“ตับ” มหัศจรรย์อวัยวะ ซ่อมตัวเองได้..แค่ลดปัจจัยเสี่ยง
ที่มา : เว็บไซต์ไทยรัฐ
แฟ้มภาพ
เชื่อหรือไม่ว่า ในบรรดาอวัยวะทั้งหมดที่อยู่ในร่างกาย “ตับ” เป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่ต่างๆมากมาย จนเกือบจะเรียกได้ว่ามากที่สุดเลยก็ว่าได้
เริ่มตั้งแต่สร้างสารต่างๆที่สำคัญ เช่น ไข่ขาว หรือ albumin ช่วยอุ้มน้ำให้อยู่ในหลอดเลือด เพราะหาก albumin ในเลือดต่ำจะทำให้เกิดอาการบวมเท้า ท้องมาน, ผลิตน้ำดี และเกลือน้ำดีเพื่อช่วยย่อยสลายไขมัน, กำจัดของเสีย ของเสียที่ร่างกายเราได้มาจากอาหารหรือสารที่เรารับเข้าไป เช่น ยา แอลกอฮอล์ กาแฟ หรือสารที่เป็นพิษ เมื่อสารพิษผ่านตับ ตับจะทำหน้าที่ทำลายสารพิษนั้นออกจากร่างกาย, ตับทำหน้าที่สะสมพลังงาน เช่น กลูโคส และวิตามิน และที่สำคัญที่สุด ตับเป็นที่อยู่ของเม็ดเลือดเพื่อดักจับเชื้อโรค
นอกจากนี้ ตับยังเป็น 1 ใน 7 อวัยวะของร่างกายที่สามารถ ฟื้นฟูและซ่อมสร้างตัวเองได้ โดยคนที่มีความผิดปกติที่ตับ ไม่ว่า จะเป็นไขมันพอกตับ หรือมีสารพิษตกค้างที่ตับมาก จะด้วยสาเหตุจากการดื่มแอลกอฮอล์ ทานยาปฏิชีวนะ สารเคมีต่างๆ สามารถฟื้นสุขภาพตับได้ ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกิน ดื่ม หลีกเลี่ยงอาหาร หรือพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ หากบางส่วนของตับยังไม่อักเสบมากจนแข็งไปเสียก่อน หรือมีอาการเจ็บป่วยด้วยโรคตับแข็งมะเร็งตับ โดยการซ่อมแซมตัวเองของตับมาจากการสร้าง “กลูตาไทโอน” ซึ่งเป็นกระบวนการในการฟื้นฟูซ่อมแซมตัวเองของตับให้กลับมาสด และมีสุขภาพที่ดีเหมือนเดิม
ดังนั้น โครงการรณรงค์ “งดเหล้าเข้าพรรษา” ที่ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ดำเนินการต่อเนื่องมาหลายปี โดยในปีนี้ ใช้แคมเปญการรณรงค์ว่า พักตับ…ตับดีขึ้น จึงมีความเป็นไปได้ที่จะเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมล่าสุด การติดตามผลเพื่อตรวจวัดค่าตับ หลังงดเหล้าเข้าพรรษาตลอด 3 เดือน ของชาวบ้านใน ต.โคกเพชร อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ โดยให้ผู้ที่ต้องการงดเหล้าตลอดช่วงเข้าพรรษา หรือแม้แต่สมัครใจที่เลิกเหล้าตลอดชีวิต มาตรวจค่าตับก่อนที่จะเข้าร่วมโครงการ โดยทำการตรวจ ทั้งค่า SGOT (Serum glutamic-oxaloacetic transaminase) ซึ่งเป็นค่าใช้ช่วยตรวจคัดกรอง หรือวินิจฉัยภาวะโรคตับ, ค่า SGPT (serum glutamate pyruvate transaminase) หรือค่าโปรตีนที่พบมากในตับ ค่า ALT และ AST ซึ่งเป็นค่าเอนไซม์ในตับที่ช่วยสร้างอะมิโนเอซิด และโปรตีน ที่หากมีการอักเสบของตับจะมีการหลั่งเอนไซม์ตัวนี้ออกจากตับสู่กระแสเลือดมากขึ้น โดยเฉพาะค่า ALT มักพบสูงในกลุ่มคนที่ดื่มสุราและมีภาวะตับอักเสบ ตับแข็ง ฯลฯ โดยวัดค่าตับทุกตัวไว้ก่อน และนัดมาตรวจอีกครั้งหลังออกพรรษาแล้ว
ผลการตรวจค่าตับ ภายหลังจากที่มีการรณรงค์งดเหล้าในช่วงเข้าพรรษา ปรากฏว่าชาวบ้านกว่า 100 คนที่เข้าร่วมโครงการ ทุกคนมีค่าตับดีขึ้น มีสุขภาพที่ดีขึ้น และหลายคนจากที่เคยตั้งใจว่าจะงดเหล้าแค่ช่วงเข้าพรรษา หลังพบว่า เมื่อไม่ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ทำให้มีสุขภาพดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จึงประกาศที่จะเลิกเหล้าตลอดชีวิตก็มี
ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล รองผู้จัดการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เดินทางไปยังจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการงดเหล้าเข้าพรรษา ซึ่งจังหวัดศรีสะเกษ เคยเป็นจังหวัดต้นๆของประเทศไทยที่มีการบริโภคสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สูงที่สุดในประเทศ บอกว่านอกเหนือจากสุขภาพตับดีขึ้น ที่เป็นผลจากการงดเหล้าแล้ว จากการที่ สสส.ได้ริเริ่มและสนับสนุนงานบุญปลอดเหล้า โดยเฉพาะการงดเหล้าเข้าพรรษา ต่อเนื่องเป็นปีที่ 15 นับจากปี 2546 เป็นที่น่ายินดีว่า จำนวนผู้เข้าร่วมงดเหล้าเข้าพรรษาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจาก40.4%ในช่วงเริ่มโครงการ เพิ่มเป็น 67.1%ในปี 2559 หรือประมาณ 12 ล้านคน สามารถประหยัดค่าซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ถึง 13,459 ล้านบาท
สำหรับที่ จ.ศรีสะเกษ ถือเป็น ต้นแบบของการรณรงค์ลด ละ เลิก เหล้าและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม โดย สสส.ได้ตอกย้ำแนวทางการทำงาน โดยให้ชุมชนเป็นผู้ริเริ่มในการแก้ไขปัญหา ใช้ความเข้มแข็งของชุมชนขับเคลื่อนจากระดับตำบล สู่ความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม
โดยกลยุทธ์หนึ่งที่ได้ผลอย่างมาก คือ การดำเนินงานโครงการ “งานบุญปลอดเหล้า” ที่ทำให้อำเภอในจังหวัดศรีสะเกษหลายอำเภอ ได้รับการยกระดับเป็น “อำเภอยุทธศาสตร์งานบุญประเพณีปลอดเหล้า”
ด้าน บำรุง เป็นสุข ผู้ประสานงานสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า(สคล.) ได้สรุปผลการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาปี 2560 เฉพาะภาคอีสานตอนล่างทั้ง 9 จังหวัด ได้แก่ นครราชสีมา ชัยภูมิ บุรีรัมย์ สุรินทร์ มุกดาหาร อำนาจเจริญ ยโสธร อุบลราชธานี และศรีสะเกษ ว่าผลการรณรงค์งดเหล้าเข้าพรรษาปี 2560 เฉพาะภาคอีสานตอนล่างจากผู้ร่วมปฏิญาณตนบวชใจงดเหล้า มีคนร่วมปฏิญาณตนงดเหล้ารวม 8,806 คน แบ่งเป็นปฏิญาณตน งดเหล้าครบพรรษาจำนวน 4,744 คน ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้ถึง 11,385,600 บาท ปฏิญาณตนงดดื่มตลอดชีวิต 2,090 คน ประหยัดค่าใช้จ่าย 5,016,000 บาท ส่วนผู้ที่ไม่งดแต่ลดปริมาณการดื่ม จำนวน 1,972 คน ประหยัดค่าใช้จ่าย 2,662,200 บาท รวมทั้งสิ้นประหยัดได้ 19,063,800 บาท
ครูจันทร์ โต๊ะสิงห์ ผู้ประสานงานประชาคมงดเหล้า จังหวัดศรีสะเกษ บอกว่า จากการรวบรวมข้อมูลการประหยัดค่าใช้จ่ายการจัดงานบุญปลอดเหล้า-ปลอดการพนัน ระหว่างปี 2556-2560 มีงานบุญปลอดเหล้า 24,833 งาน ประหยัดเงินได้จากการจัดงานปลอดเหล้า 431,496,324 บาท โดยเฉพาะในตำบลเสียว อำเภอโพธิ์ศรีสุวรรณ ซึ่งเป็นพื้นที่ต้นแบบจัดงานบุญปลอดเหล้าครบรอบ 10 ปี สามารถยกระดับงานบุญปลอดเหล้าได้ 13 งาน ใน 12 เดือน ทั้งงานปีใหม่, สงกรานต์, บั้งไฟ, ทอดกฐิน, ทอดผ้าป่า, งานศพ, งานบวช, งานบุญอัฐิ, งานบุญซำฮะ (งานบุญข้าวประดับดิน), งานรำอ้อ (รำไหว้ผีบรรพบุรุษ), งานลอยกระทง, งานขึ้นบ้านใหม่ และงานแต่งงาน
ที่สำคัญที่สุด คือ ชาวบ้านที่เข้าร่วมโครงการทั้งหมดมีสุขภาพดีขึ้น ไม่มีค่าตับที่เป็นปัญหาโดยเฉพาะจากการบริโภคแอลกอฮอล์…อีกเลย