ทำความรู้จักการหาว อย่างลึกซึ้ง

ที่มา : SOOK Magazine No.65


ภาพประกอบจากแฟ้มภาพ


ทำความรู้จักการหาว อย่างลึกซึ้ง thaihealthอาการหาวเป็นอาการที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่บางครั้งการหาวก็สามารถบอกถึงอาการผิดปกติของร่างกายได้เช่นกัน เราลองมาทำความรู้จักอาการหาวกันดูดีกว่า


การหาวคืออะไร


การหาวเป็นกลไกของร่างกายไล่คาร์บอนไดออกไซด์ที่มากเกินไปในเลือดผ่านลมหายใจและรับเอาออกซิเจนเพิ่ม เพื่อรักษาสมดุลของร่างกาย ความผิดปกติที่ทำให้มีคาร์บอนไดออกไซด์มากเกินไป มีได้ในหลาย รูปแบบตั้งแต่เล็กน้อย พบบ่อย ๆ ไปจนถึงมีความรุนแรงแต่ก็พบได้ไม่บ่อย บางสาเหตุพบได้น้อยมาก ๆ


วิธีสังเกตอาการหาว


การหาวเป็นกลไกขับคาร์บอนไดออกไซด์ส่วนเกิน การอยู่ในสถานที่ที่ อากาศไม่ถ่ายเท สภาวะแวดล้อม ความอ่อนเพลียและเหนื่อยล้าจาก การทำงาน มีส่วนทำให้เกิดการหาวได้ หาวบ่อย ๆ ต้องคอยสังเกตตัวเอง นอกจากปัญหาสุขภาพ ยังส่งผลต่อบุคลิกภาพของเราด้วย ควรขยับ ร่างกายบ่อย ๆ เลือกและปรับสภาวะแวดล้อมให้อากาศปลอดโปร่ง พักผ่อนให้เพียงพอ และออกกำลังกายสม่ำเสมอ


สาเหตุที่พบได้บ่อย


การพักผ่อนไม่เพียงพอ อาจเกิดจากนอนน้อย นอนไม่หลับ นอนกรน ภาวะอ้วน น้ำหนักเกิน มักจะมีความไม่คล่องตัว เคลื่อนไหวช้าหรือน้อยกว่าปกติ ส่วนสาเหตุที่ค่อนข้างรุนแรงแต่พบได้น้อย เช่น โรคลมชัก ทว่าการวินิจฉัยค่อนข้างซับซ้อน และอาการหาวเป็นเพียงอาการหนึ่งที่พบได้ในโรคนี้ มาถึงสาเหตุที่รุนแรงแต่ไม่ค่อยพบเจอ เช่น เนื้องอกในสมอง โรคปลอกประสาทอักเสบบางชนิด อาการตับวายขั้นรุนแรง และกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน ซึ่งจะมีอาการอื่น ๆ ของโรคหัวใจร่วมด้วย


การหาวอาจใกล้เคียงกับอาการปวดศีรษะที่พบเจอบ่อย ซึ่งมีโรคไม่ร้ายแรงที่พบได้มาก แต่ก็อาจมีโรคร้ายซ่อนอยู่ แตกต่างกันที่โรคร้ายของการหาวบ่อยจนผิดปกตินั้นมีน้อยมากหรือไม่น่ากังวลนัก


การตรวจวินิจฉัยอาการปอดปกติที่เกี่ยวข้องกับการหาว


  1. Sleep test
  2. ตรวจคลื่นสมอง EEG
  3. การตรวจเลือด เช่น เบาหวานโลหิตจางไทรอยด์ โรคตับ เป็นต้น
  4. MRI


ข้อแนะนำในการแก้อาการหาวบ่อย


เพราะการแก้ไข ต้องเริ่มจากต้นเหตุ ไม่ใช่ปลายเหตุ ซึ่งมีหลักการง่ายๆ ดังนี้


  1. นอนพักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้รับออกซิเจนอย่างเพียงพอ
  2. กำจัดอุปสรรคของการนอนไม่พอ เช่น แสง สี เสียง เป็นต้น
  3. ระวังเรื่องการรับประทานอาหาร เพราะโรคอ้วนก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการหาวบ่อยๆ ได้เช่นกัน
  4. ดื่มน้ำเปล่าเพื่อเพิ่มออกซิเจนให้กับเลือด และเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกาย
  5. มีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
  6. หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่จำเป็น
  7. ลดการดื่มชา กาแฟ และ แอลกอฮอล์ให้น้อยลง
  8. เปลี่ยนบรรยากาศให้กับตัวเอง ออกไปรับอากาศบริสุทธิ์ในบริเวณที่อากาศถ่ายเทได้ดี


อย่ามองข้ามอาการผิดปกติเล็ก ๆ น้อย ๆ ของร่างกาย เพราะร่ายการอาจจะกำลังส่งสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพกับคุณอยู่ก็ได้

Shares:
QR Code :
QR Code