ตำบลขับขี่ปลอดภัย ในสถานการณ์โควิด-19
เรื่องโดย ฐิติพร โยทาพันธ์ Team Content www.thaihealth.or.th
ข้อมูลบางส่วนจาก Facebook LIVE Thai Health Thai Talk (EP.1) ร่วมสร้าง "ตำบลขับขี่ปลอดภัยไปกับหมออนามัย ในสถานการณ์โควิด-19" สมาคมเครือข่ายหมออนามัยวิชาการ
ภาพโดย ปารมี ขันธ์แก้ว Team Content www.thaihealth.or.th และแฟ้มภาพ
เมื่อการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน ส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ ไม่แพ้กับสถานการณ์โควิด-19 ต้องดูแลทั้งค่าใช้จ่ายผู้ที่เสียชีวิต ค่ารักษาพยาบาล ครอบครัวที่ต้องขาดเสาหลักไป สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นปัญหาทางสุขภาวะในครอบครัว หากไม่ลดจำนวนผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุลง อาจส่งผลกระทบต่อสังคมในระยะยาว
แม้ในช่วงที่ประเทศไทยกำลังเผชิญกับวิกฤติโควิด-19 จะส่งผลให้อัตราการเสียชีวิตจากอุบัติทางถนนลดลงมา อาจด้วยเพราะสถานการณ์โควิด-19 ทำให้การเดินทางลดน้อยลง ผลจากการล็อกดาวน์ และไม่จำหน่ายสุราในช่วงที่สถานการณ์โควิดกำลังระบาด ลดอัตราการดื่มแล้วขับ ตั้งแต่ช่วงกลางปี 2563 ที่ผ่านมา ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตปีล่าสุด มีจำนวน 17,831 คน จากเดิมสูงถึงปีละ 20,000 คน ลดลงมาประมาณ 10 % จากข้อมูลปี 2562 และข้อมูลล่าสุดในเดือนสิงหาคม 2564 มีผู้เสียชีวิต จำนวน 8,862 คน
ถึงแม้อัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนจะลดลงในช่วงสถานการณ์โควิด-19 แต่ปัญหานี้ยังคงน่าเป็นห่วงและต้องได้รับการแก้ไข ป้องกัน เพื่อไม่ให้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มมากขึ้น และปัญหาการลดอุบัติเหตุนี้ จึงเป็นที่มาของการทำงานร่วมกันกับเครือข่ายหมออนามัยวิชาการ ในการขับเคลื่อนงานป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนน สร้างตำบลขับขี่ปลอดภัย ซึ่ง สสส. นั้นเชื่อมั่นว่าบทบาทของหมออนามัย เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนงานตำบลขับขี่ปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
นางสาวรุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ ผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงทางสังคม สสส. กล่าวถึงการทำงานร่วมกับเครือข่ายหมออนามัยวิชาการในการขับเคลื่อนตำบลขับขี่ปลอดภัยว่า จากการสำรวจพบว่า ในประเทศไทย มีจำนวน 283 อำเภอ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุทางถนนมากที่สุด การทำงานโดยใช้กลไกชุมชน ระดับตำบล โดยการร่วมมือกันกับเครือข่ายหมออนามัยวิชาการ จะสามารถเป็นกระบอกเสียง ให้ความรู้ในการป้องกัน และขับเคลื่อนงานลดอุบัติเหตุในชุมชนลงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
“สสส. ให้ความสำคัญกับการทำงานร่วมกับตำบล ร่วมกับชุมชน ซึ่งจะทำให้การทำงานง่ายขึ้น และมองว่าคนพื้นที่แต่ละตำบลย่อมรู้อยู่แล้วว่า พื้นที่ตรงไหนเกิดอุบัติเหตุบ่อย ปัญหาในตำบลอยู่ตรงไหน จึงเป็นที่มาของการร่วมมือกันระหว่าง สสส. และเครือข่ายหมออนามัย ซึ่งทำงานร่วมกันมาตั้งแต่ปี 2546 โดย สสส. ได้ให้การสนับสนุนด้านงบประมาณ สื่อประชาสัมพันธ์ และการอบรมให้ความรู้ เพื่อนำไปใช้ในการทำงานของแต่ละพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม
เนื่องจากทุกจังหวัด และในทุกตำบล จะมีหมออนามัยประจำอยู่ และเป็นบุคลากรด่านหน้าที่รู้ข้อมูลในชุมชนที่ดูแลอยู่ เป็นกระบอกเสียงที่สำคัญ และสามารถจะชี้ให้เห็นด้วยว่า หากจะแก้ไขปัญหา จุดอ่อน ของแต่ละชุมชน ต้องแก้ที่จุดไหน และมีมาตรการแก้ไขอย่างไร เพื่อให้การลดอุบัติเหตุทางถนนในพื้นที่เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ” นางสาวรุ่งอรุณ กล่าว
อาจารย์บุญเรือง ขาวนวล รองคณบดีฝ่ายวิจัยและบริการวิชาการมหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตพัทลุง นายกสมาคมเครือข่ายหมออนามัย กล่าวว่า การป้องกันโรค และลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพ เป็นบทบาทหลักของหมออนามัย ซึ่งเครือข่ายหมออนามัยวิชาการ เป็นภาคีหลักและได้รับการสนับสนุนจาก สสส. โดยมีโจทย์การทำงานที่สำคัญว่า จะทำอย่างไรที่จะทำให้ระบบสุขภาพชุมชน เกิดความเข้มแข็ง จึงได้ก่อตั้งโครงการ "หมออนามัย อะคาเดมี่" เปิดรับหมออนามัยรุ่นใหม่ ที่มีศักยภาพในการทำงานที่เข้มแข็ง มีหลักวิชาการทางสุขภาพที่ทันสมัย มาร่วมกันทำงานในด้านการสร้างเสริมสุขภาพ และป้องกันปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพในชุมชน ทั้งเรื่อง เหล้า บุหรี่ และอุบัติเหตุทางถนน รวมถึงการป้องกันโรค ได้อย่างมีประสิทธิผล และเกิดเป็นชุมชนต้นแบบต่อไปได้
“หากพูดถึงหมออนามัย ในชุมชนจะเป็นที่รู้จัก เป็นบุคคลที่ชาวบ้านในชุมชนให้ความสำคัญ หน้าที่ของเครือข่ายหมออนามัย คือการเป็นกระบอกเสียง ให้ความรู้ สร้างการตื่นรู้ให้กับคนในชุมชน ตระหนักถึงการดูแลสุขภาพและความปลอดภัยในชุมชน รวมทั้งการดูแลและป้องกันปัจจัยเสี่ยงในด้านต่าง ๆ ทั้ง เหล้า บุหรี่ อุบัติเหตุ และการป้องกันโรค และบทบาทของหมออนามัยนั้น ยังเป็นกำลังหลักในการขับเคลื่อนงานตำบลขับขี่ปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย” อาจารย์บุญเรือง กล่าว
ด้าน นางสาว ดวงสมร ดวงใจ เจ้าพนักงานสาธารณสุขชำนาญงาน สสอ.อำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว หนึ่งในสมาชิกจากโครงการ "หมออนามัย อะคาเดมี่" และผู้เข้าร่วมโครงการตำบลขับขี่ปลอดภัย ได้กล่าวถึงการทำงานว่า ขอบคุณ สสส. ที่เห็นความสำคัญของหมออนามัย และให้การสนับสนุนในการพัฒนาศักยภาพหมออนามัย ในด้านการอบรมป้องกันอุบัติเหตุ สนับสนุนงานวิชาการที่เกี่ยวข้อง และทำให้รู้จักและได้ร่วมงานกับภาคีเครือข่ายด้านการลดอุบัติเหตุ
“อำเภออรัญประเทศ ติด 1 ใน 3 ของอำเภอในจังหวัดสระแก้ว ที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุด หลังจากได้เข้าร่วมอบรมโครงการ “ตำบลขับขี่ปลอดภัย” ก็มีแนวคิดว่าจะนำความรู้ที่ได้นี้มาปรับใช้ในตำบลที่ทำงานอยู่ โดยเริ่มในพื้นที่ตำบลคลองน้ำใส ซึ่งผลการดำเนินงานทำให้เกิดการทำงานร่วมกันในชุมชนและหน่วยงานปกครองท้องถิ่น ลดการเกิดอุบัติเหตุในชุมชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยความที่เราเป็นหมออนามัย ทำให้ได้ใกล้ชิดคนในชุมชน รู้ถึงความเป็นอยู่ของคนในชุมชน เวลาที่ลงไปทำงานในพื้นที่ ชาวบ้านจะให้ความสำคัญและดูแลเราเป็นอย่างดี เพราะชุมชนก็เปรียบเสมือนบ้านของเรา ทำให้การทำงานง่ายขึ้น” คุณดวงสมร กล่าว
นอกจากนี้ นางสาวดวงสมร ผู้เข้าร่วมโครงการตำบลขับขี่ปลอดภัย ยังได้แชร์ วิธีการดำเนินงาน ในการป้องกันและลดอุบัติเหตุในตำบล โดยมีวิธีการ ดังนี้
- เข้าร่วมอบรมโครงการ “ตำบลขับขี่ปลอดภัย” หัวข้อการใช้เครื่องมือการจัดการเชิงผลลัพธ์ 5 ประการ
- ประชุมคณะทำงานในชุมชน เพื่อวิเคราะห์ปัญหา จุดเสี่ยง ในชุมชน
- สำรวจความพร้อมเดิมที่มีอยู่ในชุมชน และจุดที่ชุมชนต้องการแก้ไข
- เมื่อทราบถึงความต้องการของชุมชนแล้ว จึงร่วมกันวางแผนแก้ไขปัญหา โดยเริ่มจากจุดเสี่ยงที่แก้ไขได้ง่ายก่อน
- ดำเนินการแก้ไขอย่างมีส่วนร่วมกับหน่วยงานที่รับผิดชอบหลัก เช่น แขวงการทาง ที่ดูแลถนนในจุดต่าง ๆ
- อบรมให้ความรู้ และทำกิจกรรมที่ส่งเสริมให้ชุมชนเกิดความตระหนักถึงการลดอุบัติเหตุ การใช้รถใช้ถนนที่ปลอดภัย ควบคู่ไปกับการป้องกันโรค และสร้างเสริมสุขภาวะของคนในชุมชน
- ติดตามผลการดำเนินงาน แก้ไข ปรับปรุง และขยายพื้นที่การทำงานให้ครอบคลุมไปยังตำบลอื่น ๆ
งานป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน เป็นสิ่งที่ สสส. ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหานี้อย่างจริงจัง จึงร่วมมือกับภาคีเครือข่ายส่งเสริมให้เกิดความปลอดภัยในชุมชน รวมทั้งการผลักดัน สนับสนุนให้ชุมชน และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ทำงานร่วมกันในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยให้เกิดขึ้นในสังคมไทย ลดอัตราผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุ และในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในขณะนี้ ไม่เพียงแต่การป้องกันอุบัติเหตุเท่านั้น เราทุกคนยังคงต้องปฏิบัติตนตามมาตรการป้องกัน ด้วยการสวมหน้ากาก ล้างมือบ่อย ๆ เว้นระยะห่างทางสังคม ไม่ปกปิดข้อมูล เพื่อความปลอดภัยและห่างไกลโควิด-19