ติดสัญญาณไฟซองขนม กินอย่างรู้ทัน

“พฤติกรรมการไม่ออกกำลังกายนั่งดูแต่ทีวี เล่นเกมคอมพิวเตอร์ทั้งวันกินแต่น้ำหวาน น้ำอัดลม ขนมกรุบกรอบ” ต้นเหตุที่ทำให้เด็กไทยวันนี้อ้วนฉุ

เห็นชัดว่าส่วนใหญ่มาจากพฤติกรรมการบริโภคของเด็กและเยาวชนไทยที่ไม่เหมาะสม!!!

ผลการสำรวจภาวะโภชนาการของเด็กไทยในวัยเรียน จากสถาบันโภชนาการ ม.มหิดล ล่าสุดปี 2552 พบว่า ภาพรวมเด็กช่วงชั้นอนุบาลและประถมฯ อายุ 0-5 ปี มีภาวะอ้วน 4.0%อายุ 6-14 ปี 9.5%  อายุ 15-18 ปี 17.7% สอดคล้องกับอีกหนึ่งงานสำรวจ ที่เก็บข้อมูลภาวะสุขภาพนักเรียนในประเทศไทย พ.ศ. 2551 ตามแนวทางขององค์การอนามัยโลก พบว่า นักเรียนไทย 13-15 ปี เสี่ยงน้ำหนักเกิน 10% และมีน้ำหนักเกินแล้ว 4% ในอนาคตเด็กเหล่านี้ส่วนใหญ่จะโตเป็นผู้ใหญ่ที่อ้วนเพราะเด็กที่อ้วนเมื่ออายุ 6 ขวบขึ้นไปจะมีโอกาสเป็นผู้ใหญ่อ้วน 25% หากเด็กอ้วนเมื่ออายุ 12 ขวบ เมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ก็จะมีโอกาสอ้วนได้มากถึง 75% โดย 30-80% เมื่อโตขึ้น มักป่วยด้วยโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคเบาหวานและโรคความดันโลหิตสูงกลายเป็นอนาคตของชาติที่มีโรคเรื้อรังรุมเร้า

ต้นตอของปัญหามาจากการบริโภค และต้องยอมรับว่าการบริโภคขนมกับเด็กแยกจากกันไม่ได้แนวโน้มของเด็กที่ไม่ยอมกินข้าว แต่กินขนมที่อุดมไปด้วยรสหวาน มัน เค็ม มีไขมัน และโซเดียมสูง

แนวทางหนึ่งที่มีการหยิบยกกันขึ้นมาก็คือ การทำฉลากขนมกรุบกรอบเป็นสัญญาณไฟแดง เหลือง เขียว เพื่อเป็นสัญลักษณ์บอกถึงปริมาณ หวาน มัน เค็มโซเดียม ไขมันสูงในระดับมาตรฐานในการบริโภคต่อหนึ่งมื้อหรือไม่

รศ.ดรประไพศรี ศิริจักรวาล อาจารย์ประจำสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดลบอกว่า ประเทศอังกฤษ ทดสอบแล้วว่า หากมีไฟบ่งบอกข้างซองขนมกรุบกรอบจะใช้เวลาในการตัดสินใจซื้อเพียง 4 วินาที เพราะจะทำให้ผู้ซื้อมีความรู้ความเข้าใจในการเลือกบริโภคที่เหมาะสมได้

ผลการวิจัยมาตรฐานพลังงานและเกณฑ์สารอาหารในขนมกรุบกรอบ ที่ดำเนินการร่วมกับราชวิทยาลัยกุมารแพทย์ แห่งประเทศไทย พบว่า ขนมหรืออาหารว่างแต่ละมื้อ (หรือหนึ่งหน่วยผลิตภัณฑ์) จะต้องให้ปริมาณพลังงานไม่เกิน 100-150 กิโลแคลอรี

ส่วนสารอาหาร ทั้งน้ำมันไม่ควรเกิน 2.5 กรัม น้ำตาล ไม่ควรเกิน 12 กรัม และโซเดียม ไม่ควรเกิน  100 มิลลิกรัม และควรมีสารอาหารเหล่านี้ไม่ต่ำกว่า 2 ชนิดประกอบด้วย เช่น โปรตีน เหล็กแคลเซียม วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 และใยอาหารในปริมาณไม่ต่ำกว่าร้อยละ 10 ของที่ควรได้รับต่อวันจึงจะเป็นประโยชน์

สัญลักษณ์ไฟแดง เหลือง เขียวเป็นตัวแทนหรือปริมาณโดยคำนึงถึง “พลังงานน้ำตาล- ไขมัน-เกลือ (โซเดียม)” ตามลำดับ

ไฟเขียว แสดงว่าให้พลังงานต่ำ ไม่เกิน 150 กิโลแคลอรี ปริมาณน้ำตาลต่ำกว่าหรือเท่ากับ 12 กรัมปริมาณไขมันต่ำหรือเท่ากับ 2.5 กรัม มีโซเดียมต่ำหรือเท่ากับ 100 มิลลิกรัม

ไฟเหลือง แสดงว่าให้พลังงานปานกลางระหว่าง 150-200 กิโลแคลอรี ปริมาณน้ำตาลระหว่าง12-24 กรัม ปริมาณไขมันปานกลางระหว่าง 2.5-5 กรัมมีโซเดียมปานกลางระหว่าง 100-200 มิลลิกรัม

ไฟแดง แสดงว่าให้พลังงานสูงเกินกว่า 200 กิโลแคลอรี ปริมาณน้ำตาลสูงกว่า 24 กรัม ปริมาณไขมันสูงกว่า 5 กรัม มีปริมาณโซเดียมสูงกว่า 200 มิลลิกรัม

“การมีไฟแดงขึ้นที่ฉลากของผลิตภัณฑ์นั้นๆไม่ใช่ห้ามบริโภค แต่เป็นการเตือนว่า การบริโภคมื้อต่อไปควรลดสัดส่วนสารอาหารที่เกินเหล่านั้น”

ฉลากขนมที่ชัดเจน ก้าวสำคัญที่จะเป็นเกราะสำคัญ ปกป้องสุขภาพเยาวชนไทย ไม่ให้เติบโตขึ้นพร้อมอาการป่วยเรื้อรัง”

 

 

ที่มา : หนังสือพิมพ์บ้านเมือง

Shares:
QR Code :
QR Code