ต้นแบบต่อยอดการเรียนรู้ “สุขภาวะ” เยาวชน

ต้นแบบต่อยอดการเรียนรู้ “สุขภาวะ” เยาวชน thaihealth


สสค. และ สสส. จับมือ ‘มูลนิธิร่มฉัตร’ จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ 46 โครงการต้นแบบต่อยอดนวัตกรรมสร้างสรรค์การเรียนรู้พัฒนา “สุขภาวะ” เยาวชน


สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน(สสค.) และ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับ “มูลนิธิร่มฉัตร” จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ “โครงการต่อยอดการพัฒนานวัตกรรมสร้างสรรค์การเรียนรู้เพื่อสุขภาวะเด็กและเยาวชน ครั้งที่ 2” นำสุดยอดนวัตกรรมการเสริมสร้างและป้องกันพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาวะ จาก 46 โรงเรียนต้นแบบ มาร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์และองค์ความรู้ เพื่อขยายผลยกระดับการเรียนรู้และพัฒนาสุขภาวะเด็กและเยาวชนไทย ณ โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพฯ


นพ.สุภกร บัวสาย ผู้จัดการ สสค. กล่าวว่า เป็นโครงการที่ต่อเนื่องมาจาก โครงการส่งเสริมนวัตกรรมสร้างสรรค์การเรียนรู้ระดับประถมศึกษาครั้งที่ 1 ในปี 2554-2555 ที่ทาง สสค. ได้เปิดโอกาสให้โรงเรียนจากทุกสังกัดเสนอโครงการที่จะพัฒนาเด็กและเยาวชนใน 3 ประเด็นคือ การพัฒนาสมรรถนะการอ่าน ความสนุกกับการเรียนรู้ และการสร้างเสริมคุณลักษณะที่ดีงาม โดยมี 475 โครงการ ครอบคลุม 967 โรงเรียน ในพื้นที่มากกว่า 77 จังหวัด


“โครงการต่อยอดนวัตกรรมสร้างสรรค์การเรียนรู้เพื่อสุขภาวะเด็กและเยาวชน ได้รับความกรุณาจาก สสส. ในการสนับสนุนโรงเรียนที่มีผลงานยอดเยี่ยมจำนวน 46 โรงเรียน โดยเชิญชวนให้ทางโรงเรียนคิดต่อยอดจากการทำงานเดิมเพื่อขยายผลไปสู่การพัฒนาสุขภาวะเด็กและเยาวชนใน 2 ประเด็นหลักคือ การเสริมสร้างสุขภาวะแก่ผู้เรียนทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สังคม และสิ่งแวดล้อม และการป้องกันและลดพฤติกรรมเสี่ยงทางสุขภาวะ ซึ่งการจัดเวทีในครั้งนี้ก็เพื่อเชิญชวนทั้ง 46 โรงเรียนที่ได้ดำเนินงานมาจนเสร็จสิ้นโครงการได้มาแลกเปลี่ยนประสบการณ์ซึ่งกันและกัน เกิดการเรียนรู้ข้ามประสบการณ์ทั้งในโรงเรียนที่มีบริบทเหมือนหรือแตกต่างกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อการพัฒนาเด็กและเยาวชนไทยให้มากที่สุด”


พล.อ.สุทัศน์ กาญจนานนท์กุล ที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวในระหว่างพิธีเปิดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในครั้งนี้ว่า ผลงานของทั้ง 46 โรงเรียนที่นำมาแลกเปลี่ยนซึ่งกันและกันในวันนี้จะเป็นกรณีตัวอย่างของการคิดค้นนวัตกรรมที่ต่อยอดจากการพัฒนาสมรรถนะการอ่าน ความสนุกกับการเรียนรู้ และการส่งเสริมคุณลักษณะที่ดีงามไปสู่การสร้างสุขภาวะที่ดี ซึ่งมีความสำคัญต่อชีวิตของเด็กและเยาวชน และอนาคตของประเทศชาติ


“การจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพนั้น จำเป็นที่จะต้องมีการคิดนวัตกรรมที่จะช่วยให้เด็กและเยาวชนเกิดการเรียนรู้ และเกิดการพัฒนาในทุกๆ ด้าน ซึ่งต้องอาศัยความตั้งใจจริงและจิตวิญญาณในการทำงานเพื่อเด็กและเยาวชนอย่างแท้จริง ซึ่งผลงานต่างๆ จากทั้ง 46 โรงเรียนที่เกิดขึ้นมานั้นมีข้อดีคือเป็นโครงการที่เกิดขึ้นมาจากความต้องในการแก้ปัญหาและพัฒนาที่สอดคล้องกับบริบทโรงเรียน มีการสนับสนุนติดตามอย่างเป็นระบบและมีคุณภาพ ทำให้เกิดผลผลิตหรือนวัตกรรมที่มีผลลัพธ์ที่ดีต่อตัวผู้เรียน และที่สำคัญยังได้มีการพัฒนาต่อยอดจากห้องเรียนออกไปสู่ครอบครัวและชุมชนอีกด้วย ซึ่งจะช่วยสร้างเด็กและเยาวชนไทยที่เป็นอนาคตของประเทศ ให้เป็นคนที่มีคุณภาพและมีสุขภาพที่ดี”


ต้นแบบต่อยอดการเรียนรู้ “สุขภาวะ” เยาวชน thaihealthกำลังใจไม่ได้อยู่ที่เงิน แต่มันอยู่ที่มีองค์การที่เห็นความสำคัญของโรงเรียน ทุกให้ครูทุกคนที่มามีความตั้งใจ โรงเรียนทุกโรงเรียนที่ได้งบนั้น รับพันเราทำหมื่น หมื่นทำแสน แสนทำล้าน แม่เราจะไม่ได้รับงบประมาณแล้ว แต่เชื่อว่าหนึ่งปีที่ทำงานร่วมกันกลายเป็นครอบครัวแล้ว ต่อให้มีเงินสักบาท แต่ครูมีจิตวิญญาณความเป็นครูจะไม่ปล่อยให้เด็กนักเรียนอดอยากหรือไม่ได้รับการพัฒนาการเรียนรู้อย่างแน่นอน มันเกิดเป็นองค์ความรู้ที่ตกผลึกแล้ว จะไม่มีวันสูญสลาย


การทำงานผ่านโรงเรียนมีจุดเน้น 2 เรื่อง 1.สนับสนุนโรงเรียนผ่านประเด็นต่างๆ เช่น งดละเลิกเหล้า ประเด็นสุขภาพ อาหาร และการออกกำลังกาย เป็นทั้งชุดโครงการฯ เป็นการสนับสนุนเชิงประเด็นใดประเด็นหนึ่งร่วมกับโรงเรียน บางโรงเรียนก็จะเข้าไปร่วมกับแผนการเรียนการสอนในหลักสูตร อีกส่วนหนึ่งคือ การพัฒนาระบบโรงเรียน ซึ่งเป็นการพูดถึงโครงสร้างในระบบ เช่น การจะพัฒนาการเรียนการสอนสุขภาพให้ยั่งยืนได้อย่างไร ก็ต้องมีการทำงานเข้าไปในระบบและหลักสูตร ต้องมีการร่วมงานกับหลายภาคส่วน เพื่อให้เกิดความยั่งยืน และ 2.ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน


อาตมาทำเรื่องการศึกษามา 14 ปี ถือเป็นหัวใจของชาติและของโลก และถึงเรื่องสิ่งสำคัญยิ่งใหญ่ ที่จะสร้างเพชรเม็ดงามให้งามได้ก็อยู่ที่คุณครูทุกท่าน ในการสร้างทรัยากรของชาติ ลีกวนยู ประธานาธิปตีของประเทศสิงคโปร์ใช้การศึกษาในการสร้างชาติให้กลายเป็นประเทศแนวหน้าของโลก ท่านทั้งหลายต้องสร้างเยาวชนในระดับประถมศึกษาให้มีใจรักในการเรียน ต้องสร้างคุณธรรมให้เด็กมีจิตใจที่สูงเพื่อไปสู่การศึกษาให้สูงให้ได้ หรือประเทศเกาหลี ก็ใช้การศึกษามาพัฒนาเทคโนโลยี หรือญี่ปุ่นก็ใช้การศึกษาสร้างระเบียบวินัยให้คนทั้งประเทศ เพราะมีการสอนตั้งแต่อนุบาล ฉะนั้นท่านทั้งหลายแม้ทำดีแล้ว แต่ไม่ควรนิ่งนอนใจ ไม่ได้ครับท่าน นี่คือข้อบกพร่องของคนไทย ที่มักนิ่งอยู่กับที่ ต้องทำให้เป็นนิสัยว่า ต่อไปเราต้องทนไม่ได้ต่อการนิ่งเฉย เช่นในประเทศจีน


 


 


ที่มา : สำนักงานส่งเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้และคุณภาพเยาวชน(สสค.)

Shares:
QR Code :
QR Code