ตั้งเป้าป้องกันเชื้อดื้อยาและกำจัดมาลาเรียให้หมดจากไทยโดยเร็ว
ที่มา: สำนักสารนิเทศ กระทรวงสาธารณสุข
แฟ้มภาพ
กระทรวงสาธารณสุข ตั้งเป้าป้องกันเชื้อดื้อยาและกำจัดมาลาเรียให้หมดจากไทยโดยเร็ว ย้ำประชาชนภายหลังกลับจากป่า มีไข้สูง ปวดศีรษะ หนาวสั่น สลับร้อนหนาวและเหงื่อออก ขอให้รีบไปพบแพทย์ กินยาให้ครบ ไม่ซื้อยากินเอง อาจเจอยาปลอม
นายแพทย์เจษฎา โชคดำรงสุข ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยถือว่าประสบผลสำเร็จในการควบคุมโรคไข้มาลาเรีย โดยได้ปรับเปลี่ยนนโยบายจากการควบคุมโรคไข้มาลาเรียเป็นการกำจัดโรคไข้มาลาเรีย ตั้งเป้ากำจัดโรคไข้มาลาเรียรวมถึงเชื้อมาลาเรียที่ดื้อต่อยารักษาให้หมดไป ภายในปี 2567 ใช้มาตรการสำคัญ คือ 1.ให้ถือว่าการเฝ้าระวังเชื้อมาลาเรียดื้อยาเป็นงานในระบบปกติ และเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิดในทุกพื้นที่เสี่ยง 2.ค้นหาและให้การรักษาผู้ป่วย โดยมาลาเรียชุมชน มาลาเรียคลินิก โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพและโรงพยาบาลต่างๆ ซึ่งมีเครือข่ายอยู่ทั่วประเทศ ผู้ป่วยทุกรายจะได้รับการติดตามผลการรักษาโดยเจ้าหน้าที่สาธารณสุข ประชาชนในพื้นที่แพร่เชื้อมาลาเรียจะได้รับการคุ้มครอง 3.ป้องกันยุงพาหะนำโรค โดยแจกมุ้งชุบสารเคมีเพื่อป้องกันยุงทุกหลังคาเรือน เป็นต้น
นายแพทย์เจษฎากล่าวต่อว่า ข้อมูลสำนักระบาดวิทยา ตั้งแต่ 1 มกราคม – 1 พฤศจิกายน 2560 ประเทศไทยพบผู้ป่วยมาลาเรีย 10,878 ราย โดย 5 จังหวัดที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ ยะลา ตาก ศรีสะเกษ นราธิวาส และแม่ฮ่องสอน เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2559 ในช่วงเวลาเดียวกันพบผู้ป่วยลดลงจากอัตราป่วย 0.26 ต่อประชากรพันคน เหลืออัตราป่วยเพียง 0.16 ต่อประชากรพันคน และพบปัญหาเชื้อดื้อยาน้อยกว่าร้อยละ 10 ซึ่งสอดคล้องกับเกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกกำหนดให้ประเทศที่มีอัตราป่วยด้วยโรคไข้มาลาเรียน้อยกว่า 1 ต่อประชากรพันคน
ด้านนายแพทย์สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ตามที่มีข่าวว่าพบเชื้อมาลาเรียดื้อยาตามแนวชายแดนแม่น้ำโขงนั้น ประชาชนอย่าตื่นตระหนก เนื่องจากประเทศไทยได้เปลี่ยนยาที่ใช้ในการรักษามาลาเรีย ซึ่งสามารถรักษาโรคนี้ให้หายได้ สำหรับประชาชนที่อาศัยในพื้นที่อยู่แล้วหรือผู้ที่เดินทางไปพักค้างคืนในพื้นที่ดังกล่าว ควรสวมเสื้อผ้าให้มิดชิด นอนในห้องที่มีมุ้งลวด หรือกางมุ้ง ทายากันยุง เป็นต้น ที่สำคัญภายหลังกลับจากป่า ถ้ามีไข้สูง ปวดศีรษะ หนาวสั่น สลับร้อนหนาวและเหงื่อออก ขอให้รีบไปพบแพทย์ในสถานพยาบาลทุกแห่งใกล้บ้านทันที เพื่อเจาะเลือดตรวจหาเชื้อมาลาเรียและขอให้แจ้งประวัติการเข้าป่าหรือไปพักค้างคืนในบริเวณพื้นที่เสี่ยงให้แพทย์ทราบด้วย เพื่อการรักษาที่รวดเร็ว และต้องรับประทานยาให้ครบ ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง เพราะอาจเจอยาปลอมได้ หากไปพบแพทย์ช้าผู้ป่วยอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ภาวะมาลาเรียขึ้นสมอง ภาวะปอดบวมน้ำ ภาวะไตวาย อาจเสียชีวิตได้ ประชาชนสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค โทร 1422