ตอกย้ำความสำเร็จ แคมเปญเด็ด “ให้เหล้า = แช่ง”
สสส.ร่วมกับสำนักงานเครือข่ายองค์กรงดเหล้า และภาคีเครือข่ายฯ รณรงค์ ให้เหล้า = แช่ง มาตั้งแต่ปี 2551 และรณรงค์อย่าต่อเนื่องมากว่า 7 ปี หวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อลดการซื้อเหล้าเป็นของขวัญ แทนด้วยผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่ไม่ทำลายสุขภาพ
ตัวอย่างเด็ดๆ ของภาพยนตร์รณรงค์ ได้แก่ “ทุกการให้เหล้าเท่ากับแช่ง” เน้นประเด็นว่า ทั้งๆ ที่รู้ว่าเหล้าทำให้ตับแข็ง เบาหวาน ประสาทหลอน หมดสมรรถภาพทางเพศ หลอดเลือดในสมองแตก เกิดอุบัติเหตุ ก็ยังให้เหล้าเป็นของขวัญกัน … คิดอะไรอยู่เนี่ย
“ห่วงสามี” ภรรยาวัยอาวุโสออกอาการเบื่อฝุดๆ กับการเห็นสามีรับเหล้าเป็นของขวัญทุกเทศกาล บอกชัดเจนแทนหลังบ้านทั่วประเทศว่า “พอทีเหอะ เลิกเสียที ไอ้เรื่องเอาเหล้ามาให้สามีดิชั้นน่ะ เพราะว่าสามีดิชั้นน่ะมีอยู่คนเดียว ให้เหล้าน่ะ เท่ากับแช่งนะ”
ตลกร้ายแบบ “อึ้ง ทึ่ง ขำ” ก็มีนั่นคือภาพยนตร์รณรงค์ “อย่าล้อเล่น” เมื่ออาจารย์สูงวัยให้สัมภาษณ์เชิงปรับทุกข์ว่าได้เหล้าทุกเทศกาล ปีใหม่ ตรุษไทย ตรุษฝรั่ง ต้องเอาไปเก็บบ้าง เททิ้งบ้าง ช่างภาพดันผิดคิวแบบจัดเองซะด้วย ปากเบาพูดออกมาว่าให้ผมก็ได้ อาจารย์เลยตอบซะช่างภาพอึ้งกิมกี่ “อย่าล้อเล่นนะ ให้เหล้าเนี่ยมันเท่ากับแช่ง”
เนื่องจากปีนี้เป็นปีที่ 8 ดร.นพ.บัณฑิต ศรไพศาล ผู้อำนวยการสำนักควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ จึงกล่าวว่า “กิจกรรมรณรงค์ “ให้เหล้า = แช่ง” ที่ผ่านมามีแนวโน้มประสบความสำเร็จเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จากข้อมูลเอแบคโพลล์ร่วมกับศูนย์วิจัยปัญหาสุรา (ศวส.) ปี 2556 ระบุว่า
ประชาชน 61% มองว่าไม่ควรนำเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาเป็นของขวัญ เพราะเป็นการให้สิ่งที่เป็นโทษแก่ผู้อื่น อีกทั้งแนวโน้มผู้ที่ได้รับเหล้าเป็นของขวัญลดลงทุกปี จากปี 2551 มี 30.5% และในปี 2556 ลดลงเหลือ 7.7% เพราะคนส่วนใหญ่ตระหนักแล้วว่า ไม่ต้องการให้ผู้รับของขวัญ ต้องไปประสบอุบัติเหตุ หรือได้รับผลร้ายใดๆ จากของขวัญ ที่ให้ไปด้วยความปรารถนาดี
ดังนั้น กิจกรรมนี้จะสร้างความตระหนักในพิษภัยของเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เกิดค่านิยมใหม่จัดงานเลี้ยงที่ไม่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ รวมไปถึงรณรงค์ให้ผู้ประกอบการปฏิบัติตามพ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ. 2551 ซึ่งกำหนดห้ามการจัดโชว์กระเช้าของขวัญที่มีเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ มีความผิดตามมาตรา 30 ผู้ที่ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
ที่มา : MGR Online