ถอดบทเรียนกระตุ้นไตรพลัง สร้างชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่
ที่มา : หนังสือพิมพ์ไทยโพสต์
แฟ้มภาพ
สสส.นำถอดบทเรียนกระตุ้นไตรพลัง ร่วมมือเพื่อชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ สู่มหาวิชชาลัยเส้นทางปัญญา
ภาพการรวมพลังตั้งปณิธานปฏิบัติภารกิจเพื่อท้องถิ่น สสส.จุดประกายทำงานร่วมกัน ชุมชน อปท.เครือข่ายท้องถิ่น-เครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏ สถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น 10 แห่ง ใช้การสื่อสารขับเคลื่อนงานวิจัยและพัฒนาชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ ถอดบทเรียนใช้ข้อมูลให้เกิดประโยชน์สู่จัดการตนเองให้ผลสัมฤทธิ์ ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา ปัจจัยความสำเร็จในการทำงานเกิดจากการใฝ่รู้ใฝ่เรียนร่วมกับชุมชน ร่วมคิดร่วมทำ แก้ปัญหาอย่างมีพลัง ธวัชชัย ฟักอังกูร ชี้ไตรพลัง ร่วมสร้างสุขภาวะ พลังความรู้สร้างเครือข่าย 2,000 แห่ง ศ.นพ.ประเวศ วะสี ปลุกพลังสร้างโลกที่เรารอคอย สสส.นำทางสู่มหาวิชชาลัยบนเส้นทางแห่งปัญญา ร่วมคิดร่วมทำ สร้างสังคมชุมชนที่เป็นธรรม บรรลุนิพพานสงบเย็นทางสังคม ฝ่าความยากลำบากจากการทำงานสู่ความสำเร็จ ดอกกล้วยไม้แคทลียาสีม่วง กล้วยไม้แวนด้าสกุลฟ้ามุ่ยสีน้ำเงินเข้ม เป็นวงล้อมกุหลาบสีขาวสองดอกประดับแจกันอยู่บนโพเดียม สื่อความหมายถึง "ปัญญา"
ณ ห้องประชุม GH ๒๐๑-๒๐๒ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนาในงานกิจกรรมรวมพลังเครือข่ายความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนงานวิจัยและพัฒนาชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ เพื่อร่วมกันแสดงความอาลัยแด่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช นำโดย ผศ.ดร.เรืองเดช วงศ์หล้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ ทั้งนี้ อ.แสนประเสริฐ ปานเทียม อ.พัชรินทร์ สุริยวงศ์ อาจารย์มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี ทำหน้าที่พิธีกรการประชุมเชิงปฏิบัติการ เพื่อการจัดการข้อมูลสู่การวิจัยและพัฒนาชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่ และพิธีลงนามความร่วมมือระหว่าง สสส. สถาบันวิชาการ และ อปท.คู่ความร่วมมือผศ.ดร.เรืองเดช วงศ์หล้า อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ กล่าวว่า ด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณหาที่สุดมิได้ ข้าพระพุทธเจ้า พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร สสส. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ข้าราชการมหาวิทยาลัย ชุมชนท้องถิ่น ต่างรู้สึกอาดูรต่อการเสด็จสวรรคตของ พระเจ้าอยู่หัว นับเป็นความเศร้าปกคลุมชาวไทยทุกคน นับตั้งแต่พระองค์ทรงขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ 9 มิ.ย.2489 ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจ การพัฒนาชุมชนเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติสมดังพระปฐมบรมราชโองการ เราจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนสยาม ตลอด 70 ปีที่ทรงครองราชย์ทรงเป็นมิ่งขวัญและศูนย์รวมของปวงชนชาวไทย ปวงข้าพระพุทธเจ้าขอตั้งจิตอธิษฐานน้อมนำแนวพระบรมราโชวาทเป็นเครื่องยึดเหนี่ยว พัฒนาชุมชนให้เกิดความเข้มแข็งเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ขอให้ทุกคนยืนแสดงความอาลัยเป็นเวลา 89 วินาที
กิจกรรมครั้งนี้เพื่อเสริมสมรรถนะนักวิจัยเชิงพื้นที่ในการจัดการข้อมูลสู่การวิจัยและพัฒนาชุมชนโดยใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง เพื่อลงนามความร่วมมือการขับเคลื่อนงานวิจัยและพัฒนาชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่โดยใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง เพื่อให้เกิดเครือข่ายความร่วมมือการขับเคลื่อนงานวิจัยและพัฒนาชุมชนท้องถิ่นน่าอยู่โดยใช้พื้นที่เป็นตัวตั้ง 1.คู่ความร่วมมือ ศจค.เจดีย์ชัย จ.น่าน ศจค.บัวใหญ่ จ.น่าน-มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์, 2.ศจค.คลองน้ำไหล จ.กำแพงเพชร ศจค.สมอแข จ.พิษณุโลก-มหาวิทยาลัยราชภัฏพิษณุโลก 3.ศจค.ศรีณรงค์ จ.บุรีรัมย์ ศจค.บ้านยาง จ.สุรินทร์-มหาวิทยาลัยราชภัฏบุรีรัมย์ 4.ศจค.นครปฐมผาสุก จ.นครปฐม ศจค.หนองพลับ จ.ประจวบคีรีขันธ์-มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม 5.ศจค.ขุนทะเล จ.นครศรีธรรมราช ศจค.บ่อแสน จ.พังงา-มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี 6.ทต.แม่แรง จ.ลำพูน ทต.ล้อมแรด จ.ลำปาง-มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง 7.ศจค.คลองน้ำไหล จ.กำแพงเพชร ศจค.สมอแซ จ.พิษณุโลก-มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม 8.อบต.หนองกงสวรรค์ ศวภ.อีสาน-มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม 9.มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ 10.อบต.บ้านหม้อ จ.เพชรบุรี อบต.บ้านนายดง จ.เพชรบุรีมหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี
ธวัชชัย ฟักอังกูร ประธานกรรมการบริหารแผน คณะที่ 3 สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) กล่าวถึงเป้าหมายการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ "ไตรพลัง:สสส.-สถาบันวิชาการ-อปท.เครือข่าย เพื่อร่วมสร้างสุขภาวะ" ประชุมร่วมกัน 3 วันเพื่อจะทำงานสำคัญร่วมกัน 2 ปีครึ่ง กำเนิดของ สสส.และมหาวิทยาลัยราชภัฏเริ่มต้นคล้ายๆ กัน กองทุน สสส.เกิดขึ้นโดย พ.ร.บ.กองทุนส่งเสริมการสร้างเสริมสุขภาพกำเนิดปี 2544 มหาวิทยาลัยราชภัฏกำเนิดขึ้น พ.ศ.2547 บทบาทหน้าที่ของไตรพลัง วัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง สสส.มี 6 ข้อ ทั้งนี้ 3 ข้อพูดถึงบุหรี่ สุรา สารเสพติดที่พึงขจัดออกไป อุบัติภัย อีกทั้งยังทำหน้าที่ส่งเสริมสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพของบุคคลทุกวัย ส่งเสริมสุขภาพโดยชุมชน พัฒนาชุมชนเข้มแข็งและดูแลตัวเอง สสส.มีหน้าที่สนับสนุนคนอื่นให้มีพลังในการทำงาน ไม่ต้องลงมือทำเอง ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคน สิ่งแวดล้อม สภาพสังคมรอบๆ ตัว บุคคลให้เอื้ออำนวย บุคคลในชุมชนมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืน มีคุณภาพชีวิตที่ดี เราทำงานภายใต้กรอบแผนสุขภาพชุมชน ไตรพลังเป็นการทำงานร่วมกันเป็นรุ่นที่ 2 ในพื้นที่ 5 แห่ง รุ่นแรก 5 แห่ง รวมกันเป็น 10 แห่ง ศูนย์จัดการเครือข่าย 2 องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภายใต้การประสานงานของมหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์ เป็นมหาวิทยาลัยแนวหน้าทำงานกับภาคีเครือข่ายชุมชนน่าอยู่
วันนี้เป็นเรื่องดีที่เห็นภาพพลังทำให้ชุมชนท้องถิ่นสามารถพึ่งพาตนเอง ค้นหาพลังในตัวเอง ศักยภาพนำพลังออกไปจัดการแก้ไขปัญหาสังคม อดีตที่ผ่านมา สสส.ทำงานกับเครือข่ายชุมชน เมื่อชุมชนเข้มแข็งพึ่งพาจัดการตนเอง ผู้บริหารท้องถิ่นมีประสบการณ์ มีเครือข่าย 2,000 แห่งเป็นแม่ข่ายเกือบ 100 แห่ง พลังที่เพิ่มขึ้น มหาวิทยาลัยราชภัฏเข้ามาช่วยเติมพลังทางวิชาการที่ชุมชนคิดไม่ถึง คิดแต่ว่าตัวเองไม่มีทุนหรือศักยภาพความรู้ ประเทศอื่นที่มีสิ่งเหล่านี้ มหาวิทยาลัยราชภัฏเรานำพลังความรู้ที่มหาวิทยาลัยมีและความรู้จากประสบการณ์ทำงานปฏิบัติการจริงของชุมชน และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีความมุ่งมั่น พลังความคิดที่มีค่าในการแก้ไขปัญหาจะเป็นพลังที่ยิ่งใหญ่ จัดการคุณภาพชีวิตท้องถิ่นให้เหมาะสมกับภาระหน้าที่ของมหาวิทยาลัยราชภัฏให้สมประโยชน์ การทำงานไม่เหมือนการพูด งานกว่าจะสำเร็จได้นั้นอยู่ที่ความเข้าใจซึ่งกันและกัน เป็นการทำความตกลงกันโดยความสมัครใจ ใจที่จะเข้ามาทำงานต้องเท่าเทียมกัน ยินยอมพร้อมใจว่าเราทำเพื่อวัตถุประสงค์เป้าหมายเดียวกัน ไม่ใช่การถูกร้องขอ ถ้ามีความคิดเห็นที่แตกต่างกันต้องมีการปรับระบบเข้าหากัน สสส.ต้องจัดการให้ทุกอย่างเดินหน้าไปด้วยดี
ผมหวังจะได้กระบวนการทำงานร่วมกัน ไม่ต้องคิดว่าเรื่องนี้ยาก แต่ให้คิดว่าเรื่องนี้ง่าย นำวิชาการร่วมกันผลักดันให้ประสบความสำเร็จระหว่างมหาวิทยาลัย องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ค้นหากระบวนการทำงานให้ประสบความสำเร็จ ถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร มีตัวอย่างของการนำรุ่นแรกมาแสดงตัว แสดงผลงาน ชีวิตราบรื่นเป็นอย่างไรบ้าง เมื่อผ่านเรื่องง่ายแล้วก็ทำงานที่ซับซ้อนได้มากขึ้น สสส.กระตุ้นให้มีการทำงานจับคู่กัน เมื่อทำงานสำเร็จก็มีหน้าที่ไปกระตุ้นหน่วยงานอื่นต่อไป การทำงานในช่วงแรกอย่าไปหวังผลเลิศ ให้ดูวิธีการทำงานอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ เป็นข้อคิดในการทำงานร่วมกัน
ศาสตราจารย์นายแพทย์ประเวศ วะสี ราชบัณฑิต กรรมการสภามหาวิทยาลัยมหิดล นักวิชาการสาธารณสุข นักการศึกษา สนับสนุนงานด้านวิจัยต่างๆ ปาฐกถาพิเศษ "ปฏิบัติการสามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขาสู่ความเข้มแข็งของประเทศ" เมื่อ สสส. เครือข่ายมหาวิทยาลัยราชภัฏ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมมือเป็นไตรพลัง เกิดพลังพัฒนาอย่างมหาศาล ทำงานอะไรก็สำเร็จ สิ่งที่เคยเป็นไปไม่ได้ก็เป็นไปได้ด้วยพลัง คนส่วนใหญ่สังเกตได้มีการปฏิวัติเงียบ (Silent Revolution) บนผืนแผ่นดินไทย ขณะนี้ทั่วโลกประสบวิกฤติเศรษฐกิจ สังคม ความรุนแรง หายนภัยต่างๆ ในสหรัฐ หลังเลือกตั้งโดนัลด์ ทรัมป์ ยุโรปวิกฤติซ้ำแล้วซ้ำอีก ไม่ดีขึ้น เนื้อหาสำคัญไปไม่ถึงเพราะปัญหาการคิดแยกส่วนจะนำไปสู่วิกฤติยิ่งขึ้นไปอีก เราต้องใช้การอยู่ร่วมกันเป็นตัวตั้ง เอา GDP การค้าเสรีลัทธิอุดมการณ์เป็นตัวตั้ง จุดสำคัญของมนุษย์คือการอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลสิ่งสูงสุดของความเป็นมนุษย์ การพัฒนาอย่างสมดุลในประเทศไทย ใช้ภูมิปัญญาในการพัฒนาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดช แต่เราชอบใช้อย่างอื่นเป็นตัวตั้ง ร่างกายต้องเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว ถ้าปล่อยให้เซลล์เติบโตแบบแยกส่วนออกไปกลายเป็นเซลล์มะเร็ง ตับไตเสียสมดุล ในอารยธรรมตะวันตกเมื่อมีการคิดแบบแยกส่วนนำไปสู่วิกฤติเสมอ โลกตะวันตกพัฒนาเทคโนโลยีเก่งอย่างไรก็ต้องเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์ ถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยต้องคิดและทำแบบบูรณาการสู่ดุลยภาพ สู่การอยู่ร่วมกันอย่างสมดุลเป็นสิ่งสูงสุดของความเป็นมนุษย์ คนกับคน คนกับสิ่งแวดล้อม การพัฒนาอย่างสมดุล
เมืองไทยมีภูมิปัญญาในการพัฒนาสูงสุดของโลก เป็นทุนยิ่งใหญ่ที่สุด นำไปใช้เป็นสามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขา เขยื้อนการพัฒนาอย่างสมดุลเต็มประเทศ ไม่ใช่เที่ยววิ่งไปขอทุนจากต่างประเทศตามกระแสโลก เรามีภูมิปัญญา ภูมิพลัง ปัญญาแผ่นดินสูงสุดในประเทศไทย เราประชุม Capitalism ให้เข้มแข็ง สามเหลี่ยมเขยื้อนภูเขาได้ไม่ยากในเมื่อเรามีทุนเดิมอยู่แล้ว นำความรู้ที่เกี่ยวข้อง มีความเคลื่อนไหวทางสังคม ใช้อำนาจรัฐมาเชื่อมโยง ความรู้และสังคมอย่างเดียวไม่เพียงพอ มีอำนาจเท่าไหร่ก็ทำไม่ได้ ต้องเชื่อมโยง 3 อย่างเข้าด้วยกัน ความเคลื่อนไหวจากสังคม ชุมชนเข้มแข็ง อบต.เป็นองค์รวมของภาครัฐ กรมต่างๆ เป็นของรัฐ พอช.ส่งเสริมความเข้มแข็งของชุมชน สสส.ทำงานส่งเสริมเครื่องมือของ 3 ฝ่าย เป็นพลังมหาศาล เขยื้อนเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่าย การเขยื้อนภูเขาต้องมีมือที่จะทำงานต้องใช้ใจนำ อย่าใช้ความรู้นำ ถ้าใช้ความรู้นำจะเกิดความกลัว ความเครียด แต่ถ้าใจนำ ทุกคนล้วนมีหัวใจเพื่อเพื่อนมนุษย์ ถ้าเราทำจากสิ่งที่เรามีในเริ่มแรกเราจะไม่รู้สึกหวาดกลัว สิ่งเหล่านี้เรียนรู้ได้ ให้เกิดความรู้สึกว่าอยากทำเพื่อเพื่อนมนุษย์ เครื่องมือคือการเรียนรู้ร่วมกัน ฝ่าความยากลำบากไปด้วยกันได้ ไม่จำเป็นจะต้องเก่งมาก มีเท่าไหร่ก็เท่านั้น
งานบางอย่างนักนิติศาสตร์ นักเศรษฐศาสตร์แก้ไขบางปัญหาไม่ได้เพราะความสลับซับซ้อน ต้องทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ ชาวอังกฤษที่ชื่อโรเบิร์ต แชมเบอร์ วิจัยการพัฒนา ใช้วิชาความรู้เป็นอดีตเจาะเข้าไปแก้ไขปัญหาไม่สำเร็จ ต้องใช้การเรียนรู้ร่วมกันเป็นกระบวนทัศน์ใหม่ในการพัฒนา เราไม่ต้องเก่งแต่ใช้วิชาการเรียนรู้ การเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน 8 ประการ เกิดการเคารพในศักดิ์ศรี คนทุกคนมีความสำคัญเท่าเทียมกันทั้งหมด เราต้องเคารพศักดิ์ศรีในความเป็นตัวบุคคล ปกติเราเคารพคนที่มีความรู้ในตำรา บางคนมีเกียรติและบางคนไม่มีเกียรติ บางคนมีความรู้ด้วยประสบการณ์จากการปฏิบัติ ประสบการณ์ชีวิต ช่างเสริมสวย ช่างผสมปูนมีความรู้ที่ดีมีคุณค่า ทุกคนและทุกอาชีพล้วนแล้วแต่มีเกียรติมีศักดิ์ศรีในสังคม การทำงานร่วมกันให้ประสบความสำเร็จต้องมีการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน ความรู้ในตำราที่มีคุณค่าเป็นมายาคติทำให้เราอ่อนแอ ต้องใช้ความเอื้ออาทรและจริงใจต่อกัน ถ้าสังคมเจริญในทางดิ่ง เป็นการใช้อำนาจ คนจะไม่มีความเอื้ออาทรต่อกัน ขาดความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกัน จะซ่อนข้อมูล นินทาว่าร้ายต่อกัน ออกใบปลิวโจมตีกัน แต่ถ้าเราเรียนรู้ร่วมกัน ทุกคนจะมีความสุข มีความไว้เนื้อเชื่อใจต่อกัน เป็นการเปลี่ยนแปลงขั้นพื้นฐาน มิฉะนั้นก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงได้ ในมหาวิทยาลัยจะต้องเป็นการทำงานร่วมกันอย่างมีความสุข ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง มีความสามัคคีเป็นพลังทางสังคม เคารพในศักดิ์ศรีความเป็นคนที่เท่าเทียมกัน
การใช้ปัญญาร่วมกันเพื่อเรียนรู้ร่วมกันในการปฏิบัติ เกิดนวัตกรรม เมื่อคนมีความรู้ช่วยกันทำงานย่อมเกิดนวัตกรรมเสมอ เป็นอัจฉริยภาพกลุ่ม Genius เมื่อคนเก่งทำงานร่วมกันกลายเป็นคนเก่งเกิดปัญญาฝ่าฟันความยากลำบากนำไปสู่ความสำเร็จ ถ้าใช้อำนาจจะไม่สำเร็จ แม้จะมีอำนาจมากมายก็ตาม ทุกคนเริ่มต้นจากศูนย์กว่าจะก้าวไปสู่นิพพาน เราต้องร่วมกันคิดร่วมกันทำให้เกิดความสุข เราจะก้าวไปสู่โลกที่เรารอคอย โลกที่เกิดจากการรวมตัวกันร่วมกันคิดร่วมกันทำ ใครอยากนิพพานก็ต้องไปปฏิบัติธรรม แต่การปฏิบัติธรรมนั้นก็มีข้อจำกัดเนื่องจากเรายังต้องทำงาน ดังนั้นทุกคนสามารถทำงานและสร้างสังคมที่เป็นธรรมบรรลุนิพพานทางสังคมได้ นิพพานคือความสงบเย็น ถ้าเราทำงานโดยใช้เครื่องมือเรียนรู้ในการปฏิบัติ เมื่อสร้างความสุขให้กับทุกคนฝ่าความยากลำบากไปสู่ความสำเร็จได้
เรื่องของวงจรความรู้แบบเดิมๆ อยู่ในสุญญากาศนภากาศ วงจรความรู้ใหม่คือวงจรดินสู่ฟ้า ฟ้าสู่ดิน ดินก็มีชีวิตจริงมีการปฏิบัติจริง นำมาวิเคราะห์สังเคราะห์เป็นปัญญาที่สูงขึ้น การปฏิบัติ ทฤษฎีก็จะดีขึ้น การเปลี่ยนแปลงวงจรความรู้ใหม่ แต่เดิมนั้นการศึกษาของไทยอยู่นอกสังคม ใช้วิชาเป็นตัวตั้ง ไม่ได้รู้ร้อนรู้หนาวไม่ร่วมทุกข์ไม่ร่วมสุข วงจรลอยอยู่ในนภากาศ เรามีมหาวิทยาลัยอยู่เยอะลอยอยู่ในสุญญากาศ เราต้องร่วมมือกับองค์กรส่วนท้องถิ่นเปลี่ยนแปลงจากดินสู่ฟ้า จากฟ้าสู่ดิน เป็นปัญญาที่สูงขึ้น เป็นการศึกษาเข้ามาอยู่ในสังคม รู้ร้อนรู้หนาวรู้ทุกข์รู้สุขรู้แก้ไขปัญหา สสส.เดินทางร่วมกันไปสู่มหาวิชชาลัย คือเส้นทางสู่ความรู้ที่ยิ่งใหญ่ วิชชาคือปัญญา ใหญ่กว่าความรู้ วิทยาคือความรู้ พระเจ้าอยู่หัวทรงใช้มหาวิชชาลัยในพระราชนิพนธ์เรื่องพระมหาชนก ความไม่รู้นำไปสู่ความทุกข์ พระองค์ทรงทำให้มหาวิชชาลัยในพระมหาชนก ทรงคิดว่ามหาวิทยาลัยไม่เพียงพอแล้ว มหาวิทยาลัยมีอยู่ทั่วโลกและวิกฤติ ถ้าไม่สามารถแก้ไขวิกฤติต้องใช้วิชชา สสส.และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัยในการสร้างสุข พัฒนาอย่างสมดุล
ในการปฏิรูปการศึกษา มหาวิทยาลัยตำบลปฏิบัติจริง โรงเรียนเชื่อมโยงเป็นฐานปฏิรูปการศึกษา มีมหาวิทยาลัยตำบล 100 ตำบล เป็นมหาวิทยาลัยวิชชาลัย เป็นมหาวิทยาลัยจังหวัด เป็นมหาวิทยาลัยวิชชาลัยประเทศไทย เป็นฐานปฏิบัติจริงในชีวิตจริงได้ ภูมิปัญญาสูงสุดในการพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏกระจายอยู่ทั่วทั้งประเทศ เป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น ขณะนี้ประธานอธิการบดีก็นั่งอยู่ในห้องประชุมแห่งนี้ สถาบันราชภัฏ 38 แห่ง ประชุมร่วมกับ อบต. สสส. เป็นพลังแผ่นดิน เป็นภูมิปัญญา พระนามภูมิพลมีความหมายถึงพลังแห่งแผ่นดิน ราชภัฏของพระเจ้าอยู่หัวที่จะสนองเพื่อการพัฒนาอย่างบูรณาการ สมดุล เพื่อมหาสุขแห่งมหาชนชาวสยาม ตามพระปฐมบรมราชโองการที่พระองค์จะทรงครองแผ่นดินโดยธรรม โลกนี้ยังวิกฤติอยู่ เราคนไทยต้องใช้พลังอันยิ่งใหญ่มาสร้างประเทศไทยให้มีความสมดุลและน่าอยู่ที่สุดในโลก ช่วยกันสร้างสามเหลี่ยมแห่งความรู้ ความเคลื่อนไหวทางสังคม อำนาจเชื่อมโยงกันเป็นพลังอย่างมหาศาลในการร่วมมือกัน เพื่อความสำเร็จของชุมชนท้องถิ่นด้วยภูมิปัญญาพัฒนาประเทศสู่การพัฒนาในอนาคตดัวย