ท่องยี่สาร เมืองสามน้ำเที่ยวสนุก-ได้ปัญญา
SOOK ตะลอนทัวร์พาเที่ยว บ้านยี่สาร อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม
บ้านยี่สาร อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เป็นพื้นที่ที่อุดมไปด้วยสาระ ตั้งอยู่เชิงเขายี่สาร เป็นเขาหินปูนปนหินทรายขนาดย่อมอยู่กลางป่าชายเลน และเป็นภูเขาแห่งเดียวของจังหวัดสมุทรสงคราม อยู่ห่างจากชายฝั่งอ่าวไทยราว 5 กิโลเมตร
พื้นที่โดยรอบเต็มไปด้วยป่าชายเลนที่กลายเป็นสวนป่าโกงกางและนากุ้ง มีลำคลองสายต่างๆ ทั้งคลองขุด และคลองธรรมชาติเชื่อมเส้นทางสู่ชุมชน พื้นที่ป่าชายเลนเป็นที่ทำกิน ลำน้ำที่ใช้จับสัตว์น้ำ คลองสายต่างๆ คือหัวใจในการคมนาคมยุคแรกเริ่ม ปัจจุบันมีถนนตัดผ่านเนื่องจากมีความเจริญมากขึ้น
บ้านยี่สาร เป็นส่วนปลายน้ำที่ไหลออกปากอ่าวไทย มีระดับน้ำขึ้นน้ำลง ตามธรรมชาติ เรียกบริเวณนี้ว่า "เมือง สามน้ำ" เพราะช่วงปากอ่าวเป็น "น้ำเค็ม" ช่วงน้ำทะเลหนุนมีน้ำจืดไหลรวมกลาย เป็น "น้ำกร่อย" และเมื่อน้ำลงจะมี "น้ำจืด" ไหลผ่านสภาพพื้นที่ที่เป็นดินเค็ม ทำนาปลูกพืชผลไม่ได้ ชาวยี่สารจึงดัดแปลง นำพืช ท้องถิ่นมาปรุงเป็นอาหาร
ในอดีตเคยมีการขุดค้นทางโบราณคดีบริเวณเนินดินขนาดใหญ่สูงกว่าพื้นที่รอบๆ ราว 2-3 เมตร เริ่มจากเชิงเขาด้านทิศใต้โอบล้อมจนถึงโรงเรียนประถม จรดคลองยี่สารตรงข้ามปากคลองหลวงหรือบริเวณศาลา พระปาลิไลก์ รวมเอาบริเวณที่เรียกว่า "อู่ตะเภา" ไว้ด้วย
การขุดค้นพบเปลือกหอยแครง และ เศษภาชนะดินเผาประเภทต่างๆ ชั้นดินแต่ละชั้นแสดงถึงที่อยู่อาศัยอย่างชัดเจน โดยยี่สารนับเป็นชุมชนที่เกี่ยวเนื่องกับการค้าทางทะเล เพราะพบเศษภาชนะจากแหล่งเตาทุกแห่งที่มีการทำเครื่องถ้วยชาม และนำออกขายโดยใช้เส้นทางทางทะเล
ปัจจุบันได้เก็บรวบรวมโบราณวัตถุไว้ที่พิพิธภัณฑ์วัดเขายี่สาร เขายี่สารมีความเชื่อและพิธีกรรมเกี่ยวกับ "พ่อปู่ศรีราชา" พ่อปู่ศรีราชา คือ ผู้ที่คอยปกป้องคุ้มครองหมู่บ้านให้แคล้วคลาดจากภัยอันตรายต่างๆ ในอดีตที่นี่เคยเป็นแหล่งหลบซ่อนของพวกโจรดังๆ หลายก๊ก เช่น ขุนโจรบ้านก่อไผ่ ชาวบ้านไปบนบานให้พ่อปู่ช่วย เมื่อได้ข่าวว่าจะมีโจรมาปล้นหมู่บ้านทำให้รอดพ้นจากการถูกปล้นทุกครั้ง
ทุกปีที่เขายี่สารจะมีพิธีบูชาพ่อปู่ศรีราชา และเพราะเชื่อกันว่า พ่อปู่ศรีราชาเป็นคนจีน เวลาทำพิธีจึงต้องให้ชาวจีนโพ้นทะเลที่พูดภาษาจีนได้เป็นผู้ทำพิธีกรรม แต่ปัจจุบันยกเลิกแล้ว เนื่องจากไม่มีคนจีนที่สามารถทำพิธีกรรมดังกล่าวได้ ที่กล่าวมาคือ "สมบัติของท้องถิ่น" บางส่วนที่ชาวบ้านเขายี่สารค้นพบ
ผศ.สิริอาภา รัชตะหิรัญ ประธานพิพิธภัณฑ์บ้านเขายี่สาร เล่าว่า หลังเกษียณ อายุได้ช่วยชุมชน บ้านที่อยู่เป็นที่แรกของโรงถ่านของยี่สาร บริเวณนี้เมื่อก่อนเป็นป่าผสม มีพืชหลายชนิดรวมอยู่ ชาวบ้านมี อาชีพเก็บฟืนขาย ต่อมามีเพื่อนพ่อเป็นคน อยู่อำเภอกันตัง จังหวัดตรัง มาเยี่ยมและ เห็นว่าเอาของป่าชนิดนี้ไปขายเป็นฟืนมีรายได้ไม่มาก จึงบอกให้นำมาเผาเป็นถ่านจะได้ราคากว่า จึงได้นำวิทยาการเผาถ่านมาจากจังหวัดตรัง
เริ่มจากก่อสร้างเตาและถ่ายทอดวิทยาการเผาถ่านให้คุณพ่อ จากนั้นได้เปลี่ยนพื้นที่จากเดิมที่มีพืชอยู่หลายชนิด เปลี่ยนมาเอาไม้โกงกางลงปลูก เลือกพันธุ์ที่ใบเล็ก ปลูกพอโตได้ขนาดก็จะตัดเป็นวัตถุดิบการเผาถ่าน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2480 หรือเมื่อประมาณ 70 ปีมาแล้ว
"ตอนนี้ประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ทำส่งออกไปต่างประเทศ โดยถ่านไม้โกงกางเป็นถ่านไม้ที่ใช้หุงต้มมีคุณภาพดีที่สุด ให้ไฟแรงถึงระดับเขียวฟ้า ไม่ค่อยมีปะทุ ไม่ค่อยมีขี้เถ้า เป็นเอกลักษณ์ของถ่านไม้โกงกาง ถ้าใช้ถ่านโกงกางแล้วก็จะลืมถ่านจากไม้เบญจพรรณอื่นไปเลย"
ผศ.สิริอาภาบอกอีกว่า ยี่สารมีการย้อมผ้า โดยใช้เปลือกไม้ในป่าชายเลน เช่น ตะบูน มาเป็นวัตถุดิบ ต่อมาเห็นว่าใบไม้บางอย่างเป็นน้ำย้อมได้ เช่น ใบหูกวาง ใบมะม่วง บนเขายี่สารจะมีมะเกลือ เวลาออกลูกจะนำมาทำเป็นน้ำย้อม ตำผสมสีเข้าไป จะได้ผ้าเฉดสีไม่ซ้ำกัน แล้วแต่จะผสมลงไปมากหรือน้อย ใช้กรรมวิธีต้มให้ได้น้ำย้อมที่มีความเข้มข้นพอเหมาะ ถ้าน้ำย้อมข้นมากสีก็จะเข้ม ถ้ามีน้ำย้อมใสและย้อมเร็วสีก็จะบาง หรือใส่สีน้ำมะเกลือลงไปก็จะออกมากระเดียดดำ หรือแม้การนำไปตากแดดหลังจากมัดย้อมแล้วก็แช่น้ำ แช่น้ำสี และนำไปตากแดดทิ้งไว้ สีก็จะทวีขึ้น เป็นความรู้พื้นบ้าน เราจึงขายความคิดที่ว่าถ้าย้อมจากเรามีชิ้นเดียวในโลก แล้วหัดให้ชาวบ้านได้มัดแล้วย้อมก็ได้ลวดลายที่แตกต่างไม่ซ้ำเดิม
ไม่เพียงแต่เท่านั้น ที่โรงเรียนวัดเขายี่สารยังมีการแสดงของนักเรียนที่เป็นเอกลักษณ์ คือการแสดงหุ่นสาย การแสดงนี้ เป็นการเรียนการสอนมานานเกือบ 10 ปี อาจารย์ผู้สอนได้ไปอบรมร่วมกับ สสส. เรื่องการรณรงค์นักดื่มหน้าใหม่ โดยใช้หุ่นสายเป็นสื่อ พอกลับมาก็สอนให้กับนักเรียน อาจารย์ ไพรัช แก้วกาม ครูประจำชั้นประถมปีที่ 3 กล่าวว่า อาจารย์ปาริชาติผู้ควบคุมวงบอกว่า ได้ตั้งคณะวงหุ่นสาย "ช่อชะคราม" หมายถึงวัชพืชชนิดหนึ่ง คือใบ "ชะคราม" ที่ขึ้นตามขอบบ่อกุ้งในพื้นที่ดินเค็ม สามารถนำมาปรุงเป็นอาหารพื้นบ้านของยี่สารขึ้นมา
อาจารย์ปาริชาติมองหาสื่อสำหรับเด็ก จึงร่วมกันทำหุ่นพร้อมแต่งบทละคร นำเด็กมาฝึกตั้งแต่ ป.2-ป.6 และได้รับความสนใจเรื่อยมา นำไปแสดงโชว์ตามสถานที่ต่างๆ เยอะมาก ได้รับรางวัลทั้งจากของกรมพละศึกษาเกี่ยวกับเรื่องนันทนาการดีเด่นระดับภาคมาแล้ว อย่างเรื่อง "สุดสาครกับม้านิลมังกร" ที่สัมผัสจากนิ้วมือผ่านสายเชือกโยงไปยังตัวละคร ทำท่าทางให้เหมือนมีชีวิต ประกอบกับบทภาคที่ใช้คนแสดงหลายคน
ปัจจุบัน "ยี่สาร" กลายเป็นชุมชนที่มีเอกลักษณ์หลากหลายที่น่าเรียนรู้ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) จึงจัดกิจกรรม Sook ตะลอนทัวร์ พาเที่ยว ใช้ชื่อตอนว่า "ยี่สารเมืองสามน้ำ" กิจกรรมที่จัดใช้รูปแบบท่องเที่ยว เที่ยวชุมชนวัดเขายี่สาร อำเภออัมพวา จังหวัดสมุทรสงคราม เพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตและชุมชน
นายนครินทร์ ภระมรทัต นักวิชาการศูนย์เรียนรู้สุขภาวะ สสส. เปิดเผยว่า การจัดกิจกรรมเช่นนี้ ทำให้ประชาชน ทั้งเด็ก เยาวชน ผู้สูงอายุ มีโอกาสออกมาใช้ชีวิตสังคมในโลกภายนอก ทำให้ออกจากบ้านไปใช้ชีวิตร่วมกัน ผ่านรูปแบบการท่องเที่ยว เป็นการท่องเที่ยวที่มีสาระ และกำลังรอให้ทุกคนไปยล
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน