ที่มา : ผู้จัดการรายวัน 360 องศา

แฟ้มภาพ

รมว.สาธารณสุข ลงพื้นที่ปทุมฯ ให้กำลังใจแพทย์-พยาบาล-ปชช. ยก "อสม." กำลังหลักต่อสู้ "โควิด-19" ระบาด จนคุมสถานการณ์ได้ เชื่อหลังจบวิกฤต ไทยรั้งเบอร์ 1 ของโลกด้านสาธารณสุขได้

นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข เดินทางเข้าตรวจเยี่ยมให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์, อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และประชาชนในพื้นที่ จ.ปทุมธานี หลายจุด ทั้งที่ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) คลองสาม, โรงพยาบาลปทุมธานี และที่ทำการองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) โดยได้มอบอุปกรณ์ชุดป้องกัน หน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ให้กับบุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลปทุมธานี จ.ปทุมธานี พร้อมตรวจเยี่ยมคลินิกโรคทางเดินหายใจรองรับผู้ป่วยโรคโควิด-19 และหารือกับผู้บริหาร อบจ.ปทุมธานี กำหนดมาตรการการควบคุมโรคร่วมกัน

โดยที่ รพ.สต.คลองสาม พื้นที่หมู่ 5 อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายอนุทิน ได้พบและให้กำลังใจการทำงานกลุ่ม อสม. พร้อมมอบอุปกรณ์ป้องกันการติดเชื้อสนับสนุนการทำงาน ก่อนจะให้สัมภาษณ์ว่า อสม.ทุกคน ทำหน้าที่เหมือนเป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุขคนหนึ่ง เป็นส่วนสำคัญของระบบสาธารณสุขไทยที่ทั่วโลกเห็นแล้วว่าทำให้การควบคุมโรค โควิด-19 ของประเทศไทยมีประสิทธิภาพ

"ต้องขอบคุณฟันเฟืองในระบบสาธารณสุขทุกส่วน ทั้ง อสม. เจ้าหน้าที่ รพ.สต. แพทย์ พยาบาล บุคลากรสาธารณสุขที่เหนื่อยทุกคน ร่วมแรงร่วมใจทำงาน ทำให้สถานการณ์ตัวเลขผู้ป่วยรายใหม่ลดลง โดยเชื่อว่าหลังจบวิกฤตโควิด-19 จะเป็นการพิสูจน์และเชื่อมั่นว่า ประเทศไทย จะเป็นที่ 1 ของโลกในด้านสาธารณสุข" นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวต่อว่า นักวิทยาศาสตร์กำลังร่วมกันคิดค้นวิจัยวัคซีนป้องกันโรค เมื่อสำเร็จก็จะเป็นโรคที่ป้องกันได้ แต่ขณะที่ยังไม่มีวัคซีนเรายังต้องคงมาตรการเว้นระยะห่าง ต้องใส่หน้ากากผ้าหรือหน้ากากอนามัย ใช้ช้อนรับประทานอาหารส่วนตัว ล้างมือบ่อยๆ มาตรการทางสังคมเหล่านี้เป็นวัคซีนช่วยป้องกันโรคให้เราในตอนนี้ได้

"ขอให้พี่น้องประชาชนอดทนร่วมกันอีกนิด รัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉยกับมาตรการที่จำกัดเสรีภาพของพี่น้องประชาชน แต่มีความจำเป็นต้องควบคุมเพื่อไม่ให้โรคแพร่กระจาย ขอให้ปฏิบัติตนตามมาตรการต่างๆ อาจจะต้องปรับตัว ปรับแผนการใช้ชีวิต อยู่ร่วมกันระมัดระวังขณะที่ยังไม่มีวัคซีน ในที่สุดก็จะผ่อนคลาย กลับสู่ปกติได้ และใช้ชีวิตร่วมกันอย่างปลอดภัย" รมว.สาธารณสุข ระบุ.