีตและปัจจุบัน


สวนมะเฟืองอายุ 40 ปี


ระหว่างทางทุกคนจะเพลิดเพลินกับความร่มรื่นของสวนผลไม้ สลับกับสวนมะพร้าวน้ำหอมทอดยาวเป็นทิวแถวไกลสุดสายตา ก่อนจะมาถึงจุดหมายแรกใช้เวลาประมาณ 15 นาที ณ บ้านคุณลุงประกฤติ เกิดมณี หนึ่งในเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้อินทรีย์ โดยเฉพาะมะเฟือง ซึ่งมีพื้นที่ปลูกถึง 14 ไร่ และ ชมพู่ ฝรั่งอินทรีย์ กล้วย มะพร้าวน้ำหอม ซึ่งล้วนแล้วเปลี่ยนมาใช้วิถีแห่งอินทรีย์ปลูกโดยปราศจากการใช้สารพิษ


ออกจากสวนมะเฟืองที่มีอายุมากกว่า 40 ปีทุกคนก็เดินทางต่อไปยัง สวนฝรั่งอินทรีย์ของ ป้าประหยัด ปานเจริญ หัวหน้ากลุ่มเกษตรอินทรีย์กลุ่มบางช้าง ณ จุดนี้มีโอกาสได้สัมผัสกับบรรยากาศการนั่งเรือโฟมล่องไปตามร่องสวนเก็บฝรั่ง พร้อมเรียนรู้วิธี การดูแล การเก็บเกี่ยว ตลอดจนการทำน้ำฝรั่งคั้นสด น้ำฝักข้าวคั้นสด รวมถึงขนมไทย ทั้งชิม ทั้งช็อปผลไม้อินทรีย์กลับบ้านกันอย่างสนุกสนาน


นั่งเรือโฟมล่องไปตามร่องสวน


ทั้งนี้ นายอรุษ นวราช เจ้าของโครงการสามพรานโมเดล ได้บอกว่า การมาเที่ยวสวนอินทรีย์ในพื้นที่อำเภอสามพราน จะสัมผัสถึงวิถีไทยอย่างแท้จริง เนื่องจากมีการซื้อขายสินค้าเกษตรกันจริงๆ ซึ่งการท่องเที่ยวจะเป็นเพียงผลพลอยได้จากกิจกรรมดังกล่าว เพราะฉะนั้นจึงถือเป็นการส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน


ด้าน นาย จารุเชฏฐ์ เรืองสุวรรณ ผู้อำนวยการกองส่งเสริมแหล่งท่องเที่ยว ของ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) บอกว่า โครงการ สามพรานโมเดล มีจุดเด่นที่เชื่อมโยงระหว่างผู้ผลิตและผู้บริโภค เมื่อนำการท่องเที่ยวเข้ามา จะทำให้ผู้บริโภครู้จักและเข้าใจสินค้าอินทรีย์มากขึ้น เพราะเวลานี้กระแสรักสุขภาพทั้ง สุขภาพกาย และสุขภาพจิตในสังคมเมืองมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง


ชมโชว์ปีนต้นหมาก


ขณะที่มื้อกลางวันจะเป็นไฮไลท์ของโครงการสามพรานโมเดล เนื่องจากด้วยการแวะเติมพลังที่ สวนลุงเขียด หรือสวนท่องเที่ยวแบบวิถีอินทรีย์ thaihealthเกษตรอินทรีย์ของสามพราน ริเวอร์ไซด์ สถานที่แห่งนี้นักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้ที่มาของอาหารอินทรีย์ วิถีชีวิตชาวนาแบบดั้งเดิม ผ่านกิจกรรมต่างๆ อาทิ การทำชีวภัณฑ์ต่างๆ เก็บผักสดจากแปลง เก็บไข่จากฟาร์ม ที่เลี้ยงแบบธรรมชาติ มาปรุงอาหาร ทดลองทำนาด้วยตัวเอง พร้อมชมโชว์ปีนต้นหมากจากปรมาจารย์แห่งการปีนหมากมาสองทศวรรษ ที่ย้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตของชาวสวนหมากเมื่ออดีตซึ่งปัจจุบันหาดูได้ยากเต็มที เพราะอาชีพนี้ต้องใช้ความชำนาญเป็นอย่างมาก


ก่อนจะเดินทางไปซื้อของฝากที่ ตลาดสุขใจ ซึ่งมีสินค้าเกษตรอินทรีย์ ทั้งพืชผัก ผลไม้หลากชนิด และสินค้าประเภท เนื้อสัตว์หมู ไก่ที่ผ่านการเลี้ยงโดยไม่พึ่งพายาปฏิชีวนะ นอกจากนี้ยังมีอาหารสำเร็จ เช่นผัดไทย ส้มตำ ข้าวโพดปิ้ง กล้วยปิ้ง ขนมไทย เป็นต้น ไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เท่านั้น


ทุ่งนาเขียวขจี


สำหรับการท่องเที่ยววิถีไทย มีเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใครจึงมีเสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาสัมผัสสอดรับกับวิถีแห่งอินทรีย์ ที่ไม่ได้มีเพียงแต่อาหารดีๆ ยังเป็นบ่อเกิดสังคมแห่งความเกื้อกูล ย้ำเตือนถึงความเป็นไทยที่สัมผัสได้จากหัวใจ ผู้ที่สนใจเส้นทางท่องเที่ยวดังกล่าว สามารถติดต่อสอบถาม สามพรานโมเดล ศูนย์พัฒนาเกษตรอินทรีย์สุขใจ โทร.034- 225- 203 หรือแลกเปลี่ยนข้อมูลการท่องเที่ยวได้ที่โทร. 0-2622-1810-19 ต่อ 353,354 และwww.facebook.com/siamrath.travel


 


 


ที่มา: เว็บไซต์สยามรัฐ 

Shares:
QR Code :
QR Code