ตะลึง! พบเด็กวัย 13 เป็น”หนองใน”
หวั่นเอดส์ในไทยกลับมาระบาด หลังพบเยาวชนป่วยเป็นกามโรค
นายประเสริฐ แก้วเพชร รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวในการประชุมวิชาการ “เพศศึกษาเพื่อเยาวชน ครั้งที่ 4 ทบทวน ท้าทาย ศรัทธา กล้าเลือก” จัดโดยโครงการก้าวย่างอย่างเข้าใจ องค์การแพธ (path) ร่วมกับภาคีเพศศึกษา 16 องค์กร ที่โรงแรมแอมบาสซาเดอร์ เมื่อเร็วๆ นี้ ว่า สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ได้เข้าร่วมโครงการนี้มา 5 ปี และขยายผลการดำเนินงานครอบคลุมสถานศึกษาในสังกัดได้กว่าร้อยละ 50 แล้ว โดยผลักดันเรื่องเพศศึกษาบรรจุไว้ในหลักสูตรการอาชีวศึกษา เป็นวิชาเลือกเสรี ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) พบว่ามีประโยชน์มาก เยาวชนได้รับการพัฒนาให้มีวุฒิภาวะ ไม่ก่อปัญหาทั้งต่อตนเองและสังคมมากขึ้น ดังนั้น สอศ.จะเดินหน้าขยายผลให้ครอบคลุมทั้ง 100% ต่อไป นอกจากนี้ จะนำเรื่องเพศศึกษาเข้าหารือในที่ประชุมผู้บริหารสถานศึกษาในสังกัดทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 15-16 ตุลาคม โดยจะผลักดันให้เรื่องเพศศึกษาสอดแทรกอยู่ในกระบวนการเรียนการสอนอาชีวศึกษาด้วย
นพ.อนุพงศ์ ชิตวรากร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารโครงการกองทุนโลก กล่าวว่า สถานการณ์โรคเอดส์ในประเทศไทยยังน่าเป็นห่วง เพราะมีจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ปีละประมาณ 20,000 คน ส่วนใหญ่เป็นเยาวชน นอกจากนี้ ยังพบเยาวชนป่วยเป็นกามโรคมากขึ้นด้วย เช่น หนองใน โดยพบตั้งแต่อายุ 13 ปีขึ้นไป จึงยังต้องดำเนินการเรื่องเพศศึกษาอย่างจริงจังต่อไป โดยตั้งเป้าว่าหลังครบระยะเวลา 6 ปี เด็กไทยทุกคนจะได้ความรู้เรื่องเพศศึกษาอย่างถูกต้อง และมีพฤติกรรมทางเพศที่เหมาะสม
นพ.ทวีทรัพย์ ศิระประภาศิริ ผู้เชี่ยวชาญด้านเอชไอวี กองทุนประชากรแห่งสหประชาชาติ กล่าวว่า สาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 1 ของเด็กและเยาวชนไทย คือการมีเพศสัมพันธ์ไม่ปลอดภัย จึงต้องให้เยาวชนได้รับความรู้เรื่องเพศศึกษาอย่างรอบด้านและมีคุณภาพ
นางภาวนา เหวียนระวี ผู้อำนวยการฝ่ายวิชาการ องค์การแพธ กล่าวว่า จากการประเมินผลเชิงคุณภาพพบสาเหตุที่ทำให้ครูส่วนหนึ่งสอนเพศศึกษาน้อยลง เพราะไม่กล้าสอน กังวลว่าผู้ปกครองไม่เห็นด้วย ทั้งที่ยังไม่เคยได้รับเสียงสะท้อนจากผู้ปกครอง จึงเสนอให้ทุกองค์กรภาคีร่วมกันรณรงค์พ่อแม่ ผู้ปกครองให้ร่วมลงชื่อสนับสนุนการจัดการเรียนรู้เพศศึกษาในสถานศึกษา โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 100,000 รายชื่อ จากนั้นจะนำเสนอกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เพื่อผลักดันให้มีการจัดการเรียนการสอนเพศศึกษาอย่างแพร่หลายและจริงจังในสถานศึกษาต่อไป
ที่มา: หนังสือพิมพ์มติชน
update : 22-10-51