ตอบแทนบุญคุณร่างกายในแบบของ ชนิดาบุญนาค

ค้นพบวิธีการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมกับตัวเอง

 ตอบแทนบุญคุณร่างกายในแบบของ ชนิดาบุญนาค

           …เมื่อร่างกายส่งสัญญาณเตือนให้รู้ว่าไม่แข็งแรงเหมือนเก่า จึงเริ่มฉุกคิดว่าเราเกิดมามีร่างกายแข็งแรง แต่เราได้ใช้งานร่างกายมานานเหลือเกิน เราน่าจะต้องตอบแทนบุญคุณร่างกายของเราด้วยการดูแลรักษาสุขภาพบ้าง…  

 

           เมื่อครูใหญ่โรงเรียนอนุบาลศรีนคร โรงเรียนอนุบาลเอกชนในหมู่บ้านศรีนคร ซอยนวมินทร์ 24 คลองกุ่ม กรุงเทพฯ ชนิดา บุญนาค วัย 50 ปี เริ่มพบว่า ร่างกายของเธอไม่กระฉับกระเฉงเหมือนเก่า มีอาการเจ็บขาเพราะน้ำหนักมากขึ้น เธอก็เริ่มได้คิดที่จะ ตอบแทนบุญคุณร่างกาย ด้วยการดูแลตนเองให้มากขึ้น โชคดีที่เธอได้พบวิธีการดูแลสุขภาพที่เหมาะสมกับตัวเองจนทำให้ประสบความสำเร็จ กลายเป็นผู้มีสุขภาพกายและใจแข็งแรง ไม่เคยเจ็บป่วยจนถึงมือหมอ และตอนนี้เธอพร้อมจะขยายแนวทางที่ได้ปฏิบัติและเห็นผลกับตนเองมาแล้ว… ไปติดตามกันเลย

 

อาหารการกิน

           ชนิดาเริ่มให้ความสนใจกับอาหารมากขึ้น เธอหันมากินข้าวกล้องและมังสวิรัติ ทำให้น้ำหนักลดลงจนมีคนทักว่าผอมไป เธอจึงกลับมาทานอาหารปกติสลับกับอาหารมังสวิรัติ จนเดี๋ยวนี้หลายเป็นคนหุ่น fit and firm ไปแล้ว

 

เดิน

           เดินทุกเช้าในหมู่บ้านวันละ 1 ชั่วโมง ส่วนวันเสาร์-อาทิตย์ เธอกับสามีจะพากันไปเดินที่สวนพฤษศาสตร์ใกล้ๆ หมู่บ้านโดยจะเดินรอบสวนประมาณ 4 รอบเป็นระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตร จนรู้สึกเหนื่อย จึงเปลี่ยนมานั่งเล่นพักผ่อน ดูนก ดูธรรมชาติ ต้นไม้ และสายน้ำโดยรอบ ซึ่งนอกจากจะร่มรื่นแล้วที่นี่ยังมีกิจกรรมให้เลือกออกกำลังกายได้อีกหลายอย่าง เช่น วิ่ง รำไม้พลอง ไทเก็ก ฯลฯ และที่นี่เองทำให้เธอได้พบกับวิธีตอบแทนบุญคุณร่างกายวิธีใหม่ ที่กลายมาเป็นกิจกรรมออกกำลังกายสุดโปรดของเธอ

 

รำวง

           รำวงเป็นกิจกรรมออกกำลังกายที่ชนิดาชอบมาก เพราะสามารถรำและร้องไปพร้อมกันโดยไม่ต้องคำนึงว่าจะต้องรำให้ถูกต้องตามท่าทางที่กำหนดหรือต้องรำให้สวยเพื่อให้คนชื่นชม แต่เป็นการออกกำลังกายที่ทำให้ได้หัวเราช่วยบริหารปอด ได้ยิ้ม ได้เหงื่อ และที่สำคัญได้สุขภาพกายและจิตที่ดี แต่ละครั้งเธอจะรำวง 3-5 เพลง นอกจากการรำวงจะเป็นการออกกำลังกายแล้ว ชนิดามองว่า ยังเป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยและสร้างเพื่อนใหม่ด้วย

 

เข้าหาธรรมะ

           สุขภาพใจก็เป็นเรื่องสำคัญ ชนิดาเชื่อว่า กายกับใจมีความสัมพันธ์กัน ถ้าจิตใจดี ร่างกายและการดำเนินชีวิตก็จะดีไปด้วย เธอจึงใช้ ธรรมะ มาดูแลใจตัวเอง โดยเริ่มศึกษาจากเทปคำสอนของท่านพุทธทาส แห่งสวนโมกข์ ตั้งแต่อายุ 12 โดยมีคุณย่าเป็นแรงจูงใจ จากประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมา เธอได้ข้อสรุปว่า ธรรมะช่วยให้คนเรามีสติ ทำให้เป็นคนคิดดีและมองโลกในแง่ดี ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญต่อการเติบโตไปเป็นคนที่พร้อมและแข็งแรงทั้งกายและใจ

           

           ความตั้งใจที่จะตอบแทนบุญคุณร่างกายของชนิดาทำให้เธอมีสุขภาพแข็งแรงทั้งร่างกายและจิตใจ และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ให้กับชุมชนอย่างสม่ำเสมอ  หากใครสนใจก็ลองนำแนวทางเหล่านี้ไปใช้ในการดูแลรักษาสุขภาพของตัวเองบ้างก็ได้ คุณชนิดาไม่หวงวิธการแต่อย่างใด…

 

 

 

 

 

ที่มา: สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ

 

 

update 08-12-51

 

 

Shares:
QR Code :
QR Code